เปิดสนามบินสุวรรณภูมิวันที่ 2 พบว่าปัญหาต่าง ๆ น้อยลง หลังวานนี้ปั่นป่วนผู้โดยสารรอกระเป๋านาน 2-5 ชั่วโมง ด้านผู้บริหารการบินไทยยืดอกรับผิดชอบและสั่งย้ายผู้รับผิดชอบทันที ในขณะนี้ ทอท.-การบินไทย ระบุพร้อมประสานงานแก้ปัญหา มอนิเตอร์ 2 สัปดาห์ติดต่อ
นายโชติศักดิ์ อาสภวิริยะ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับการให้บริการผู้โดยสาร เมื่อคืนที่ผ่านมา ถือว่าได้ปรับตัวดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับเมื่อวานนี้ ซึ่ง ทอท.และ บมจ.การบินไทย ได้เฝ้าระวังตลอดเมื่อคืนนี้ตั้งแต่ 21.00-24.00 น. ที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ปริมาณผู้โดยสารบินคับคั่งมากที่สุด ซึ่งการให้บริการผ่านช่วงดังกล่าวไปได้ด้วยดี และในช่วงเช้านี้ระบบเช็กอิน ระบบสายพานลำเลียงก็สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้บริหาร ทอท.จะเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 2 สัปดาห์ จนมั่นใจว่า ระบบทั้งหมด ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นกับกระเป๋าสัมภาระ ที่ผ่านมาที่เกิดการล่าช้าขึ้น หลายฝ่ายมองว่า การที่ ทอท. มีข้อโต้แย้งกับ การบินไทยนั้น นายโชติศักดิ์ ยืนยันว่าได้มีการพูดคุยและทำงานร่วมกับเรืออากาศโท อภินันทน์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย มาโดยตลอด และถึงขณะนี้ การบินไทยได้ปรับปรุง ในส่วนของงานที่ผิดพลาดไปแล้ว ดังนั้น 2 หน่วยงานจะดูแลการใกล้ชิดในการดูแลผู้โดยสาร จะไม่มีปัญหา
เรืออากาศโท อภินันทน์ กล่าวว่า ขออภัยผู้โดยสารทุกคนที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งการบินไทยขอรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น จากระบบลำเลียงกระเป๋าที่ล่าช้า โดยเมื่อวานนี้ ขอยอมรับว่าได้รับรายงานผิด และการบินไทยได้สั่งย้ายผู้รับผิดชอบ เรื่องระบบลำเลียงกระเป๋าแล้ว และมอบหมายให้บุคคลใหม่เข้ามารับผิดชอบ ซึ่งนับจากนี้ จากการประสานเข้าไปดูแลผู้โดยสารก็คาดว่าปัญหาต่าง ๆ จะน้อยลง
นายสนธิ เอมะรุจิ รองประธานกรรมการบริษัทบริษัท ไทยแอร์พอร์ต กราวด์ เซอร์วิสเซส จำกัด (TAGS) กล่าวว่า ปัญหากระเป๋าสัมภาระที่ล่าช้า ถือว่าเป็นปัญหาเล็กน้อยเท่านั้น และถือการเปิดสุวรรณภูมิครั้งนี้ถือว่า ทอท.