กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.เชื่อว่าเขตฟรีโซนภายใน “สุวรรณภูมิ” จะทำให้ผู้ส่งออก-ผู้นำเข้าและผู้ผลิตสินค้า ประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น และอนาคตจะผลักดันให้มีฟรีโซนให้มากขึ้นอีก คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้
นายโชติศักดิ์ อาสภวิริยะ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน (ทอท.) กล่าวในระหว่างงานเสวนาหัวข้อ “ศักยภาพและโอกาสในการแข่งขันด้านสินค้าบริการและสิ่งอำนวยความสะดวก” ถึงเขตฟรีโซนภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า เป็นอีกมิติใหม่ที่ทำให้ผู้ส่งออกสินค้าและผู้นำเข้าสินค้ารวมไปถึงผู้ผลิตสินค้าได้ประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น และในอนาคตทางการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยได้เตรียมแผนที่จะผลักดันให้ภายในเขตฟรีโซน มีโกดังกักเก็บสินค้าที่เตรียมจะขึ้นเครื่องบินเพิ่มขึ้นอีกมากกว่าในปัจจุบัน โดยทางการท่ากำลังเตรียมแผนเพิ่มเติมอยู่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้
“เขต ฟรีโซน เป็นอีกมิติที่ทำให้ผู้ส่งออก ผู้นำเข้า และผู้ผลิต ประหยัดต้นทุนได้มากขึ้น โดยมีพื้นที่กว่า 20,000 ตารางเมตร และก็จะผลักดันให้เกิดโกดังสินค้าที่ต้องขึ้นเครื่องบิน โดยกำลังเตรียมแผนเพิ่มเติมอยู่” นายโชติศักดิ์กล่าว
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย ยังได้กล่าวด้วยว่า มีแนวคิดที่จะสร้างให้สุวรรณภูมิเป็นที่รับใช้ชุมชน โดยในอนาคตการคมนาคมขนส่งภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิทั้งหมดจะทำเป็นระบบเดียวเชื่อมโยงจากจุดเชื่อมต่อในทุก ๆ จุด ซึ่งจากลักษณะที่ตั้งของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิถือว่า เหมาะสมมากหากนับจากจุดใจกลางกรุงเทพมหานครมายังสุวรรณภูมิก็จะมีระยะห่างเพียงแค่ 25 กม. นอกจากนี้จะทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นเสมือนประตูสู่ขุมทรัพย์ของคนไทยให้สามารถไขว่คว้าหาประโยชน์ได้จากการเปิดสนามบินใหม่ ซึ่งทางการท่าเอง ยังมีในการเตรียมความพร้อมเพื่อสนับสนุนการสร้างบุคลากรในด้านต่าง ๆ เช่นในด้านของการส่งออก หรือบุคลากรทางด้านการบิน
นายโชติศักดิ์ อาสภวิริยะ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน (ทอท.) กล่าวในระหว่างงานเสวนาหัวข้อ “ศักยภาพและโอกาสในการแข่งขันด้านสินค้าบริการและสิ่งอำนวยความสะดวก” ถึงเขตฟรีโซนภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า เป็นอีกมิติใหม่ที่ทำให้ผู้ส่งออกสินค้าและผู้นำเข้าสินค้ารวมไปถึงผู้ผลิตสินค้าได้ประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น และในอนาคตทางการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยได้เตรียมแผนที่จะผลักดันให้ภายในเขตฟรีโซน มีโกดังกักเก็บสินค้าที่เตรียมจะขึ้นเครื่องบินเพิ่มขึ้นอีกมากกว่าในปัจจุบัน โดยทางการท่ากำลังเตรียมแผนเพิ่มเติมอยู่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้
“เขต ฟรีโซน เป็นอีกมิติที่ทำให้ผู้ส่งออก ผู้นำเข้า และผู้ผลิต ประหยัดต้นทุนได้มากขึ้น โดยมีพื้นที่กว่า 20,000 ตารางเมตร และก็จะผลักดันให้เกิดโกดังสินค้าที่ต้องขึ้นเครื่องบิน โดยกำลังเตรียมแผนเพิ่มเติมอยู่” นายโชติศักดิ์กล่าว
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย ยังได้กล่าวด้วยว่า มีแนวคิดที่จะสร้างให้สุวรรณภูมิเป็นที่รับใช้ชุมชน โดยในอนาคตการคมนาคมขนส่งภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิทั้งหมดจะทำเป็นระบบเดียวเชื่อมโยงจากจุดเชื่อมต่อในทุก ๆ จุด ซึ่งจากลักษณะที่ตั้งของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิถือว่า เหมาะสมมากหากนับจากจุดใจกลางกรุงเทพมหานครมายังสุวรรณภูมิก็จะมีระยะห่างเพียงแค่ 25 กม. นอกจากนี้จะทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นเสมือนประตูสู่ขุมทรัพย์ของคนไทยให้สามารถไขว่คว้าหาประโยชน์ได้จากการเปิดสนามบินใหม่ ซึ่งทางการท่าเอง ยังมีในการเตรียมความพร้อมเพื่อสนับสนุนการสร้างบุคลากรในด้านต่าง ๆ เช่นในด้านของการส่งออก หรือบุคลากรทางด้านการบิน