อู่ซ่อมรถ บุกร้อง "พาณิชย์" ธนสินประกันภัยเบี้ยวค่าซ่อมรถมาตั้งแต่ต.ค.48 รวมมูลหนี้กว่า 500 ล้านบาท หวั่นซ้ำรอยรัตนโกสินทร์-พาณิชย์ประกันภัย ด้านกรมการประกันภัย เตรียมเรียกบริษัทไกล่เกลี่ยในสัปดาห์หน้า
นายนรนารถ รัตนศักดิ์วิบูลย์ แกนนำอู่ซ่อมรถยนต์ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการที่บริษัท ธนสินประกันภัย จำกัด (มหาชน) ประวิงการจ่ายค่าซ่อมรถยนต์ เปิดเผยภายหลังการนำอู่ที่ได้รับความเดือดร้อนเข้าร้องเรียนกับกรมการประกันภัย เพื่อให้ดำเนินการช่วยเหลือว่า ธนสินได้ประวิงการจ่ายค่าซ่อมรถยนต์ให้กับอู่ทั่วประเทศประมาณกว่า 400 รายเป็นเงิน 508 ล้านบาทมาตั้งแต่เดือนต.ค.48 โดยอ้างว่า ขาดสภาพคล่อง และบริษัทอยู่ระหว่างการเพิ่มทุน ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับอู่เป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม แม้จะได้รับการติดต่อจากเจ้าของบริษัท (นายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน) เพื่อเรียกอู่แต่ละรายมาประนอมหนี้ แต่บริษัทก็ยังไม่สามารถชำระหนี้ทั้งหมดได้ โดยเมื่อวันที่ 20 เม.ย.49 บริษัทได้เรียกประชุมอู่ เพื่อจ่ายเช็คชำระหนี้ แต่ปรากฏว่า เช็คที่บริษัทจ่ายให้เป็นเช็คเด้ง นอกจากนี้ ยังมีการเรียกอู่บางรายไปเจรจาว่า หากจะให้บริษัทจ่ายหนี้ให้จะลดหนี้ให้บริษัทได้เท่าไร ซึ่งบางรายก็ยอมลดหนี้ให้ แต่ส่วนใหญ่ไม่ยอม
ขณะเดียวกัน บริษัท เจเอ็นที โฮลดิ้ง กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้จะเข้าร่วมทุนในธนสินได้เรียกอู่ไปคุยว่า มีแผนจะเพิ่มทุนในธนสิน 500 ล้านบาท แต่จะนำเงินมาวางไว้ที่กรมการประกันภัย เพื่อเป็นเงินกองทุน 405 ล้านบาท ที่เหลืออีก 95 ล้านบาท จะแบ่งใช้หนี้ให้กับอู่ทุกราย เฉลี่ยแล้วแต่ละรายจะได้รับประมาณ 18% ส่วนที่เหลือจะไม่ยอมจ่ายให้ หรือหากอู่ไม่พอใจ ก็เสนอเพิ่มว่า จะจ่ายให้ 18% ก่อนจากนั้นอีก 3 ปีจึงจะจ่ายส่วนที่เหลือให้ แต่ระหว่างนี้จะให้เป็นหุ้นในบริษัทไปก่อน
"พวกเราพยายามที่จะประคับประคองสถานการณ์ ไม่ให้เลวร้าย และไม่อยากให้ธนสินเหมือนกับบริษัท รัตนโกสินทร์ประกันภัย และบริษัท พาณิชย์ประกันภัย ที่มีปัญหาสภาพคล่องจนต้องปิดตัวไปแล้ว แต่ธนสินกลับไม่ยอมจ่ายหนี้ มิหนำซ้ำยังโกหกหลอกลวงต่างๆ นานา บอกว่าจะให้เงินแต่เช็คกลับเด้งอีก ส่วนข้อเสนอที่ยื่นให้ก็ไม่เป็นธรรม เราต้องการเงินค่าซ่อมรถคืนทั้งหมด ไม่ใช่ต้องมาลดหนี้ให้บริษัท อู่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะไม่ได้รับการจ่ายเงินมาร่วมปีแล้ว บางรายคิดเป็นเงินหลายล้านบาท จึงต้องขอความช่วยเหลือจากกรมการประกันภัย และกระทรวงพาณิชย์ หากเจรจาไม่สามารถหาข้อยุติได้ ก็คงต้องดำเนินการตามกฎหมาย เช่น อาจจะฟ้องร้อง" นายนรนารถกล่าว
