ผู้ว่าการ ธปท.ชี้การขยายตัวทางเศรษฐกิจต้องสมดุลกับความพอเพียง และจัดสรรทรัพยากรให้เพียงพอและต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขาดแคลนและวิกฤติเหมือนปี 2540 ยืนยันเศรษฐกิจพอเพียงช่วยสร้างความสมดุลทางเศรษฐกิจ พร้อมแนะเดินหน้าแผนฯ 10 อย่างเต็มที่ ขณะที่ “ธาริษา” ยืนยันยังไม่มีการหารือตำแหน่งผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล กล่าวถึงการใช้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงกับระบบเศรษฐกิจเสรีการตลาด ว่า ในระบบเศรษฐกิจแบบเสรี หากไม่ใช้แนวทาง เศรษฐกิจพอเพียง การขยายตัวของเศรษฐกิจก็จะเป็นไปอย่างรวดเร็วจนเกินกำลังและอาจทำให้เกิดวิกฤติได้เหมือนปี 2540 ที่เป็นตัวอย่างชัดเจนของการลงทุนเกินตัว โดยไม่ให้ความสำคัญกับความพอเพียง จนเงินออมที่มีอยู่ไม่เพียงพอ ต้องอาศัยเงินทุนจากต่างชาติจำนวนมหาศาล เมื่อมีการดึงเม็ดเงินเหล่านั้นกลับก็ทำให้ระบบเศรษฐกิจไทยได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง
ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวอีกว่า เศรษฐกิจพอเพียงจะเป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบเสรีการตลาด โดยมีองค์ประกอบสำคัญคือ 1.เศรษฐกิจสามารถขยายตัวได้แต่ต้องไม่เกินกำลัง ซึ่งจะไม่กระทบต่อเงินเฟ้อและไม่มีผลกระทบจากเงินทุนต่างชาติ 2.การขยายตัวทางเศรษฐกิจจะต้องให้ความสำคัญกับการจัดการเสริมทรัพยากรของชาติให้เพียงพอและต่อเนื่อง ให้ทันต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ไม่ให้เกิดการขาดแคลน และ 3.การขยายตัวของเศรษฐกิจ จะต้องดูแลไม่ให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ดุลยภาพ และคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
“ระบบเสรีการตลาดเพียงอย่างเดียว โดยไม่ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง จะไปไม่รอด เหตุการณ์ในอดีตได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วอย่างชัดเจน ดังนั้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจจึงต้องเป็นไปด้วยความพอเพียง บางคนคิดตามทฤษฎีตะวันตก และเห็นว่าเศรษฐกิจพอเพียงเป็นตัวฉุดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เป็นเรื่องที่ไม่จริง ในทางตรงกันข้ามเศรษฐกิจพอเพียงเป็นตัวสร้างที่ทำให้เกิดความสมดุล ขยายตัวต่อเนื่องไปเรื่อย เป็นประโยชน์ต่อประเทศ” ผู้ว่าการ ธปท.กล่าว
สำหรับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า ที่ผ่านมาการกระจายรายได้ยังไม่ดีเท่าที่ควร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถูกทำลายไปมาก ขณะนี้ยังเห็นว่า ไทยยังไม่ได้ทำอะไรเกินกำลัง แต่ต้องเอาใจใส่ ต้องดูแล ยังไม่สายเกินไป สำหรับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติทั้ง 9 แผน ได้ส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างดี โดยแผนฯ 10 จะเน้นความพอเพียงและความพอดี ดังนั้นจะต้องทำแผนฯ 10 อย่างจริงจัง
ด้านนางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่าการ ธปท. ซึ่งได้รับการคาดหมายว่า จะเป็นผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่ หลังจาก ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เข้าร่วมคณะรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้หารือกันเกี่ยวกับผู้ว่าการ ธปท.คนต่อไป และ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ก็ไม่ได้มอบหมายงานพิเศษใด ๆ ให้ โผที่ออกมาก็เป็นเพียงโผรายวัน ที่ยังไม่มีความชัดเจน โดยงานหลักของ ธปท.ยังอยู่ที่ 3 ด้านคือ ระบบชำระเงิน เศรษฐกิจของประเทศ และสถาบันการเงิน ซึ่งไม่ได้มีการเร่งรีบเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นพิเศษ
