“มายเบรด” สวนเศรษฐกิจขาลง เดินเครื่องบุกตลาดร้านเบเกอรี่ครึ่งปีหลังเต็มสูบ ชูกลยุทธ์รุกแบบฉบับแบล็คแคนยอน เปิดสาขาใหม่ เจาะปั๊มเจ็ท ปรับแพกเกจจิ้ง พร้อมลุยต่างประเทศควบคู่กับแบล็คแคนยอน เชื่อยอดขายโตขึ้นอีก 15%
นางกรรณิการ์ ชินประสิทธิ์ชัย ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้านแบล็คแคนยอนและร้านมายเบรด เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน” ถึงภาพรวมตลาดเบเกอรี่ในปัจจุบันว่า ยังคงเป็นตลาดที่มีการเติบโตเพิ่มมากขึ้นแบบก้าวกระโดด และคาดว่าในปีนี้ตลาดรวมเบเกอรี่จะเติบโตอีกเฉลี่ยประมาณ 10 – 15% ซึ่งนับว่าเป็นการเติบโตที่สวนภาวะช่วงเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว เนื่องจากธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารยังคงเป็นธุรกิจที่มีความจำเป็นต่อการครองชีพ
ดังนั้นบริษัทฯจึงมีแผนดำเนินธุรกิจทำตลาดในเชิงรุกมากยิ่งขึ้น ทั้งในแง่ของการขยายสาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะแยกออกจากร้านแบล็คแคนยอน โดยในส่วนของการขยายสาขาในประเทศนั้น บริษัทฯมองการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายเข้าไปในปั๊มน้ำมันเจ็ทเพิ่มอีกประมาณ 3 แห่งซึ่งจะอยู่รวมกับร้านแบล็คแคนยอน จากเดิมที่มีสาขาของร้านมายเบรดในแบล็คแคนยอนที่ปั๊มเจ็ทอยู่กว่า 30 สาขา โดยปั๊มเจ็ทนับว่าเป็นสถานที่ที่มีจำนวนผู้คนเข้ามาใช้บริการมากเมื่อเทียบกับปั๊มน้ำมันอื่น เนื่องจากมีความครบวงจรโดยเฉพาะร้านอาหารและร้านค้าพันธมิตรต่างๆที่เปิดบริการในปั๊มเจ็ท
ขณะที่แผนการขยายสาขาร้านมายเบรดในต่างประเทศนั้น จะดำเนินการในรูปแบบของการขายแฟรนไชส์ เช่นเดียวกับการทำตลาดของร้านแบล็คแคนยอนที่เน้นการขายแฟรนไชส์ โดยคาดว่าประเทศแรกจะเป็นกัมพูชา
ปัจจุบันสาขาของร้านมายเบรดนั้นมีอยู่กว่า 50 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็นสัดส่วนกรุงเทพฯ 80% และในต่างจังหวัดอีก 20% ซึ่งจะมีทั้งร้านที่ตั้งอยู่ร่วมกับร้านแบล็คแคนยอน และร้านเดี่ยวๆ
นอกจากการขยายสาขาแล้วบริษัทฯได้จัดเตรียมงบประมาณ 1 ล้านบาทไว้สำหรับการปรับเปลี่ยนชุดยูนิฟอร์มของพนักงานใหม่ รวมถึงการปรับแพกเกจจิ้งของผลิตภัณฑ์ใหม่ให้มีความทันสมัยมากขึ้นอีกทั้งยังเป็นการเพิ่มแรงจูงใจให้ลูกค้ามีความสนใจในตัวสินค้ามากขึ้น รวมถึงการปรับรูปแบบภายในร้านใหม่ให้มีความทันสมัยและมีความเป็นโมเดิร์นมากขึ้น เพื่อกระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง
นางกรรณิการ์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาทิศทางการเติบโตในกลุ่มภาพรวมธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารยังมีการเติบโตได้อยู่ รวมถึงแบรนด์มายเบรดเองมีการเติบโตควบคู่กับแบรนด์แบล็คแคนยอน ซึ่งการนำแบรนด์ทั้งสองมารวมกันโดยเป็นการทำโคแบรนดิ้ง เป็นแนวทางใหม่ ที่แบล็คแคนยอนและมายแบรดนำมาใช้ ในสไตล์ของร้านกาแฟและเบเกอรี่ และเชื่อมั่นว่าจากการรุกทำตลาดนี้ จะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการผลักดันยอดขายของบริษัทฯให้เติบโต 15% ได้อย่างแน่นอน
