เมโทรมอลล์เร่งหาคู่ค้าอุดพื้นที่ว่าง ฮึดเปิดสถานีรัชดาชูเลิร์นนิ่งสเตชั่น

เมโทรมอลล์เตรียมเผยโฉมแห่งที่สาม สถานีรัชดาภิเษก ชูคอนเซ็ปท์ เลิร์นนิ่งสเตชั่น รองรับสถานศึกษาในย่านนั้น พร้อมเร่งอุดช่องโหว่พื้นที่ว่าง 2 สถานีแรก สุขุมวิทและพหลโยธิน หาร้านค้าประเภท ไลฟ์สไตล์เดลี่ เข้ามาเช่าพื้นที่ เจียดงบ 2 ล้านบาท ทำกิจกรรมตลาดต่อเนื่อง คาดหวังสาถนีพหลโยธินมีทราฟฟิกเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 7,000 คนต่อวัน

นายคุณานันท์ ทยายุทธ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เมโทร มอลล์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ผู้บริหารพื้นที่ค้าปลีกสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯได้เปิดให้บริการพื้นที่ค้าปลีกเมโทรมอลล์สถานีสุขุมวิทและพหลโยธินมาประมาณปีเศษนั้น ถือได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง ล่าสุดบริษัทฯมีแผนที่จะเปิดให้บริการเมโทรมอลล์สถานีรัชดาภิเษก เป็นสาขาที่ 3 โดยจะสร้างให้มีรูปแบบเฉพาะทางมากขึ้น ในรูปแบบ “เลิร์นนิ่งสเตชั่น” หรือสถานีแห่งการเรียนรู้

“สำหรับสถานีรัชดาภิเษกนั้น จากศักยภาพที่มีอยู่จะพบว่า จะมีโรงเรียนและสถานศึกษาค่อนข้างมาก ดังนั้นทางบริษัทฯจึงได้วางโพซิชั่นนิ่งเมโทรมอลล์ที่สถานีรัชดาภิเษกเป็นรูปแบบเลิร์นนิ่งสเตชั่น บนพื้นที่ประมาณ 1,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับการเทรนด์ในย่านนั้น แบ่งเป็น พื้นที่ของโรงเรียนกวดวิชา 80% หรือประมาณ 10 โรงเรียน และพื้นที่สำหรับให้บริการทั่วไปอีก 20% โดยในขณะนี้ทางบริษัทฯได้ดำเนินการติดต่อไปยังโรงเรียนกวดวิชาต่างๆแล้ว แต่จะสามารถเปิดให้บริการเมื่อใดนั้น คงต้องรอความพร้อมมากกว่านี้จึงจะสามารถเปิดเผยได้”

อย่างไรก็ตาม สำหรับเมโทรมอลล์สถานีสุขุมวิท ที่ถือเป็นเมโทรมอลล์สาขาแรกที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2548 ที่ผ่านมานั้น ปัจจุบันมีจำนวนร้านค้าที่เปิดให้บริการประมาณ 15 ราย คิดเป็น 80% ของจำนวนพื้นที่ทั้งหมดที่มีประมาณ 700 ตารางเมตร รองรับจำนวนลูกค้ากลุ่มนักธุรกิจที่เข้ามาใช้บริการในปัจจุบันประมาณ 8,000-10,000 คนต่อวันสำหรับวันจันทร์-ศุกร์ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์จะลดลงเหลือ 5,000 คนต่อวัน

ในขณะที่สถานีพหลโยธินเริ่มเปิดให้บริการมาตั้งแต่ต้นปี 2549 เป็นต้นมา ปัจจุบันในวันธรรมดามีผู้เข้ามาใช้บริการส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นและนักศึกษาเฉลี่ย 3,000 คนต่อวัน ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ลดลงเหลือ 2,000 คนต่อวัน กับจำนวนร้านค้าประมาณ 20 ร้านค้า คิดเป็น 60% ของจำนวนพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 1,000 ตารางเมตร

นายคุณานันท์ กล่าวต่อว่า ความจริงแล้วศักยภาพของสถานีพหลโยธินนั้นน่าจะมีจำนวนลูกค้าเข้ามาใช้บริการได้มากถึง 6,000-7,000 รายต่อวัน แต่ตัวเลขที่เกิดขึ้นยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ว่านั้นดังนั้นบริษัทฯจึงจัดสรรงบประมาณทางการตลาดไว้ประมาณ 2 ล้านบาท สำหรับการจัดกิจกรรมต่างๆให้มากขึ้น เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้เกิดการรับรู้อีกทางหนึ่งและเป็นการดึงดูดผู้บริโภคให้เข้ามาเดินมากขึ้น

นอกจากนี้บริษัทฯจะมุ่งเน้นร้านค้าที่มีความประสงค์จะเข้ามาเปิดให้บริการในเมโทรมอลล์ทั้งสองสาขาที่ยังมีพื้นที่เหลืออยู่นั้น ในรูปแบบที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์เดลี่มากยิ่งขึ้น โดยทางบริษัทฯได้มองสินค้าที่จะตอบสนองไลฟ์สไตล์เดลี่ดังกล่าวไว้ที่ 20 แคทธิกลอรี่ ซึ่งในขณะนี้ยังขาดอยู่ประมาณ 2- 3 แคทธิกลอรี่ เช่น ร้านซักแห้ง ทัวร์ หรือคลีนิกความงาม เป็นต้น

อย่างไรก็ตามสำหรับรายได้ที่ทางเมโทรมอลล์จะได้รับนั้น จะมาจากค่าเช่าพื้นที่ของแต่ละร้านค้าที่มีอยู่ โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 1,000-3,000 บาท ต่อตารางเมตรต่อเดือน ในขณะที่แต่ละร้านที่เช่าพื้นที่นั้น จะมีทั้งขนาดตั้งแต่ 8 ตารางเมตร, 20 ตารางเมตร และ 50 ตารางเมตร เป็นต้น

โดยบริษัทฯมีพื้นที่ในการเปิดให้บริการเมโทรมอลล์อยู่ทั้งหมด 11 สถานีที่ได้รับสัมปทานมา แต่เปิดให้บริการแล้ว 2 สาขา คือ สถานีสุขุมวิทและสถานีพหลโยธิน โดยมีสถานีรัชดาภิเษกเป็นสาขาต่อไปที่จะเปิดให้บริการ ส่วนสถานีอื่นที่เหลือนั้นอยู่ระหว่างการเตรียมการคาดว่าจะทยอยเปิดตัวได้ในเร็วๆนี้