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล กล่าวถึงการใช้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงกับระบบเศรษฐกิจเสรีการตลาด ว่า ในระบบเศรษฐกิจแบบเสรี หากไม่ใช้แนวทาง เศรษฐกิจพอเพียง การขยายตัวของเศรษฐกิจก็จะเป็นไปอย่างรวดเร็วจนเกินกำลังและอาจทำให้เกิดวิกฤติได้เหมือนปี 2540 ที่เป็นตัวอย่างชัดเจนของการลงทุนเกินตัว โดยไม่ให้ความสำคัญกับความพอเพียง จนเงินออมที่มีอยู่ไม่เพียงพอ ต้องอาศัยเงินทุนจากต่างชาติจำนวนมหาศาล เมื่อมีการดึงเม็ดเงินเหล่านั้นกลับก็ทำให้ระบบเศรษฐกิจไทยได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง
ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวอีกว่า เศรษฐกิจพอเพียงจะเป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบเสรีการตลาด โดยมีองค์ประกอบสำคัญคือ 1.เศรษฐกิจสามารถขยายตัวได้แต่ต้องไม่เกินกำลัง ซึ่งจะไม่กระทบต่อเงินเฟ้อและไม่มีผลกระทบจากเงินทุนต่างชาติ 2.การขยายตัวทางเศรษฐกิจจะต้องให้ความสำคัญกับการจัดการเสริมทรัพยากรของชาติให้เพียงพอและต่อเนื่อง ให้ทันต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ไม่ให้เกิดการขาดแคลน และ 3.การขยายตัวของเศรษฐกิจ จะต้องดูแลไม่ให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ดุลยภาพ และคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
“ระบบเสรีการตลาดเพียงอย่างเดียว โดยไม่ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง จะไปไม่รอด เหตุการณ์ในอดีตได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วอย่างชัดเจน ดังนั้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจจึงต้องเป็นไปด้วยความพอเพียง บางคนคิดตามทฤษฎีตะวันตก และเห็นว่าเศรษฐกิจพอเพียงเป็นตัวฉุดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เป็นเรื่องที่ไม่จริง ในทางตรงกันข้ามเศรษฐกิจพอเพียงเป็นตัวสร้างที่ทำให้เกิดความสมดุล ขยายตัวต่อเนื่องไปเรื่อย เป็นประโยชน์ต่อประเทศ” ผู้ว่าการ ธปท.กล่าว
สำหรับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า ที่ผ่านมาการกระจายรายได้ยังไม่ดีเท่าที่ควร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถูกทำลายไปมาก ขณะนี้ยังเห็นว่า ไทยยังไม่ได้ทำอะไรเกินกำลัง แต่ต้องเอาใจใส่ ต้องดูแล ยังไม่สายเกินไป สำหรับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติทั้ง 9 แผน ได้ส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างดี โดยแผนฯ 10 จะเน้นความพอเพียงและความพอดี ดังนั้นจะต้องทำแผนฯ 10 อย่างจริงจัง
ด้านนางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่าการ ธปท. ซึ่งได้รับการคาดหมายว่า จะเป็นผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่ หลังจาก ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เข้าร่วมคณะรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้หารือกันเกี่ยวกับผู้ว่าการ ธปท.คนต่อไป และ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ก็ไม่ได้มอบหมายงานพิเศษใด ๆ ให้ โผที่ออกมาก็เป็นเพียงโผรายวัน ที่ยังไม่มีความชัดเจน โดยงานหลักของ ธปท.ยังอยู่ที่ 3 ด้านคือ ระบบชำระเงิน เศรษฐกิจของประเทศ และสถาบันการเงิน ซึ่งไม่ได้มีการเร่งรีบเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นพิเศษ