xs
xsm
sm
md
lg

เอ็มโพเรี่ยมยันไร้แผนขยายสาขา อัดอีเวนต์ต่อเนื่องรักษาฐานลูกค้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอ็มโพเรี่ยม เมินบรรยากาศค้าปลีกสะเทือน การเมืองระอุ ยันไม่มีผลต่อการตัดสินใจกลุ่มลูกค้า พร้อมประกาศยังคงจัดแคมเปญ อีเว้นต์ต่อในช่วงครึ่งปีหลังอย่างต่อเนื่อง เชื่อมั่นสเปนดิ้งลูกค้าต่างชาติยังดีอยู่ ปิดยอดสิ้นปีน่าโตได้อีก 10%

นางสาวณัฐศมน วงศ์กิตติพัฒน์ ผู้บริหารฝ่ายการตลาดของ ดิเอ็มโพเรี่ยม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ในปัจจุบันกรณีที่ภาครัฐต้องการให้ผู้ประกอบการค้าปลีกชะลอการขยายสาขาออกไปก่อนนั้นมีความเห็นว่า เรื่องดังกล่าวตนยังไม่ได้มีการศึกษารายละเอียด แต่หากมีการออกมาตรการมาบังคับจริง บริษัทฯไม่น่าได้รับผลกระทบมากนัก เพราะนโยบายหลักของบริษัทฯยังไม่มีแผนที่จะขยายสาขาใหม่ในเวลานี้ โดยจะเน้นการปรับปรุงสาขาเก่าที่มีอยู่ให้ดีขึ้น และตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้แผนการดำเนินงานของบริษัทฯจะเน้นการทำตลาด โดยการออกแคมเปญเฉลี่ยแล้วจะมีไตรมาสละ 1- 2 แคมเปญ รวมถึงการจัดอีเวนต์ต่างๆไว้อยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ตลาดไว้เพื่อเป็นการดึงดูดความน่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มลูกค้าประจำ

ปัจจุบันจำนวนฐานลูกค้าของห้างฯเป็นลูกค้าในระดับไฮเอนด์ทั้งชาวต่างชาติและคนไทย โดยแบ่งเป็นสัดส่วนออกเป็น 30 – 70% ซึ่งมองว่าเศรษฐกิจไม่มีผลต่อคนกลุ่มนี้มากเท่าไหร่นักและเชื่อว่าจากสภาวะการเมืองรวมถึงปัญหาเรื่องการต่อต้านค้าปลีกที่เกิดขึ้นนั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของบริษัทฯแต่อย่างใด บริษัทฯยังเชื่อว่า สุขุมวิทเป็นย่านที่มีศักยภาพมาก เพราะเป็นย่านธุรกิจ มีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเข้ามาพักอาศัยเป็นจำนวนมาก โดยปัจจุบันเรามีฐานลูกค้าเป็นชาวต่างประเทศ 20-30% อีกทั้งยังมีผู้พักอาศัยที่มีกำลังซื้อ และจากสภาพการเมืองในปัจจุบันมีทิศทางที่ดีขึ้นยิ่งทำให้เกิดผลดีต่อบริษัท

ที่ผ่านมาถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะมีการชะลอตัวนั้นแต่เอ็มโพเรี่ยมก็มีการเติบโตได้แบบก้าวกระโดดมาโดยตลอดซึ่งสามารถเติบโตได้กว่า 8 – 10% ทุกๆปี ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับช่วงภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันก็นับว่าประสบความสำเร็จได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้จากแผนการดำเนินงานที่บริษัทฯได้วางแผนการทำตลาดโดยการจัดแคมเปญใหญ่ๆ อีกทั้งอีเวนต์ที่มีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้นในช่วงไตรมาส 3 และ 4 เชื่อว่าจะยังรักษาระดับการเติบโตได้

“จากเหตุการณ์การเมืองที่มีการปฏิรูปขึ้นนั้นมองในแง่ดี ต่อภาพรวมของเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้นปัญหาทุกอย่างเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น อย่างไรก็ตามจากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นประจวบเหมาะกับการเมืองเริ่มมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น บริษัทฯมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศจะมีการเติบโตขึ้น เช่นเดียวกับบริษัทฯที่คาดว่าจะสามารถมียอดการเติบโตได้อีก 10% หรือ คิดเป็นมูลค่ากว่า 7 พันล้านบาท” นางสาวณัฐศมนกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น