ด้านนายไพเจต สรรพทรัพย์สิริ แกนนำอีกราย กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน (13ก.ย.) ได้นำสมาชิกอู่ที่ได้รับความเดือดร้อนเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปราม อาชญากรรมทางเศรษฐกิจและ เทคโนโลยี (บก.ปศท.) ยื่นเรื่องต่อผู้บังคับการกองปราบพนักงานสอบสวน (พงส.) กลุ่มสอบสวนคดีการเงินการธนาคาร (ธท) เพื่อดำเนินคดีกับบริษัทธนสินประกันภัย ในข้อหาจ่ายเช็คเด้ง และค้างชำระค่าซ่อมอู่ทั่วประเทศ 400 อู่ เป็นเงิน 508 ล้านบาท
นายวิวัฒน์ เกิดไพบูลย์ ผู้อำนวยการกองนิติการ กรมการประกันภัย กล่าวว่า หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจะประสานงานไปยังบริษัท ธนสินประกันภัย เพื่อมาไกล่เกลี่ยปัญหากับอู่ภายในสัปดาห์หน้า กรมไม่สามารถดำเนินการไกล่เกลี่ยได้เอง เพราะข้อจำกัดของกฎหมายที่กรมดูแลอยู่ไม่ครอบคลุมการตกลงกรณีที่บริษัทประกันภัยว่าจ้างอู่ซ่อมรถ กรมมีหน้าที่เพียงดูแลประชาชน ที่ซื้อกรมธรรม์จากบริษัทประกันว่าได้รับบริการจากบริษัทหรือไม่เท่านั้น หรือเป็นเพียงแค่ตัวกลางระหว่างบริษัทกับอู่เท่านั้น ส่วนอู่จะไปยื่นฟ้องต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถทำได้ เพราะในกรณีเช็คเด้งถือว่าเป็นคดีความที่ต้องร้องเรียนกับตำรวจโดยตรงในข้อหาฉ้อโกง
นายนรนารถ รัตนศักดิ์วิบูลย์ แกนนำอู่ซ่อมรถยนต์ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการที่บริษัท ธนสินประกันภัย จำกัด (มหาชน) ประวิงการจ่ายค่าซ่อมรถยนต์ เปิดเผยภายหลังการนำอู่ที่ได้รับความเดือดร้อนเข้าร้องเรียนกับกรมการประกันภัย เพื่อให้ดำเนินการช่วยเหลือว่า ธนสินได้ประวิงการจ่ายค่าซ่อมรถยนต์ให้กับอู่ทั่วประเทศประมาณกว่า 400 รายเป็นเงิน 508 ล้านบาทมาตั้งแต่เดือนต.ค.48 โดยอ้างว่า ขาดสภาพคล่อง และบริษัทอยู่ระหว่างการเพิ่มทุน ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับอู่เป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม แม้จะได้รับการติดต่อจากเจ้าของบริษัท (นายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน) เพื่อเรียกอู่แต่ละรายมาประนอมหนี้ แต่บริษัทก็ยังไม่สามารถชำระหนี้ทั้งหมดได้ โดยเมื่อวันที่ 20 เม.ย.49 บริษัทได้เรียกประชุมอู่ เพื่อจ่ายเช็คชำระหนี้ แต่ปรากฏว่า เช็คที่บริษัทจ่ายให้เป็นเช็คเด้ง นอกจากนี้ ยังมีการเรียกอู่บางรายไปเจรจาว่า หากจะให้บริษัทจ่ายหนี้ให้จะลดหนี้ให้บริษัทได้เท่าไร ซึ่งบางรายก็ยอมลดหนี้ให้ แต่ส่วนใหญ่ไม่ยอม