สอบผ่าน เนื่องจากผลของการให้บริการไม่ได้ทำให้ตารางการบินของโลกยุ่งเหยิง และปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการบริการเที่ยวบินวานนี้ที่มีกว่า 800 เที่ยว อย่างไรก็ตาม บทบาทหน้าที่ของแท็กส์จะดูแลการให้บริการในภาคพื้นดิน ตามที่แท็กส์เป็นคู่สัญญากับการบิน ไทย และเชื่อว่างานระบบต่าง ๆ หลังจากนี้จะลงตัวมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ภาพรวมสำหรับการให้บริการของสุวรรณภูมิเมื่อคืนที่ผ่านมา แม้ช่วงกลางคืนจะเป็นช่วงเวลาที่มีผู้โดยสารคับคั่งมากที่สุด แต่ระบบต่าง ๆ ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ทั้งระบบเช็กอิน ระบบ กระเป๋าสายพานลำเลียง แม้จะมีการให้บริการล่าช้าบ้างแต่ไม่ส่งผลกระทบตารางการบินจนทำให้การบินล่าช้า และภาพรวมระบบการให้บริการผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในวันนี้ปรับตัวดีขึ้นแม้จะมีปัญหาระบบออนไลน์ยังล่าช้า เมื่อเปรียบเทียบกับท่าอากาศยานดอนเมือง ที่ใช้เวลาเฉลี่ยของการเช็กอินเพียง 2-3 นาทีเท่านั้น แต่ระบบเช็กอินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 4-5 นาที
นอกจากนี้สิ่งที่ยังมีปัญหามากที่สุด คือจอแสดงผลตารางการบิน ที่มีความผิดพลาดชัดเจน เช่น ผู้โดยสารที่จะเดินทางภายในประเทศ ซึ่งจะต้องใช้เคานเตอร์แถว C เท่านั้น แต่จอแสดงผลกลับระบบแถวรวม 3 แถว คือ CHJ ซึ่งทำให้ผู้โดยสารหลงทางบ่อย โดยเมื่อเจ้าหน้าที่สายการบิน สอบถามผู้วางระบบ บริษัท ท่าอากาศยานไทย ก็ได้รับคำตอบว่าจะใช้เวลาแก้ไขประมาณ 1 อาทิตย์ ไม่นับรวมปัญหาจอแสดงผลตารางการบินล่าช้า บางครั้งเครื่องบินที่มีการนำเครื่องขึ้นบินไปแล้ว แต่ยังปรากฏเที่ยวบินบนจอซึ่งสร้างความสับสนได้ ในขณะที่ผู้เดินทางส่วนใหญ่ต่างยืนยันว่าจอแสดงผลตารางการบินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีขนาดตัวหนังสือที่เล็กเกินไปเมื่อเทียบกับสนานบินอื่น ๆ
สำหรับปัญหาวานนี้ (28 ก.ย.) มีปัญหาการลำเลียงกระเป๋าล่าช้า เกิดจากการบินไทยที่เป็นผู้รับจ้างสายการบินต่าง ๆ มีการดำเนินการล่าช้า เริ่มตั้งแต่เที่ยวบินแรกของสวิตแอร์ที่มาจากกรุงเคียฟประเทศยูเครน ที่ล่าช้าประมาณ 11.30 ชั่วโมง ในขณะที่ ส่วนที่ล่าช้าที่สุดคือ ผู้โดยสารของสายการบิน วันทูโก บริษัทโอเรียนท์ไทย ที่มาจากท่าอากาศยาน อินชอน เกาหลีใต้มาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประมาณ 16.00 น.และรอกระเป๋าถึงเวลา 20.00 น. ก็ยังไม่ได้รับกระเป๋า จนผู้โดยสารเกิดความเครียด และรวมตัวกันประมาณ 400 คน ประท้วง เดินตะโกน ไปรอบ ๆ อาคารผู้โดยสาร และเกิดการชกต่อยเจ้าหน้าที่ของโอเรียนท์ไทย จนกระทั่งนาย อภินัทนท์และ นายโชติศักดิ์ ได้เข้าไปแก้ปัญหาด้วยตนเองด้วยการดูแลเรื่องกระเป๋าผู้โดยสาร และไปพบกระเป๋า ผู้โดยสารที่การบินไทย ลำเลียงไปสายพานผิดไปที่สายพานสำหรับผู้โดยสารในประเทศ สายพานที่ 1 แทนสายพานที่ต้องส่งไปที่สายพานที่ 23 ในที่สุดผู้โดยสารได้รับกระเป๋าในเวลา 21.00 น.