xs
xsm
sm
md
lg

เที่ยวบินแรก “สุวรรณภูมิ” วุ่น ระบบไฟเจ๊งต้องออกตั๋วด้วยมือ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เที่ยวบินแรก “สุวรรณภูมิ” ของบินไทยวุ่นแต่วัน ระบบไฟขัดข้องต้องออกตั๋วโดยสารด้วยมือ ด้านผู้ใช้บริการหวั่นหลง และไม่มีระบบขนส่งเพียงพอ ส่วนพระจอมเกล้าฯ ยังเคืองจี้ ทอท.เร่งจ่ายชดเชยผลกระทบจากมลพิษทางเสียงที่เกิดขึ้น

วันนี้ (15 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เที่ยวบินสายแรกของการบินไทย “สุวรรณภูมิ-พิษณุโลก” เมื่อเช้านี้ เที่ยวบินที่ ทีจี 8861 ได้นำผู้โดยสารจาก จ.พิษณุโลก ร่อนลงแตะรันเวย์ทางทิศตะวันออกของสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเวลาประมาณ 08.50 น. การลงจอดนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น โดยกัปตันเห็นว่ารันเวย์ของสนามบินแห่งนี้ก่อสร้างใหม่จึงไม่มีปัญหาเรื่องการนำเครื่องลงจอด

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของระบบเช็กอินได้เกิดปัญหาขึ้นในช่วงเช้า เนื่องจากระบบไฟฟ้าของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีปัญหา ทำให้ระบบเช็กอินไม่สามารถใช้การได้ จึงต้องออกบัตรโดยสารด้วยมือไปก่อน รวมใช้เวลาแก้ไขปัญหาประมาณครึ่งชั่วโมง ล่าสุดขณะนี้ใช้งานได้ตามปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า มีหลายคนยังคงเป็นห่วงเรื่องการเดินทางออกจากสนามบิน ด้วยเกรงว่าจะหลงทาง และไม่มีระบบขนส่งมวลชนที่เพียงพอ

อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวแจ้งว่าที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้มีการชุมนุมกันเพื่อเรียกร้องให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) จ่ายค่าชดเชยเรื่องของผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมทางเสียง

นายวันชัย ศารทูลทัต ปลัดกระทรวงคมนาคม และประธานกรรมการ การบินไทย กล่าวว่า ต้องมีการแก้ไขระบบไฟฟ้า เนื่องจากที่ผ่านมา ทอท. รับทราบปัญหาอยู่แล้ว และกระทรวงคมนาคมได้เคยกล่าวเตือน ทอท. หลายครั้งในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (กทภ.) แต่ก็ไม่ได้ปรับปรุงให้เรียบร้อยก่อนเปิดบริการจริง ซึ่งเรื่องไฟฟ้าเป็นเรื่องสำคัญจะทำให้ไฟฟ้าดับไม่ได้ เพราะจะส่งผลกระทบต่อระบบเช็กอินและระบบสนามบินทั้งหมด ซึ่งการบินไทยที่มาบินในวันแรกวันนี้ก็เพื่อดูความพร้อม และปัญหาที่จะเกิดขึ้น ซึ่งได้เตรียมพร้อมไว้ทุกด้าน โดยกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินจะมีแผนสำรองและแผนสุดท้าย คือ นำคนช่วยแก้ปัญหา ส่วนเรื่องระบบขนส่งมวลชน มีความพร้อมไม่มีปัญหาอะไร กระทรวงคมนาคมได้มีการจัดเตรียมรถขนส่งมวลชนสาธารณะไว้รองรับประชาชนเรียบร้อยแล้ว