นางกรรณิการ์ ชินประสิทธิ์ชัย ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้านแบล็คแคนยอนและร้านมายเบรด เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน” ถึงภาพรวมตลาดเบเกอรี่ในปัจจุบันว่า ยังคงเป็นตลาดที่มีการเติบโตเพิ่มมากขึ้นแบบก้าวกระโดด และคาดว่าในปีนี้ตลาดรวมเบเกอรี่จะเติบโตอีกเฉลี่ยประมาณ 10 – 15% ซึ่งนับว่าเป็นการเติบโตที่สวนภาวะช่วงเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว เนื่องจากธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารยังคงเป็นธุรกิจที่มีความจำเป็นต่อการครองชีพ
ดังนั้นบริษัทฯจึงมีแผนดำเนินธุรกิจทำตลาดในเชิงรุกมากยิ่งขึ้น ทั้งในแง่ของการขยายสาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะแยกออกจากร้านแบล็คแคนยอน โดยในส่วนของการขยายสาขาในประเทศนั้น บริษัทฯมองการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายเข้าไปในปั๊มน้ำมันเจ็ทเพิ่มอีกประมาณ 3 แห่งซึ่งจะอยู่รวมกับร้านแบล็คแคนยอน จากเดิมที่มีสาขาของร้านมายเบรดในแบล็คแคนยอนที่ปั๊มเจ็ทอยู่กว่า 30 สาขา โดยปั๊มเจ็ทนับว่าเป็นสถานที่ที่มีจำนวนผู้คนเข้ามาใช้บริการมากเมื่อเทียบกับปั๊มน้ำมันอื่น เนื่องจากมีความครบวงจรโดยเฉพาะร้านอาหารและร้านค้าพันธมิตรต่างๆที่เปิดบริการในปั๊มเจ็ท
ขณะที่แผนการขยายสาขาร้านมายเบรดในต่างประเทศนั้น จะดำเนินการในรูปแบบของการขายแฟรนไชส์ เช่นเดียวกับการทำตลาดของร้านแบล็คแคนยอนที่เน้นการขายแฟรนไชส์ โดยคาดว่าประเทศแรกจะเป็นกัมพูชา
ปัจจุบันสาขาของร้านมายเบรดนั้นมีอยู่กว่า 50 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็นสัดส่วนกรุงเทพฯ 80% และในต่างจังหวัดอีก 20% ซึ่งจะมีทั้งร้านที่ตั้งอยู่ร่วมกับร้านแบล็คแคนยอน และร้านเดี่ยวๆ
นอกจากการขยายสาขาแล้วบริษัทฯได้จัดเตรียมงบประมาณ 1 ล้านบาทไว้สำหรับการปรับเปลี่ยนชุดยูนิฟอร์มของพนักงานใหม่ รวมถึงการปรับแพกเกจจิ้งของผลิตภัณฑ์ใหม่ให้มีความทันสมัยมากขึ้นอีกทั้งยังเป็นการเพิ่มแรงจูงใจให้ลูกค้ามีความสนใจในตัวสินค้ามากขึ้น รวมถึงการปรับรูปแบบภายในร้านใหม่ให้มีความทันสมัยและมีความเป็นโมเดิร์นมากขึ้น เพื่อกระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง
นางกรรณิการ์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาทิศทางการเติบโตในกลุ่มภาพรวมธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารยังมีการเติบโตได้อยู่ รวมถึงแบรนด์มายเบรดเองมีการเติบโตควบคู่กับแบรนด์แบล็คแคนยอน ซึ่งการนำแบรนด์ทั้งสองมารวมกันโดยเป็นการทำโคแบรนดิ้ง เป็นแนวทางใหม่ ที่แบล็คแคนยอนและมายแบรดนำมาใช้ ในสไตล์ของร้านกาแฟและเบเกอรี่ และเชื่อมั่นว่าจากการรุกทำตลาดนี้ จะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการผลักดันยอดขายของบริษัทฯให้เติบโต 15% ได้อย่างแน่นอน