หนึ่งในนิยามของการตลาดคือ "การหาทางแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าให้ดีกว่าคู่แข่ง" ดังนั้นการแก้ไขปัญหาของลูกค้าจึงเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของการสร้างคุณค่าให้สินค้าและบริการ นักการตลาดจะต้องศึกว่าในสภาพของการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน ผู้บริโภคมีปัญหาอะไรบ้าง แล้วจึงพยายามพัฒนาสินค้าและบริการที่จะช่วยผู้บริโภคแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ได้ดีที่สุด หรือดีกว่าคู่แข่งรายอื่น เช่นถ้าผู้บริโภคมีปัญหาเรื่องเวลา ก็ต้องหาทางที่จะทำสินค้าหรือเสนอบริการที่รวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลาให้ผู้บริโภค ถ้าผู้บริโภคมีปัญหาเรื่องความอ้วน ก็นำเสนอผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่จะช่วยลดความอ้วน เครื่องออกกำลังกายเพื่อลดความอ้วน หรือบริการลดความอ้วนด้วยเครื่องมือต่างๆ การสร้างคุณค่าด้วยการแก้ไขปัญหาให้ลูกค้า สามารถทำได้ดังนี้
ทำการวิจัยการดำเนินชีวิตของผู้บริโภค เพื่อที่จะเรียนรู้ปัญหาของลูกค้า การเปลี่ยนแปลงของสังคม การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงค่านิยม การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ในบางครั้งอาจจะสร้างปัญหาในการดำเนินชีวิตของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางกายภาพ ปัญหาทางด้านจิตใจ ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาแล้ว ผู้บริโภคจำเป็นต้องแสวงหาหนทางในการแก้ปัญหานั้นๆ
* เมื่อเรียนรู้ปัญหาของผู้บริโภคแล้ว นักการตลาดจะต้องตัดสินใจว่าจะเข้าไปแก้ปัญหาให้แก่ผู้บริโภคกลุ่มใด ปัญหาของผู้บริโภคแต่ละกลุ่มจะแตกต่างกัน และผู้ประกอบการคงไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับผู้บริโภคทุกกลุ่มได้ ดังนั้นจึงต้องเลือกที่จะช่วยแก้ปัญหาให้แก่ลูกค้าบางกลุ่มเท่านั้น โดยพิจารณาว่าเรามีความสามารถหลักในการที่จะทำธุรกิจดังกล่าวได้หรือไม่ เราสามารถทำธุรกิจดังกล่าวได้ดีกว่าคู่แข่งหรือไม่ เรามีทรัพยากรที่จำเป็นในการทำธุรกิจดังกล่าวได้หรือไม่ เรามีทางที่จะยืนหยัดต่อสู้กับคู่แข่งรายอื่นได้อย่างยั่งยืนหรือไม่ หากเราได้คำตอบที่เป็นบวกในการตอบคำถามข้างต้น เราก็ตัดสินใจเลือกที่จะช่วยผู้บริโภคกลุ่มดังกล่าวแก้ปัญหา นั่นก็คือการเลือกผู้บริโภคกลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มเป้าหมายทางการตลาด
ทำการวิจัยและพัฒนาเพื่อให้ได้สิ่งที่จะนำเสนอ (Market Offering) ให้แก่กลุ่มเป้าหมาย ซึ่งอาจจะเป็นสินค้า หรือบริการอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เรามั่นใจว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาของลูกค้าได้ เมื่อกำหนดผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจนแล้ว และเรียนรู้ปัญหาของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวแล้ว ก็จะต้องมีการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา (Research and Development-R & D) เพื่อที่จะผลิตสินค้าหรือออกแบบการบริการที่จะช่วยลูกค้าแก้ปัญหา ซึ่งการพัฒนาดังกล่าวนั้นจะประกอบไปด้วยส่วนผสมทางการตลาดหลายๆอย่าง ได้แก่เป็นสินค้าอะไร อยู่ในบรรจุภัณฑ์แบบไหน ขายในราคาเท่าใด ขายที่ไหน มีการส่งเสริมการตลาดอย่างไร มีภาพลักษณ์แบบไหน มีการบริการเสริมอะไรบ้าง มีบุคลากรแบบใดในการให้บริการแก่ลูกค้า มีกระบวนการในการทำงานอย่างไร ทุกอย่างนี้จะต้องมุ่งแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้ดีกว่าคู่แข่ง