นายโชติศักดิ์ อาสภวิริยะ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า ระบบคอมพิวเตอร์ที่ขัดข้องในเช้าวันนี้ ปัญหาเกิดจากระบบไฟฟ้าที่เบรกเกอร์ตัดไฟตั้งแต่ช่วง 03.00 น. ทำให้ระบบไฟทำงานไม่ได้ แต่หลังจากนั้นได้ใช้แผนสำรอง จึงทำให้เช็กอินได้ และผู้โดยสารสามารถเช็กอินขึ้นเครื่องได้ในเวลาที่ไม่ช้ามากนัก นับเป็นการทำงานทดสอบการวางระบบที่ดี ทำให้ผู้โดยสารสามารถมั่นใจได้ว่าระบบสำรองสามารถรองรับได้ทุกกรณีทันที

นายโชคชัย ปัญญายงค์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานพัฒนาการลงทุน การบินไทย กล่าวว่า ระบบไฟฟ้าใช้งานได้ตามปกติหลังเกิดปัญหานานประมาณ 30 นาที โดยเบรกเกอร์ตัดไฟเพียง 2-3 นาทีเท่านั้น แต่ที่ล่าช้าเนื่องจากต้องมีการปรับระบบหรือเซตอัพ /วอร์มอัพ คอมพิวเตอร์

นายวันชัย สินาโรจน์ รักษาการผู้จัดการใหญ่ บริษัทผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็น จำกัด หรือดีแคป กล่าวถึงเหตุไฟฟ้าขัดข้องภายในอาคารผู้โดยสารว่า อาจเกิดจากระบบภายในของอาคารที่พักผู้โดยสาร ซึ่ง ทอท. เป็นผู้ดูแล เนื่องจากบริเวณภายในอาคารที่พักผู้โดยสารยังมีการตกแต่งซึ่งอาจจะกระทบกระเทือนกับวงจรจ่ายไฟ สำหรับบริษัทที่รับหน้าที่ตกแต่งภายในอาคารผู้โดยสาร ได้แก่ กลุ่ม บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) อย่างไรก็ตาม บริษัทขอยืนยันระบบจ่ายไฟฟ้าของบริษัทยังเป็นปกติ สามารถที่จะจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ 115 กิโลวัตต์

ด้านเรืออากาศโทอนิรุทธ์ ถนอมกุลบุตร รองผู้อำนวยการ ทอท. ซึ่งดูความปลอดภัยทั้งหมด กล่าวว่า ตั้งแต่เวลา 15.00 น. วานนี้ (14 ก.ย.) ได้เข้าคุมพื้นที่ทั้งหมด และเหตุการณ์เป็นไปอย่างเรียบร้อย โดยได้ใช้มาตรการดูแลความปลอดภัยที่เข้มงวด ทั้งเจ้าหน้าที่และสุนัขตำรวจตรวจตราเข้มข้น ซึ่ง ทอท.จะดำเนินการเช่นนี้ไปจนกระทั่งถึงวันเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์วันที่ 28 กันยายนนี้

สำหรับบรรยากาศที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในวันนี้คึกคักตั้งแต่เช้า ผู้โดยสารทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างเริ่มทยอยเดินทางมาเพื่อเช็กอินที่เคาน์เตอร์ผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ ซึ่งเป็นเที่ยวบินภายในประเทศที่จะออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปยังท่าอากาศยานพิษณุโลก ทีจี 8860 กัน ตั้งแต่เวลา 05.00 น. และบางคนมาตั้งช่วง 04.00 น. ผู้โดยสารส่วนใหญ่แสดงความพึงพอใจในความสะดวกของการเดินทางและการเช็กอิน แม้ว่าระบบคอมพิวเตอร์ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิขัดข้องก็ตาม แต่เจ้าหน้าที่ก็สามารถแก้ปัญหาทำให้การเช็กอินไม่ล่าช้า

นายธนกร วรรณเกษม นักธุรกิจ แสดงความรู้สึกว่า ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ และประทับใจท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่ใหญ่โต สวยงาม เพราะที่ผ่านมาติดตามจากข่าวไม่เคยเดินทางมา การเดินทางมาก็สะดวก โดยเดินทางจากมีนบุรีใช้เวลา 20 นาทีเท่านั้น

