“สมชัย สวัสดีผล” ยืนยันว่า ได้เตรียมแผนสำรองฉุกเฉินสำหรับระบบสารสนเทศท่าอากาศยานไว้แล้ว ในกรณีที่มีปัญหาระบบล่ม ส่วนระบบไฟฟ้าก็มีการประสานงานกับทุกหน่วยงานไว้แล้ว ทำให้มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้น
นายสมชัย สวัสดีผล ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวถึงแผนสำรองไอทีของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า ได้มีการเตรียมแผนสำรองฉุกเฉิน กรณีที่ระบบสารสนเทศท่าอากาศยาน (AIMS ) ไม่ทำงาน ซึ่งมีทั้งหมด 45 ระบบ โดยได้เตรียมระบบย่อยสำรองให้สามารถทำงานได้ด้วยตัวเองหากระบบใหญ่ล่ม เช่นการประกาศสายการบิน สามารถใช้ข้อมูลจากซีดีสำรองได้ หรือระบบสายพานลำเลียง หากคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมกับเครือข่ายซีต้าไม่ทำงาน ก็สามารถใช้คนคัดแยกแทนได้ เป็นต้น
ส่วนระบบเช็กอินตั๋วโดยสาร ซึ่งเคยเกิดปัญหาไฟฟ้าดับเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา นายสมชัยกล่าวว่า เป็นเพราะคนไปปิดสวิทช์ แต่สำหรับวันใช้งานจริงเชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหา อย่างไรก็ตาม ท่าอากาศยานได้เชื่อมระบบเช็กอินแบบออนไลน์กับสายการบินไว้ 360 เคาน์เตอร์ ซึ่งเรียกว่า DCS แต่ถ้าล่มหรือทำงานได้ไม่เต็มที่ จะใช้แผนสำรอง LDCS ด้วยเคาน์เตอร์เช็กอินอีก 100 เคาน์เตอร์ ที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับระบบสายพานลำเลียง และหากทั้งสองระบบใช้การไม่ได้ ก็จะใช้ระบบแมนวล เขียนตั๋วโดยสารด้วยมือ
นอกจากนี้ ยังยืนยันว่าระบบไฟฟ้าที่หลายคนเป็นห่วง จะไม่มีปัญหาแน่นอน รวมทั้งจะไม่มีปัญหาเรื่องความสับสนของหลุมจอดที่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์เข้าไปควบคุมสั่งการ เนื่องจากได้ประสานหน่วยปฏิบัติการวิทยุการบิน และผู้รับสัมปทานภาคพื้นไว้อย่างดีแล้ว
ด้านระบบสื่อสารภายในตัวอาคาร บริการโทรศัพท์มือถือทุกระบบสามารถรองรับการโทรเข้าออกพร้อมกัน 50,000 เลขหมาย ขณะที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะ แม้ว่าจะมีจำนวนน้อย แต่คาดว่าจะมีการใช้งานไม่มากนัก เพราะผู้โดยสารส่วนใหญ่น่าจะใช้โทรศัพท์มือถือมากกว่า ทั้งนี้ จะมีการติดตามผลตลอด 6 เดือนนับจากวันเปิดใช้งาน
นายสมชัย สวัสดีผล ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวถึงแผนสำรองไอทีของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า ได้มีการเตรียมแผนสำรองฉุกเฉิน กรณีที่ระบบสารสนเทศท่าอากาศยาน (AIMS ) ไม่ทำงาน ซึ่งมีทั้งหมด 45 ระบบ โดยได้เตรียมระบบย่อยสำรองให้สามารถทำงานได้ด้วยตัวเองหากระบบใหญ่ล่ม เช่นการประกาศสายการบิน สามารถใช้ข้อมูลจากซีดีสำรองได้ หรือระบบสายพานลำเลียง หากคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมกับเครือข่ายซีต้าไม่ทำงาน ก็สามารถใช้คนคัดแยกแทนได้ เป็นต้น
ส่วนระบบเช็กอินตั๋วโดยสาร ซึ่งเคยเกิดปัญหาไฟฟ้าดับเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา นายสมชัยกล่าวว่า เป็นเพราะคนไปปิดสวิทช์ แต่สำหรับวันใช้งานจริงเชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหา อย่างไรก็ตาม ท่าอากาศยานได้เชื่อมระบบเช็กอินแบบออนไลน์กับสายการบินไว้ 360 เคาน์เตอร์ ซึ่งเรียกว่า DCS แต่ถ้าล่มหรือทำงานได้ไม่เต็มที่ จะใช้แผนสำรอง LDCS ด้วยเคาน์เตอร์เช็กอินอีก 100 เคาน์เตอร์ ที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับระบบสายพานลำเลียง และหากทั้งสองระบบใช้การไม่ได้ ก็จะใช้ระบบแมนวล เขียนตั๋วโดยสารด้วยมือ
นอกจากนี้ ยังยืนยันว่าระบบไฟฟ้าที่หลายคนเป็นห่วง จะไม่มีปัญหาแน่นอน รวมทั้งจะไม่มีปัญหาเรื่องความสับสนของหลุมจอดที่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์เข้าไปควบคุมสั่งการ เนื่องจากได้ประสานหน่วยปฏิบัติการวิทยุการบิน และผู้รับสัมปทานภาคพื้นไว้อย่างดีแล้ว
ด้านระบบสื่อสารภายในตัวอาคาร บริการโทรศัพท์มือถือทุกระบบสามารถรองรับการโทรเข้าออกพร้อมกัน 50,000 เลขหมาย ขณะที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะ แม้ว่าจะมีจำนวนน้อย แต่คาดว่าจะมีการใช้งานไม่มากนัก เพราะผู้โดยสารส่วนใหญ่น่าจะใช้โทรศัพท์มือถือมากกว่า ทั้งนี้ จะมีการติดตามผลตลอด 6 เดือนนับจากวันเปิดใช้งาน