กรมศุลกากรประกาศเพิ่มวงเงินสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ สำหรับผู้โดยสารจาก 10,000 บาท เป็น 20,000 บาท รวมทั้งเปิดจุดบริการระบบตรวจสินค้าและชำระภาษีสำหรับผู้ที่มีสินค้าต้องสำแดง มั่นใจศักยภาพของเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์รองรับการตรวจสินค้านำเข้าที่ท่าอากาศยานได้เพียงพอกับปริมาณผู้โดยสาร
นายไพศาล ชื่นจิตร ผู้อำนวยการสำนักบริการศุลกากรตรวจของผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า เดิมข้อกำหนดการอนุญาตให้ผู้โดยสารซื้อสินค้านำเข้าจากต่างประเทศได้ไม่เกิน 10,000 บาท โดยไม่ต้องเสียภาษี แต่เพื่อเป็นการรองรับการเปิดใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรมศุลกากรจึงได้ขยายวงเงินสำหรับซื้อสินค้านำเข้า ซึ่งเป็นของใช้ส่วนตัว หรือเพื่อใช้ในวิชาชีพ จึงขยายวงเงินเพิ่มเป็น 20,000 บาท
นอกจากนี้ ยังเปิดบริการระบบการตรวจสินค้าและชำระภาษีสำหรับผู้ที่มีสินค้าต้องสำแดงเพื่อเสียภาษี โดยตั้งจุดบริการ ณ จุดเดียวกันในช่องผู้โดยสารขาเข้า เพื่อชำระภาษีและผู้โดยสารผ่านด้วยความรวดเร็ว จากเดิมจะต้องนำสินค้าที่ต้องชำระภาษีไปยังคลังสินค้า ซึ่งอยู่ภายนอกอาคารผู้โดยสาร ซึ่งเสียเวลานาน ขณะเดียวกัน กรมศุลกากรได้ติดตั้งเครื่องเอกซเรย์สัมภาระเพื่อตรวจสินค้าสำหรับผู้โดยสารที่นำเข้ามา จำนวน 20 เครื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกโดยไม่ต้องเปิดกระเป๋าสัมภาระรื้อค้นสิ่งของของผู้โดยสาร เพราะจะสามารถตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว สำหรับสินค้าที่อนุญาตให้นำเข้าคือ บุหรี่ไม่เกิน 1 คอตตอน สุราไม่เกิน 1 ลิตร ของใช้ส่วนตัวประเภทต่าง ๆ
ส่วนการเตรียมรองรับผู้โดยสารที่จะเดินทางเข้ามาเที่ยวบินแรกของสายการบินแอร์โร่สวิต จากรัสเซีย-สุวรรณภูมิ เวลา 04.10 น. จะมีนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อธิบดีกรมศุลกากร เดินทางมาต้อนรับผู้โดยสารคนแรกที่ผ่านพิธีการศุลกากร และจะมีการติดเข็มเป็นที่ระลึก รวมทั้งของที่ระลึกทั่วไปให้กับผู้โดยสาร โดยเชื่อมั่นว่า เมื่อมีผู้โดยสารเดินทางเข้ามาสูงสุด 3,000 คน ทางกรมศุลกากรจะสามารถรองรับการตรวจสินค้าได้ เพราะมีช่องตรวจผู้โดยสารขาเข้ารวม 20 ช่อง และเพิ่มเจ้าหน้าที่ถึง 350 คน
นายไพศาล ชื่นจิตร ผู้อำนวยการสำนักบริการศุลกากรตรวจของผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า เดิมข้อกำหนดการอนุญาตให้ผู้โดยสารซื้อสินค้านำเข้าจากต่างประเทศได้ไม่เกิน 10,000 บาท โดยไม่ต้องเสียภาษี แต่เพื่อเป็นการรองรับการเปิดใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรมศุลกากรจึงได้ขยายวงเงินสำหรับซื้อสินค้านำเข้า ซึ่งเป็นของใช้ส่วนตัว หรือเพื่อใช้ในวิชาชีพ จึงขยายวงเงินเพิ่มเป็น 20,000 บาท
นอกจากนี้ ยังเปิดบริการระบบการตรวจสินค้าและชำระภาษีสำหรับผู้ที่มีสินค้าต้องสำแดงเพื่อเสียภาษี โดยตั้งจุดบริการ ณ จุดเดียวกันในช่องผู้โดยสารขาเข้า เพื่อชำระภาษีและผู้โดยสารผ่านด้วยความรวดเร็ว จากเดิมจะต้องนำสินค้าที่ต้องชำระภาษีไปยังคลังสินค้า ซึ่งอยู่ภายนอกอาคารผู้โดยสาร ซึ่งเสียเวลานาน ขณะเดียวกัน กรมศุลกากรได้ติดตั้งเครื่องเอกซเรย์สัมภาระเพื่อตรวจสินค้าสำหรับผู้โดยสารที่นำเข้ามา จำนวน 20 เครื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกโดยไม่ต้องเปิดกระเป๋าสัมภาระรื้อค้นสิ่งของของผู้โดยสาร เพราะจะสามารถตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว สำหรับสินค้าที่อนุญาตให้นำเข้าคือ บุหรี่ไม่เกิน 1 คอตตอน สุราไม่เกิน 1 ลิตร ของใช้ส่วนตัวประเภทต่าง ๆ
ส่วนการเตรียมรองรับผู้โดยสารที่จะเดินทางเข้ามาเที่ยวบินแรกของสายการบินแอร์โร่สวิต จากรัสเซีย-สุวรรณภูมิ เวลา 04.10 น. จะมีนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อธิบดีกรมศุลกากร เดินทางมาต้อนรับผู้โดยสารคนแรกที่ผ่านพิธีการศุลกากร และจะมีการติดเข็มเป็นที่ระลึก รวมทั้งของที่ระลึกทั่วไปให้กับผู้โดยสาร โดยเชื่อมั่นว่า เมื่อมีผู้โดยสารเดินทางเข้ามาสูงสุด 3,000 คน ทางกรมศุลกากรจะสามารถรองรับการตรวจสินค้าได้ เพราะมีช่องตรวจผู้โดยสารขาเข้ารวม 20 ช่อง และเพิ่มเจ้าหน้าที่ถึง 350 คน