นางมยุรา มนะสิการ อดีต ส.ส.พิษณุโลก กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาใช้บริการในเที่ยวบินแรก เนื่องจากตัวเองมีภารกิจที่พิษณุโลก รู้สึกว่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไม่ด้อยกว่าที่อื่น ทั้งในแง่ความสวยงามและความใหญ่โต แต่ยอมรับว่าต้องเดินไกลมากเพราะพื้นที่ใหญ่โต

น.ส.มิกิ ฮิราโอกะ ผู้โดยสารชาวญี่ปุ่น กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เห็นท่าอากาศยานใหม่ การเดินทางสะดวกมาก โดยใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาที ในการเดินทางจากถนนรัชดาภิเษกมายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และไม่พบปัญหาใด ๆ

นายโชคชัย ณัฏฐวรรธนะ ผู้บัญชาการเรือนจำพิษณุโลก กล่าวว่า เตรียมเดินทางเป็นครั้งแรกมาตั้งแต่เช้าเป็นพิเศษโดยยังเป็นห่วงกรณีที่แท็กซี่อาจจะไม่ยอมเข้ามาท่าอากาศยาน จึงต้องให้ญาติเข้ามาส่งแทน แต่ภาพรวมก็ภูมิใจท่าอากาศยานแห่งใหม่ของประเทศไทย

นางกัลยาณี จันมา ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงพิษณุโลก กล่าวว่า อยากให้ ทอท.จัดทำป้ายบอกทางเข้ามาให้เพิ่มหลายจุดให้เกิดความชัดเจนมากกว่านี้ เพราะหากไม่เคยมาจะหลงทางได้ และอยากให้ผู้มีแผนที่จะเดินทางเข้ามาใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขอให้เข้ามาสำรวจเส้นทางก่อนเพื่อป้องกันการหลงทาง

สำหรับอาหารบนเครื่องการบินไทยเที่ยวบินประวัติศาสตร์ในเช้าวันนี้ในชั้นธุรกิจเป็นก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้ง ส่วนชั้นประหยัดเป็นฮอทด็อก ไส้กรอกไก่ ขณะที่เที่ยวบินขากลับจากพิษณุโลก ทีจี 8861 อาหารเป็นฮะเก๋ากุ้ง ส่วนชั้นประหยัดเป็นครัวซอง ทูน่าเห็ด โดยผู้โดยสารขาไปมีจำนวน 83 คน ขากลับ 62 คน ใช้เครื่องบินโบอิ้ง 737-400 สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้เต็มที่ 149 คน โดยการบินไทยระบุว่ามีผู้โดยสารมากกว่าปกติ ส่วนหนึ่งเกิดจากต้องการร่วมเที่ยวบินประวัติศาสตร์ ซึ่งการบินไทยได้เตรียมของที่ระลึกสำหรับผู้โดยสารในวันนี้ทุกไฟลท์ เป็นที่ผูกกระเป๋าหรือแทก รูปท่าอากากาศยานสุวรรณภูมิ สำหรับวันพรุ่งนี้ (16 ก.ย.) นอกจากจะมีเที่ยวบินไป-กลับ ท่าอากาศยานพิษณุโลกแล้ว ยังมีเที่ยวบินไป-กลับเชียงใหม่ 1 เที่ยวบิน และอุบลราชธานีอีก 1 เที่ยวบินด้วย

ทั้งนี้ การบินไทยยังระบุด้วยว่า ผู้โดยสารที่จะบินขาออกต้องมาถึงท่าอากาศยานล่วงหน้า 1 ชั่วโมง หากไปต่างประเทศต้องมาล่วงหน้า 2 ชั่วโมง และปิดเช็กอินที่เคาน์เตอร์ก่อนเวลาเข้า-ออก 30 นาที เพื่อป้องกันปัญหาล่าช้า จึงขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารเดินทางมาถึงท่าอากาศยานให้เร็วขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น