xs
xsm
sm
md
lg

เอกชนแนะรัฐบาลใหม่สานต่อเอฟทีเอไทย-ญี่ปุ่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาคเอกชนแนะรัฐบาลใหม่เดินหน้าเจรจาเอฟทีเอ ไทย-ญี่ปุ่น มั่นใจหากมีการลงนามจะทำให้ญี่ปุ่นย้ายฐานการผลิตมาไทยเพิ่มขึ้น ชี้รัฐมนตรีพาณิชย์ใหม่จะสามารถพัฒนางานของกระทรวงได้ดี ระบุเป็นลูกหม้อเก่าไม่จำเป็นต้องเรียนรู้งาน

นายเดช พัฒนเศรษฐพงษ์
นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย กล่าวว่า ตามที่มีกระแสข่าวนายเกริกไกร จีระแพทย์ จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ เอกชนคงไม่ฝากอะไรเป็นพิเศษ เพราะถือเป็นผู้มีความรู้ความสามารถและเป็นข้าราชการเก่า ซึ่งมีประสบการณ์เจรจาการค้าภายใต้กรอบต่าง ๆ แต่ด้วยระยะเวลาของกรอบการบริหารงานรัฐบาลชุดนี้มีเพียง 1 ปี สิ่งที่รัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการให้อุตสาหกรรมไทยเดินไปข้างหน้าและภาคเอกชนเห็นว่าสิ่งที่อยากให้รัฐบาลดำเนินการต่อเนื่องคือกรอบภายใต้การเจรจาความสัมพันธ์การค้าการลงทุนเชิงลึกระหว่างไทยกับญี่ปุ่นที่ถือเป็นสิ่งจำเป็น เพราะจากคาดการณ์ปีที่ผ่านมาหากไทยและญี่ปุ่นสามารถลงนามข้อตกลงดังกล่าวร่วมกันได้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม

“ไทยมีรัฐบาลชุดใหม่ ประกอบกับญี่ปุ่นก็มีนายกรัฐมนตรีคนใหม่น่าจะเดินหน้าลงนามบันทึกข้อตกลงดังกล่าวได้ เพราะขณะนี้ญี่ปุ่นกำลังมองกลุ่มประเทศเอเชีย โดยเฉพาะไทย เวียดนาม และจีน ที่จะย้ายฐานการผลิตอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม ดังนั้น หากไทยลงนามบันทึกความเข้าใจดังกล่าวได้ เชื่อว่าญี่ปุ่นจะย้ายฐานการผลิตอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มมาประเทศไทย” นายเดช กล่าว

นายเดช กล่าวว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มปีนี้ถือว่าไม่สดใส โดยได้รับผลกระทบจากปัญหาราคาน้ำมันและความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยน จากเมื่อต้นปี 2549 อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยอยู่ที่ 39-40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่ขณะนี้อัตราแลกเปลี่ยนมาอยู่ที่ 37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าภาคอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าว ซึ่งตามคาดการณ์เมื่อปี 2549 อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 12 ทำให้มองว่าในปีนี้การขยายตัวของอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มจะเติบโตเพียงร้อยละ 5 หรือคิดเป็นมูลค่า 3,000-4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายแต่ยังเชื่อว่าเมื่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงปัญหาราคาน้ำมันและอัตราแลกเปลี่ยนมาอยู่ในระดับ 39-40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ น่าจะทำให้อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มสามารถเติบโตได้ และหากไทยสามารถลงนามความเข้าใจกับญี่ปุ่น เชื่อว่าอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มปี 2550 จะเติบโตถึงร้อยละ 8-10

ส่วนอุตสาหกรรมสิ่งทอปีนี้ปริมาณการส่งออกยังดีและได้รับผลกระทบจากปัญหาต่าง ๆ น้อยมาก ซึ่งคิดว่าน่าจะโตได้ตามเป้าหมาย โดยขยายตัวที่ร้อยละ 12 หรือคิดเป็นมูลค่า 3,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ปีนี้อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยจะมีมูลค่ากว่า 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นางจันทรา บูรณฤกษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า ขณะนี้กรมส่งเสริมการส่งออกได้เตรียมข้อมูลและเอกสารและแผนงานเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ โดยข้อมูลนี้จะเป็นแผนปรับปรุงโครงสร้างใหม่ ซึ่งไม่เพียงดูแลเฉพาะส่งเสริมการส่งออก แต่จะดูแลการลงทุนในต่างประเทศของผู้ประกอบการไทยและหาพันธมิตรใหม่ ๆ เพื่อให้นักลงทุนไทยกับต่างประเทศสามารถดำเนินธุรกิจร่วมกันต่อไปได้ รวมทั้งยังสรรหาวัตถุดิบที่มีต้นทุนต่ำเพื่อให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสามารถผลิตสินค้าต้นทุนต่ำอีกด้วย ซึ่งการกำหนดเป้าหมายส่งออกในปี 2550 จะประชุมร่วมกับภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี และคาดว่าจะประชุมเพื่อกำหนดเป้าหมายส่งออกปีหน้าในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยการกำหนดตัวเลขส่งออกจะดูปัจจัยตลาดโลกและมุมมองการประเมินตัวเลขเศรษฐกิจโลกของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) รวมถึงจะดูอัตราการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าเพื่อนำมาวิเคราะห์ประกอบการกำหนดตัวเลขเป้าหมายในปีหน้าให้ชัดเจน ซึ่งที่ผ่านมาได้ฝากให้ทุกกลุ่มอุตสาหกรรมกำหนดแผนงานในการทำตลาดในต่างประเทศด้วย และยังเชื่อมั่นว่าการส่งออกในปี 2549 ที่เหลือเวลาอีก 3-4 เดือน การส่งออกสินค้าไทยน่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้ที่ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15-17 หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 130,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นางจันทรา กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 6-15 ตุลาคมนี้ กรมได้ร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทยจัดงานแสดงสินค้าเสื้อผ้าส่งออก 2006 ครั้งที่ 21 ที่ศูนย์แสดงสินค้ากรมส่งเสริมการส่งออก ถนนรัชดาภิเษก โดยภายในงานจะนำเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่มีคุณภาพและเป็นเสื้อผ้าส่งออกมาจำหน่ายในราคาถูก จึงอยากเชิญชวนประชาชนให้มาเลือกชมสินค้า ซึ่งจะได้เห็นศักยภาพของอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย และเป้าหมายการจัดงานในปีหน้ากรมจะเน้นสร้างแบรนด์สินค้าไทยเพื่อให้สินค้าไทยที่เป็นแบรนด์เนมไทยให้เป็นที่ยอมรับ และจากการดูตัวเลขอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทยสามารถส่งออกต่างประเทศในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2549 กว่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเชื่อมั่นว่าตลอดทั้งปีที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายว่าอุตสาหกรรมนี้จะส่งออกได้ 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงอยากเชิญชวนประชาชนมาชมงานแสดงสินค้าดังกล่าว โดยเปิดจำหน่ายตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น.
กำลังโหลดความคิดเห็น