ขณะเดียวกัน บริษัท เจเอ็นที โฮลดิ้ง กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้จะเข้าร่วมทุนในธนสินได้เรียกอู่ไปคุยว่า มีแผนจะเพิ่มทุนในธนสิน 500 ล้านบาท แต่จะนำเงินมาวางไว้ที่กรมการประกันภัย เพื่อเป็นเงินกองทุน 405 ล้านบาท ที่เหลืออีก 95 ล้านบาท จะแบ่งใช้หนี้ให้กับอู่ทุกราย เฉลี่ยแล้วแต่ละรายจะได้รับประมาณ 18% ส่วนที่เหลือจะไม่ยอมจ่ายให้ หรือหากอู่ไม่พอใจ ก็เสนอเพิ่มว่า จะจ่ายให้ 18% ก่อนจากนั้นอีก 3 ปีจึงจะจ่ายส่วนที่เหลือให้ แต่ระหว่างนี้จะให้เป็นหุ้นในบริษัทไปก่อน
"พวกเราพยายามที่จะประคับประคองสถานการณ์ ไม่ให้เลวร้าย และไม่อยากให้ธนสินเหมือนกับบริษัท รัตนโกสินทร์ประกันภัย และบริษัท พาณิชย์ประกันภัย ที่มีปัญหาสภาพคล่องจนต้องปิดตัวไปแล้ว แต่ธนสินกลับไม่ยอมจ่ายหนี้ มิหนำซ้ำยังโกหกหลอกลวงต่างๆ นานา บอกว่าจะให้เงินแต่เช็คกลับเด้งอีก ส่วนข้อเสนอที่ยื่นให้ก็ไม่เป็นธรรม เราต้องการเงินค่าซ่อมรถคืนทั้งหมด ไม่ใช่ต้องมาลดหนี้ให้บริษัท อู่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะไม่ได้รับการจ่ายเงินมาร่วมปีแล้ว บางรายคิดเป็นเงินหลายล้านบาท จึงต้องขอความช่วยเหลือจากกรมการประกันภัย และกระทรวงพาณิชย์ หากเจรจาไม่สามารถหาข้อยุติได้ ก็คงต้องดำเนินการตามกฎหมาย เช่น อาจจะฟ้องร้อง" นายนรนารถกล่าว
ด้านนายไพเจต สรรพทรัพย์สิริ แกนนำอีกราย กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน (13ก.ย.) ได้นำสมาชิกอู่ที่ได้รับความเดือดร้อนเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปราม อาชญากรรมทางเศรษฐกิจและ เทคโนโลยี (บก.ปศท.) ยื่นเรื่องต่อผู้บังคับการกองปราบพนักงานสอบสวน (พงส.) กลุ่มสอบสวนคดีการเงินการธนาคาร (ธท) เพื่อดำเนินคดีกับบริษัทธนสินประกันภัย ในข้อหาจ่ายเช็คเด้ง และค้างชำระค่าซ่อมอู่ทั่วประเทศ 400 อู่ เป็นเงิน 508 ล้านบาท
นายวิวัฒน์ เกิดไพบูลย์ ผู้อำนวยการกองนิติการ กรมการประกันภัย กล่าวว่า หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจะประสานงานไปยังบริษัท ธนสินประกันภัย เพื่อมาไกล่เกลี่ยปัญหากับอู่ภายในสัปดาห์หน้า กรมไม่สามารถดำเนินการไกล่เกลี่ยได้เอง เพราะข้อจำกัดของกฎหมายที่กรมดูแลอยู่ไม่ครอบคลุมการตกลงกรณีที่บริษัทประกันภัยว่าจ้างอู่ซ่อมรถ กรมมีหน้าที่เพียงดูแลประชาชน ที่ซื้อกรมธรรม์จากบริษัทประกันว่าได้รับบริการจากบริษัทหรือไม่เท่านั้น หรือเป็นเพียงแค่ตัวกลางระหว่างบริษัทกับอู่เท่านั้น ส่วนอู่จะไปยื่นฟ้องต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถทำได้ เพราะในกรณีเช็คเด้งถือว่าเป็นคดีความที่ต้องร้องเรียนกับตำรวจโดยตรงในข้อหาฉ้อโกง