xs
xsm
sm
md
lg

ไมเนอร์โหมสปาโกอินเตอร์ ผุดแบรนด์ใหม่สไตล์ตะวันตก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอ็มสปา อินเตอร์เนชั่นแนลเตรียมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ที่มีภาพลักษณ์เป็นตะวันตกในเดือนตุลาคม 2549 นี้ หวังใช้รุกตลาดต่างประเทศ  ตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปีนี้ขยายสาขาครอบคลุมทั่วโลกกว่า 100 แห่งและจะมียอดรายได้กว่า 2 พันล้านบาทหรือโต 4 เท่าตัว   สำหรับตลาดไทยเล็งเปิดสปาปีละ 2 แห่ง ทั้งเชียงใหม่ สมุย และสาขา 2 ที่พัทยา เชื่อได้รับอานิสงส์จากการที่สนามบินแห่งใหม่เตรียมเปิดบริการ   


นายสตีเวน คองคีย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท เอ็มสปา อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในเครือไมเนอร์กรุ๊ป ผู้ลงทุนและบริหารธุรกิจสปาทั่วโลก ภายใต้แบรนด์อนันตาราและมันดารา สปา เปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมเปิดตัวแบรนด์สปาแบรนด์ใหม่ที่มีความเป็นตะวันตก ทั้งภาพลักษณ์และคาแรคเตอร์ของแบรนด์ เพื่อใช้ในการรุกตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะ

จากปัจจุบันแบรนด์ที่มีอยู่ทั้ง 2 แบรนด์ คือ อนันตาราและมันดารามีภาพลักษณ์เป็นเอเชียนแบรนด์ โดยแผนการทำตลาดสำหรับแบรนด์ใหม่จะมีการทำตลาดผ่านช่องทางต่างๆ เช่น สื่อนิตยสาร,ไดเรค มาร์เก็ตติ้ง และการทำโค-โปรโมชั่น ฯลฯ ทั้งนี้คาดว่าแบรนด์ใหม่จะเปิดตัวในเดือนตุลาคม 2549นี้ที่กลุ่มตะวันออกกลางก่อนเป็นที่แรก จากนั้นถึงทยอยไปยังเครือข่ายทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย

ขณะที่แผนการลงทุนของบริษัทฯในช่วงระยะเวลา 3 ปีต่อจากนี้ไป บริษัทฯได้ตั้งเป้าหมายการขยายสาขาสปาภายใต้ทั้ง 3 แบรนด์ไปยังโรงแรมหรือรีสอร์ทระดับห้าดาวให้ได้ครอบคลุมกว่า 100 แห่งทั่วโลก โดยเล็งขยายสาขาเพิ่มไปยังตลาดใหม่และตลาดเดิม อาทิ ประเทศแถบเอเชียอย่างไทย,จีน,ฮ่องกง,อินเดีย รวมถึงการรุกตลาดไปยังยุโรป ,อเมริกา และกลุ่มตะวันออกกลางมากขึ้น

เนื่องจากเชื่อว่า ธุรกิจสปายังเป็นธุรกิจที่มีอนาคตและมีอัตราการเติบโตไปได้อีก 10 ปี เหตุเพราะคนให้ความสำคัญกับเรื่องการดูแลสุขภาพมากขึ้น ซึ่งในส่วนงบลงทุนการเปิดสปาแต่ละแห่งจะขึ้นอยู่กับพื้นที่ของสปา อาทิ ขนาดพื้นที่ 500 ตารางเมตรจะใช้งบลงทุนกว่า 20 ล้านบาท เป็นต้น ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทฯมีสาขาสปารวมกว่า 25 สาขา

สำหรับตลาดประเทศไทยปัจจุบันบริษัทฯมีสปารวมอยู่ทั้งหมด 13 สาขา แบ่งเป็นมันดารา สปามี 7 แห่ง , อนันตารา สปา 3 แห่ง และสปาตามออเดอร์หรือทำแบรนด์ตามที่ลูกค้าสั่ง ขณะนี้มี 3 แห่ง ได้แก่ เดอะสปาที่โรงแรมโฟร์ซีซั่น กรุงเทพฯ , สปา แอทธินีที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี กรุงเทพฯ และรอยัล การ์เด้น สปาของโรงแรมพัทยา แมริออทฯ

“บริษัทฯเล็งขยายสาขาในไทยเพิ่มหลายแห่งหรือประมาณ 2 สปาต่อปี อาทิ ที่เชียงใหม่ เชียงราย, ภูเก็ตมีแล้ว 1 แห่งเล็งขยายสาขาที่ 2 เพิ่ม ,ที่สมุย เล็งเปิดสาขาเพิ่ม ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นเจรจากับพาร์ทเนอร์อยู่ ขณะที่พัทยาก็เป็นสถานที่ที่น่าลงทุนเปิดสาขาที่ 2 เพิ่ม เนื่องจากการเปิดตัวของสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งตรงนี้จะทำให้พัทยาได้รับผลดีและมีศักยภาพการเติบโตสูงในอนาคต นอกจากนี้เรายังเล็งขยายสาขาไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น ขอนแก่นและอุดรธานี เป็นต้น”

ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการสปาของบริษัทฯ แบ่งออกเป็น ลูกค้าอินเตอร์เนชั่นแนล 90% และคนไทย 10% โดยลูกค้าต่างชาติที่มาใช้บริการมากที่สุด ได้แก่ อเมริกา,สหราชอาณาจักร,ญี่ปุ่น,เยอรมันี และจีน เป็นต้น ในอนาคตบริษัทฯมีแผนทำการตลาดเพื่อให้ลูกค้าคนไทยมาใช้บริการสปามากขึ้น อาทิ การจัดทำแคมเปญ และทำโค-โปรโมชั่น เป็นต้น

สำหรับยอดรายได้สิ้นปีของบริษัทฯคาดว่าจะมีประมาณ 500-600 ล้านบาท ซึ่งภาพรวมยอดรายได้ของบริษัทฯในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้พบว่ามีอัตราการเติบโต 30% ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เติบโตมาจากธุรกิจในต่างประเทศที่มีอัตราการโตมากกว่า 100% เนื่องจากบริษัทฯมีการขยายสาขาเพิ่มไปในหลายประเทศ เช่น จีน รวมถึงการที่แบรนด์อนันตารา สปาและมันดารา สปาเป็นที่รู้จักของลูกค้าและเมื่อมาใช้บริการก็มีการบอกปากต่อปากไปยังคนรู้จัก เป็นต้น

ขณะที่ยอดรายได้อีก 3 ปีหรือในปีพ.ศ. 2552 บริษัทฯคาดหวังในส่วนของยอดรายได้จะมีประมาณ 2,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตขึ้น 4 เท่าจากปัจจุบัน ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ยอดรายได้เติบโตมากมาจากการขยายสาขาเพิ่มทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงการพัฒนาโปรดักส์ โปรแกรมและบริการอย่างต่อเนื่อง
กำลังโหลดความคิดเห็น