ฝ่ามรสุมการแก้ปัญหาทางการท่องเที่ยวมาหลายตลบ สำหรับหญิงเหล็กแห่งวงการท่องเที่ยว จุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่เพิ่งหมดวาระการทำงานตามสัญญาว่าจ้างครบ 4 ปีเต็มไปเมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา แม้ว่าถึงคราต้องพักผ่อนพร้อมให้เวลาดูแลตัวเองอย่างเต็มที่ เพื่อทดแทนกับช่วงที่ได้ตรากตรำทุ่มเทการทำงานในช่วงที่รับตำแหน่ง
ในวันนี้แทนที่จะเลือกพักผ่อน และด้วยความเป็น Working Women ที่อยู่ในกระแสเลือด จุฑามาศ เปิดใจว่า ขณะนี้ได้กลับเข้ามาทำงานในฐานะพนักททท.คนหนึ่ง ในตำแหน่งที่ปรึกษาระดับ 10 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีความรู้สึกตื่นเต้นและชื่นชอบกับตำแหน่งใหม่ เพราะบทบาทนี้ สามารถมองเห็นปัญหาและวิธีการแก้ไขได้อย่างชัดเจน
เพราะเมื่อได้ก้าวออกจากการทำงานประจำที่เป็นอยู่ ทำให้เราได้หยุดคิด และย้อนมองการทำงานที่ผ่านมาว่าสิ่งไหนดี หรือไม่ดีอย่างไร แล้วนำข้อคิดและประสบการณ์ที่ได้มาถ่ายทอดต่อไปให้น้องๆ ที่ทำงานใน ททท.ต่อไป รวมถึงยินดีที่จะให้แนวคิดในการทำงานกับผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าการททท.คนใหม่
สิ่งหนึ่งที่ต้องการฝากให้ผู้ว่าการททท.คนใหม่ เร่งดำเนินการเมื่อเข้ามารับตำแหน่งคือ เร่งประชาสัมพันธ์ และการสื่อสารที่ดีกับนานาประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่เป็นนักท่องเที่ยวเป้าหมายหลักของประเทศไทย เพื่อทำความเข้าใจกับประเทศเหล่านั้นถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในประเทศไทย มิฉะนั้นจะเกิดการชะงักของการท่องเที่ยว และเมื่อถึงตอนั้นแล้วจะแก้ไขได้ลำบาก จึงขอร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้รีบทำงานเร่งสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนมา
สำหรับนโยบายการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้ ที่ต้องการเน้นเศรษฐกิจพอเพียง หรือ พออยู่พอกินนั้น จะไม่กระทบกับแผนการทำงานของ ททท.อย่างแน่นอน เพราะ ที่ผ่านมา ททท.เน้นทำตลาดขายสินค้าทางการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยชูวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตของคนไทย ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ ที่ไม่มีชาติใดๆในโลกเหมือน ความเป็นธรรมชาติ อุทยาน ทะเล หมู่กาะ ทั้งหมด คือสิ่งที่ชาวต่างชาติประทับใจ และ ถือเป็นการกระจายรายได้เข้าชุมชนอย่างแท้จริง ช่วยให้ชาวบ้านมีรายได้ พออยู่พอกิน ไม่ต้องออกไปทำงานในเมืองหลวง
ดังนั้นมองว่า ททท.จะสามารถนำนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้กับการท่องเที่ยวได้อย่างกลมกลืน ส่วนตัวเลขนักท่องเที่ยว สำหรับปีนี้ กำลังร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องประเมินสถานการณ์อีกครั้ง เพราะปัจจัยลบที่กระทบนักท่องเที่ยวมีมาก ส่วนปีหน้า อาจต้องปรับให้สอดคล้องกับฐานที่จะคำนวณใหม่ของปีนี้เช่นกัน แต่ยอดรายได้อาจไม่ตกลงมากนัก เพราะ ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวมีกิจกรรมทำระหว่างท่องเที่ยวมากขึ้น เช่น กอล์ฟ สปา เช็คสุขภาพ ชอบปิ้ง เป็นต้น