xs
xsm
sm
md
lg

ข้าวเฮาส์แบรนด์บี้ซัปพลายเออร์ มาบุญครองสู้ส่ง“พลัส”ขยายฐาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข้าวมาบุญครอง ปรับตัวหนีเฮาส์แบรนด์ถล่มตลาดข้าวหอมมะลิ หลัง 2 ปี ข้าวเฮาส์แบรนด์ไต่อันดับขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งกวาดแชร์ 35% อัดฉีดกว่า 50 ล้านบาท ปั้น “มาบุญครอง พลัส” ข้าวผสมพร้อมปรุง 3 ชนิด ทะลวงแชร์เพิ่มจาก 15% เป็น 20% พร้อมเบนเข็มปั๊มยอดตลาดส่งออกแบรนด์ของตัวเอง 2 ปี บาลานซ์รายได้ในประเทศ-ต่างประเทศ ส่วนปี 2550 คาดรายได้รวม 2,400 ล้านบาท

นายรุจจน์ ทรัพย์นิรันดร์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนาวี จำกัด มหาชน (PRG) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายข้าวหอมมะลิมาบุญครอง เปิดเผยว่า หลังจากที่เชนโมเดิร์นเทรดจำหน่ายข้าวเป็นสินค้าเฮาส์แบรนด์ โดยใช้กลยุทธ์ราคาที่ถูกกว่า 15-20 บาท เมื่อเทียบกับข้าวแบรนด์เนมของซัปพลายเออร์จำหน่ายราคาปกติ 130-140 บาท ทำให้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้สินค้าเฮาส์แบรนด์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ข้าว สามารถขึ้นครองส่วนแบ่ง 35% เป็นอันดับหนึ่งของตลาด จากการมีอัตราการเติบโต 50% ต่อปี ขณะที่ข้าวมาบุญครองมีส่วนแบ่งเหลือเป็น 15% หงส์ทอง 12%

ดังนั้นบริษัทฯวางแนวทางการตลาดข้าวมาบุญครอง เพื่อรองรับกับสินค้าเฮาส์แบรนด์ที่มีเป้าหมายจะขยับส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 38% บริษัทฯจึงหันมาเน้นพัฒนาสินค้าโดยการสร้างมูลค่านอกเหนือจากจำหน่ายแต่ข้าวหอมมะลิเพียงอย่างเดียว ล่าสุดเปิดตัว “ข้าวมาบุญครอง พลัส” หรือข้าวที่มีส่วนผสมและปรุงด้วยรสชาติ ภายใต้คอนเซปต์ อร่อยเพิ่มคุณค่าจากธรรมชาติ มีให้เลือก 3 ชนิด ได้แก่ ข้าวธัญพืช ข้าวกระเทียม และข้าว 5 สี ลงสู่ตลาดเมื่อเดือนกรกฏาคม ที่ผ่านมานี้ ในช่วงแรกเน้นจำหน่ายโมเดิร์นเทรดเป็นหลัก และจากนั้นจะเริ่มทยอยจำหน่ายในร้านค้าปลีกและร้านค้าส่ง

โดยบริษัทฯได้ทุ่มงบการตลาดกว่า 50 ล้านบาท เพื่อทำการตลาดข้าวมาบุญครอง พลัสแบบครบวงจร ทั้งโฆษณา ประชาสัมพันธ์ นิตยสาร สื่อกลางแจ้ง พร้อมกันนี้ยังได้แจกสินค้าตัวอย่างตามห้างสรรพสินค้า รวมทั้งจัดรายการกิจกรรมโปรโมชั่นโดยร่วมกับห้าง ร้านค้า สินค้าชนิดอื่นๆ และจัดรายการชิงโชคมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างและกระตุ้นยอดขาย เนื่องจากข้าวมาบุญครอง พลัส จำหน่ายในราคา 40-50 บาทต่อ 1 กก.เมื่อเทียบกับข้าวหอมมะลิ 1 กก.ราคา 25-30 บาท สูงกว่าเกือบเท่าตัว

