ลูกหม้อเก่า”กุ๊งกิ๊ง-ยูมี”แยกตัวปั้นแบรนด์ใหม่ปิคนิค ชิงชิ้นเค้กตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกว่า 9 พันล้าน ทุ่ม 50ล้านบาท ผุดโรงงานย่านสมุทรสาคร ชูรสชาติแปลก ปลาร้าทรงเครื่อง-กะปิเสวย เจาะกลุ่มอีสานอินเตอร์ สร้างความต่างมาม่า ไวไว ยำยำ ปีแรกขอแชร์ 2%
นางสาวทวิพร ศรีสุริฉัน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรี โอ ฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและซุปตราปิคนิค เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า จากการที่นายทักษิณ ศรีสุริฉัน ได้คลุกคลีกับวงการอาหารสำเร็จรูป โดยเฉพาะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาร่วม 15 ปี ภายใต้บริษัท อะเมซิ่ง ฟู้ด จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายปลากระป๋องปุ้มปุ้ย และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยูมี กุ๊งกิ๊ง มานานหลายปี
แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ได้ตัดสินใจแยกตัวออกมา เพื่อดำเนินธุรกิจอาหารสำเร็จรูปของตนเอง ภายใต้บริษัท ทรี โอ ฟู้ด ด้วยทุนจดทะเบียน 18 ล้านบาท โดยได้ทุ่มงบประมาณ 50 ล้านบาท สร้างโรงงานที่ จ.สมุทรสาคร บนพื้นที่จำนวน 10 ไร่ เมื่อปี 2546 แต่พื้นที่ที่ใช้อยู่ขณะนี้ปัจจุบันมี 4 ไร่ ทั้งนี้การดำเนินธุรกิจอาหารสำเร็จรูปเป็นของตระกูล”ศรีสุริฉัน” 100% โดยปัจจุบัน นายทักษิณ ศรีสุริฉัน ดำรงตำแหน่งเป็น กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรี โอ ฟู้ด
สำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในช่วงแรกจะเน้นการรับจ้างผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั้งภายในประเทศ โดยผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปฟอร์มี กุ๊งกิ๊งให้กับบริษัทเครือสหพัฒน์ ส่วนต่างประเทศ ได้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบรรจุภัณฑ์ถ้วยส่งออก จากนั้นมาเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ได้ปั้นแบรนด์ปิคนิค ซึ่งเป็นแบรนด์ของตนเองขึ้นมาทำตลาด โดยประเดิมเปิดตัวซุป 3 รสชาติ ได้แก่ ไก่ หมู ข้าวโพด ทั้งนี้เหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจลงสู่ตลาดซุปก่อน เนื่องจากการแข่งขันไม่รุนแรง เพราะคู่แข่งที่อยู่ในตลาดมีน้อยราย
“ซุปปิคนิคเปิดตัวมาพร้อมกับ”โวโน” ของค่ายยักษ์ใหญ่อายิโนะโมะโต๊ะ แต่ปิคนิคมีความแตกต่าง เพราะเป็นบรรจุภัณฑ์ถ้วยจำหน่ายราคา 10 บาท ส่วนโวโนในรูปแบบซอง อย่างไรก็ตามถือว่าซุปปิคนิค ได้รับการตอบรับอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ตลาดซุปก็ยังไม่ได้มีอัตราการเติบโต เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคไทย ไม่ค่อยนิยมรับประทานซุปมากนัก”
แตกไลน์ปิคนิคลุยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
นางสาวทวิพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุดบริษัทได้แตกโปรดักส์ไลน์ใหม่ แต่ยังอยู่กลุ่มอาหารสำเร็จรูป โดยเปิดตัวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปภายใต้แบรนด์ปิคนิค ด้วยการเน้นจุดเด่นด้านรสชาติที่แปลกใหม่ และไม่มีผู้ประกอบการรายใดทำตลาด ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทเป็นรายเล็ก เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งที่อยู่ในตลาด 3 ค่ายใหญ่ ได้แก่ ไวไว มาม่า และยำยำ มีการทำตลาดมานานกว่า 30 ปี ส่วนแบ่งหลักๆ มาจาก 3 ค่ายนี้ ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ประเดิมเปิดตัว 2 รสชาตินำร่อง ได้แก่ รสกะปิเสวย และรสปลาร้าทรงเครื่อง ราคา 5 บาท
สำหรับกำลังการผลิตในช่วงแรก 5 หมื่นซองต่อวัน ขณะที่ช่องทางจำหน่ายในขณะนี้ วางจำหน่ายเฉพาะเซเว่นอีเลฟเว่นแห่งเดียวจำนวน 700 แห่งทั่วประเทศ และมีแผนที่จะวางสินค้าครบทุกสาขา ล่าสุดได้เตรียมจัดกิจกรรมร่วมกับเซเว่นอีเลฟเว่น เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง และติดป้ายโฆษณาตามร้านค้าทั่วไป ทั้งนี้ในปีแรกตั้งเป้าจะมีส่วนแบ่ง 2% จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 9,000 ล้านบาท จากปัจจุบันมาม่าเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 50% ส่วน”ไวไว” มีส่วนแบ่ง 28% และยำยำ 15%
ส่วนปีหน้านี้บริษัทฯ มีแผนที่จะเพิ่มอีก 2 รสชาติใหม่ พร้อมกันนี้ยังมีแผนส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ลาว พม่า เขมร และภายใน 5 ปีนี้จะผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบรรจุภัณฑ์ถ้วยจำหน่าย
ทั้งนี้จากการดำเนินธุรกิจมา 3 ปี ช่วง 1 ปีแรกบริษัทเน้นดำเนินธุรกิจเป็นผู้รับจ้างผลิต 100% ต่อมาปีที่สองและสาม เริ่มขยายธุรกิจด้วยการปั้นแบรนด์ของตัวเอง โดยเปิดตัวซุปและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ทั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงทางธุรกิจ โดยขณะนี้สัดส่วนระหว่างการรับจ้างผลิตเหลือเป็น 70% ส่วนอีก 30%มาจากแบรนด์ปิคนิค โดยตั้งเป้า 3 ปีจากนี้ รายได้จากการรับจ้างผลิตเหลือ 50% และอีก 50% เป็นแบรนด์ปิคนิค