มุ่งที่จะทำให้ลูกค้าประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหา เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ได้รับความสะดวกสบายในชีวิตมากขึ้น มีความปลอดภัยในชีวิตมากขึ้น ผู้บริโภคทุกคนไม่ต้องการที่จะมีชีวิตที่เต็มไปด้วยปัญหา เพราะว่าชีวิตที่มีปัญหาก็คือชีวิตที่ไม่มีคุณภาพ ดังนั้นการพัฒนาสินค้าหรือบริการที่จะนำเสนอให้แก่ลูกค้า จะต้องมุ่งสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าให้ลูกค้า และจะต้องเป็นการแก้ปัญหาที่สะดวก ง่าย และรวดเร็ว เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหา และทำให้ผู้บริโภคมีความพึงพอใจ และพร้อมที่จะเป็นลูกค้าที่ภักดีตลอดไป
ทำงานร่วมกับลูกค้าในการหาทางแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้า ด้วยการวิจัยเก็บข้อมูลลูกค้า เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ให้ข้อมูลที่เราสามารถนำมาใช้เป็นพื้นฐานในการออกแบบสินค้าและบริการ แทนที่จะใช้เพียงความรู้ ภูมิปัญญาของเราที่มีอยู่ทำการพัฒนาสินค้าและบริการ เราควรจะหาทางเก็บข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการของลูกค้า ทัศนคติของลูกค้า ค่านิยมของลูกค้า มุมมองของลูกค้า วิถีชีวิตของลูกค้า กิจกรรมต่างๆของลูกค้า ความสนใจของลูกค้า ความคิดเห็นของลูกค้า ความทะเยอทะยานของลูกค้า เพื่อที่จะทำให้เราเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้งก่อนที่จะพัฒนาสินค้าและบริการ การเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้งมากกว่าคู่แข่งคือการสร้างโอกาสให้เราแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้ดีกว่าคู่แข่ง
ทำหน้าที่ให้มากกว่าการเป็นนักขายหรือผู้นำเสนอสินค้าและบริการให้แก่ลูกค้าเท่านั้น แต่ต้องพยายามเป็นที่ปรึกษา ผู้ให้คำแนะนำ กองเชียร์ และพันธมิตรของลูกค้า ทำให้ลูกค้ามั่นใจว่าเราไม่ใช่เป็นเพียงคนที่ต้องการสร้างรายได้จากการขายของ แต่เราเป็นเพื่อนผู้หวังดี ที่พร้อมจะให้คำแนะนำ พร้อมที่จะให้คำปรึกษา พร้อมที่จะเชิญชวนให้เขาได้เลือกหาหนทางที่จะแก้ไขปัญหาชีวิตของเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นว่าเราคือเพื่อนที่มีข่าวดีมาบอก มีสินค้าดีมาแนะนำ มีบริการที่ดีมาเสนอ ทั้งหมดนี้ทำไปด้วยความตั้งใจที่จะช่วยให้ชีวิตของเขาหลุดพ้นจากปัญหา และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นการแก้ไขปัญหาของลูกค้าให้ดีกว่าคู่แข่งคือยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในยุคที่ชีวิตของผู้บริโภคเต็มไปด้วยปัญหา ทั้งปัญหาทางกายและทางใจ ใครคิดหาหนทางแก้ไขปัญหาได้ดีกว่าย่อมเป็นผู้ชนะ
* เมื่อเรียนรู้ปัญหาของผู้บริโภคแล้ว นักการตลาดจะต้องตัดสินใจว่าจะเข้าไปแก้ปัญหาให้แก่ผู้บริโภคกลุ่มใด ปัญหาของผู้บริโภคแต่ละกลุ่มจะแตกต่างกัน และผู้ประกอบการคงไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับผู้บริโภคทุกกลุ่มได้ ดังนั้นจึงต้องเลือกที่จะช่วยแก้ปัญหาให้แก่ลูกค้าบางกลุ่มเท่านั้น โดยพิจารณาว่าเรามีความสามารถหลักในการที่จะทำธุรกิจดังกล่าวได้หรือไม่ เราสามารถทำธุรกิจดังกล่าวได้ดีกว่าคู่แข่งหรือไม่ เรามีทรัพยากรที่จำเป็นในการทำธุรกิจดังกล่าวได้หรือไม่ เรามีทางที่จะยืนหยัดต่อสู้กับคู่แข่งรายอื่นได้อย่างยั่งยืนหรือไม่ หากเราได้คำตอบที่เป็นบวกในการตอบคำถามข้างต้น เราก็ตัดสินใจเลือกที่จะช่วยผู้บริโภคกลุ่มดังกล่าวแก้ปัญหา นั่นก็คือการเลือกผู้บริโภคกลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มเป้าหมายทางการตลาด