สำหรับภาวะตลาดข้าวบรรจุถุงมูลค่า 8,000-10,000 ล้านบาท ปีนี้คาดว่ามีอัตราการเติบโต 10-20% แบ่งเป็น เซกเมนต์ข้าวหอมมะลิ 98% ส่วนข้าวเซกเมนต์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มหรือข้าวกล้อง 2% ซึ่งเป็นตลาดที่ไม่มีอัตราการเติบโต แม้ว่ากระแสสุขภาพมาแรงสำหรับผู้บริโภคคนไทยก็ตาม เนื่องจากมีความยุ่งยากในการปรุงและไม่อร่อย อย่างไรก็ตามสำหรับข้าวมาบุญครอง พลัส ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ไม่มีเวลาจัดเตรียมอาหาร บวกกับมีการคำนึงสุขภาพ คาดว่าจะช่วยผลักดันให้เซกเมนต์ข้าวที่สร้างมูลค่าเพิ่มขยายตัวเพิ่มเป็น 5%

ปีนี้บริษัทฯได้ทุ่มงบ 5 ล้านบาท สั่งซื้อเครื่องจักรมาบรรจุภัณฑ์ข้าวมาบุญครอง พลัส ที่ โรงงานนครราชสีมา นอกจากนี้ยังได้ปรับบรรจุภัณฑ์ข้าวหอมมะลิมาบุญครองใหม่ ภายใต้สโลแกนเดิมคือ “ข้าวมาบุญครอง สะอาดทุกถุง หุงขึ้นหม้อ” ทั้งนี้การปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ก็เพื่อให้ตราสินค้ามีความทันสมัยมากขึ้น อย่างไรก็ตามหลังจากที่บริษัทดำเนินทางการตลาดในเชิงรุกเพื่อรองรับการเติบโตของสินค้าเฮาส์แบรนด์ คาดว่าสิ้นปีนี้ข้าวมาบุญครองจะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 15% เป็น 20%

นายสมเกียรติ มรรคยาธร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี จำกัด มหาชน เปิดเผยว่า ขณะเดียวกันบริษัทยังได้วางแผนรุกขยายตลาดส่งออกมากขึ้น หลังจากการเริ่มทำตลาดส่งออกไปเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมานี้ ในยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย ภายใต้แบรนด์ในแต่ละประเทศ โดยในช่วงปลายปีนี้จะเริ่มส่งออกข้าวภายใต้แบรนด์มาบุญครอง พลัส เป็นครั้งแรก นำร่องเปิดตลาดในยุโรปและอเมริกา

ทั้งนี้บริษัทฯตั้งเป้า 2 ปีนี้ สัดส่วนรายได้ส่งออกเป็น 50% และภายในประเทศ 50% โดยตั้งเป้าปี 2550 ส่งออกเพิ่มเป็น 30% หรือมีรายได้ 500 ล้านบาท จากเมื่อปี 2549 (ปิดรอบบัญชีเดือนกรกฎาคม ปี 2548 – มิถุนายน ปี 2549) ส่งออกคิดเป็น 20% หรือมีรายได้ 300 ล้านบาท ส่วนปี 2548 ส่งออกคิดเป็น 5% ของรายได้ 80 ล้านบาท

“สถานการณ์การส่งออกข้าวไทยปีนี้ไม่ค่อยดีมากนัก คาดว่าว่ายอดขายจะลดลงจาก 7.5 ล้านตัน เหลือเป็นเพียง 7.3 –7.4 ล้านบาท เนื่องจากข้าวมีราคาแพงเกินไป เพราะปีนี้รัฐบาลรับประกันราคาข้าวราคาที่สูงเกินไป อย่างไรก็ตามปัจจุบันไทยยังเป็นประเทศที่ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งของโลกอยู่ อันดับสองเป็นเวียดนาม 5 ล้านตัน อันดับสาม อเมริกา-อินเดีย 2-3 ล้านตัน จากตลาดข้าวรวมทั่วโลก 24 ล้านตัน”

สำหรับผลประกอบการข้าวมาบุญครองปี 2550 ตั้งเป้า 2,400 ล้านบาท จากปี 2549 มีรายได้ 1,700 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น ภายในประเทศ 600 ล้านบาท การส่งออก 500 ล้านบาท และข้าวมาบุญครอง พลัส 300 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น