xs
xsm
sm
md
lg

ประธานหอการค้าไทยยอมรับปฏิรูปการเมืองมีความจำเป็นและเหมาะสม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประธานหอการค้าไทยเห็นว่า การยึดอำนาจของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นเรื่องที่มีความจำเป็นและเหมาะสม สำหรับผู้ที่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ควรมีความรู้ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคมอย่างพอเพียง

นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวถึงการยึดอำนาจของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขว่า จากการหารือกันยอมรับว่า ไม่สบายใจระดับหนึ่ง เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เป็นไปตามระบบประชาธิปไตย แต่เมื่อพิจารณาลงลึกแล้ว เห็นว่า เป็นเรื่องจำเป็นและเหมาะสม เพราะจะเป็นโอกาสที่จะขจัดความขัดแย้งทางการเมืองที่มีมานาน 1-2 ปีได้ และถือเป็นการล้างไพ่ใหม่ จะได้มีรัฐธรรมนูญใหม่ มีการเลือกตั้งได้รัฐบาลถาวรไม่เกิน 1 ปี และสามารถเดินหน้าต่อไปด้วยความสมานฉันท์หนึ่งเดียวและเป็นการดำเนินเศรษฐกิจที่ภาครัฐและเอกชนร่วมกันได้

ส่วนผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ เชื่อว่าคณะปฏิรูปฯ คงให้ความสำคัญเกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศ การหยุดชะงักคงเป็นช่วงสั้นที่มีเหตุผล อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อเศรษฐกิจคงไม่สามารถประเมินได้ในช่วง 1-2 วันนี้ ส่วนนักลงทุนต่างชาติคงรู้สึกว่า การเปลี่ยนแปลงจะทำให้การลงทุนกระทบหรือไม่ และคงมีผลกระทบประมาณ 1 เดือน เมื่อเห็นหน้าตารัฐบาลใหม่ หากพอใช้ได้คงพอใจพอสมควร ส่วนภาพการปฏิรูปที่สื่อต่างชาติเผยแพร่ออกไปเป็นภาพการให้ดอกไม้ทหาร ถ่ายรูปกับทหาร คงเป็นภาพที่เห็นแล้วสบายใจ ส่วนคนไทยได้ผ่านประสบการณ์มาแล้ว จะเห็นว่า ไม่น่าจะเป็นผลในทางลบที่รุนแรง และหากมีผลกระทบก็จะเป็นระยะสั้นมาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก็ปรับตัวลดลงเช้านี้เพียง 9 จุด นับว่ากระทบน้อยมาก นักลงทุนในตลาดหุ้นไม่ตื่นตกใจ

นายประมนต์ กล่าวถึงผู้ที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า ขอให้เป็นบุคคลที่เข้าใจทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคมอย่างพอเพียงจนสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ จะต้องมีความซื่อสัตย์ มีความโปร่งใส มีประวัติความโปร่งใส อย่างไรก็ตาม อยากจะเห็นการจัดตั้งรัฐบาลภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า และมีการดำเนินการต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว และอยากเห็นรัฐบาลที่ทำงานร่วมกับภาคเอกชนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อกำหนดแนวทางเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างมั่นคง โดยนำเอาเศรษฐกิจพอเพียงเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งหอการค้าจะเสนอสมุดปกขาวที่เป็นผลจากการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 24 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2549 ที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งการประชุมครั้งนี้ จะเปลี่ยนรูปแบบไป กล่าวคือ เดิมจะเชิญนายกรัฐมนตรีมารับฟังผลสรุปจากการประชุมถึงสิ่งที่เอกชนต้องการได้รับการสนับสนุน มาเป็นเชิญปลัดกระทรวงของกระทรวงที่สำคัญมาร่วมรับฟังข้อสรุปและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแทน

สำหรับสมุดปกขาวจะมี 4 เรื่องสำคัญคือ แนวทางความร่วมมือของภาคเอกชนในการดำเนินการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง การขับเคลื่อนความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะในการพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัด

นายประมนต์ กล่าวว่า หากมีรัฐบาลใหม่ เห็นด้วย หากจะมีการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจแบบคู่ขนานต่อไป โดยไม่เน้นเฉพาะการส่งออกเท่านั้น แต่เน้นให้เศรษฐกิจในประเทศขยายตัวด้วย แต่การจะใช้เงินลงทุนโครงการใหญ่ ๆ คงไม่มีเงิน ส่วนการเจรจาเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) เป็นเรื่องที่ควรดำเนินการต่อ แต่ต้องปรับปรุง โดยอยากให้มีความเสมอภาคกับประเทศคู่สัญญา และต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนในประเทศได้รับรู้ สำหรับการเจรจากับญี่ปุ่นนั้น ขณะนี้รอเพียงการลงนาม ในขณะที่กับเอฟทีเอไทย-สหรัฐ ยังอยู่ในขั้นตอนที่จะต้องทำการบ้านอีกมาก เพราะเกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน

นายประมนต์ กล่าวว่า แม้มีการปฏิรูปในประเทศ แต่ยังมั่นใจว่า เศรษฐกิจไทยจะยังคงขยายตัวได้ในระดับร้อยละ 4 ถึงร้อยละ 4 เศษในปีนี้ เพราะตัวเลขการเติบโต 9 เดือนแรกปีนี้ไม่เลวรายนัก และปีหน้าคงจะเติบโตได้ในระดับร้อยละ 4-6 ได้

สำหรับผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และมีชื่อของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ด้วยนั้น นายประมนต์ กล่าวว่า ส่วนตัวแล้ว เห็นว่า ผู้ว่าการ ธปท. เป็นคนดี มีคุณสมบัติครบถ้วน และมีความใกล้ชิดกับทหารด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่เห็นด้วยที่จะรบกวนบุคคลใกล้ชิดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
กำลังโหลดความคิดเห็น