ไทยเร่งกระชับความสัมพันธ์การค้า-การลงทุนและการท่องเที่ยวกับมณฑลเหลียวหนิง “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ระบุเป็นมณฑลที่สำคัญของจีน เพราะประชากรมีกำลังซื้อสูง อีกทั้งเป็นแหล่งประกอบการของภาคอุตสาหกรรมหนัก อาทิ ยานยนต์ เหล็กและเครื่องจักร เตรียมตั้งสถานกงสุลและสำนักงานการค้าในมณฑลเหลียวหนิงอำนวยความสะดวกทางเศรษฐกิจมากขึ้น
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในโอกาสนำคณะผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของไทยเยือนนครเสิ่นหยาง และต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ซึ่งเป็นมณฑลทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ว่า มณฑลดังกล่าวถือว่าเป็นอีกมณฑลหนึ่งที่มีความสำคัญของจีน เพราะเป็นมณฑลที่ประกอบอุตสาหกรรมสำคัญที่เชื่อมต่อกับเกาหลีใต้และจีน อาทิ ยานยนต์ เหล็กและเครื่องจักร ขณะที่ประชากรในมณฑลเหลียวหนิงก็สนใจอาหารและผลไม้ของไทย เพราะมีกำลังซื้อสูง จึงเป็นช่องทางที่ดีของไทยที่จะเพิ่มโอกาสการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวกับมณฑลเหลียวหนิง แต่ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าไทยยังติดต่อกับมณฑลนี้ค่อนข้างน้อย
นายสมคิด กล่าวว่า จากการพบปะกับนายเฉิน เจิ้ง เกา เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ และนายจาง เหวิน เย่ว ผู้ว่าการมณฑลเหลียวหนิงต่างสนับสนุนให้ 2 ฝ่ายมีความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกันให้มากขึ้น โดยในส่วนความร่วมมือด้านการลงทุน ผู้ประกอบการของมณฑลเหลียวหนิง ซึ่งมีอุตสาหกรรมรถยนต์เป็นอุตสาหกรรมสำคัญและสามารถแข่งขันได้กับรถยนต์จากญี่ปุ่น เกาหลีใต้หรือยุโรป ก็พร้อมจะไปลงทุนในประเทศไทย ซึ่งประมาณต้นปีหน้า ผู้ประกอบการด้านยานยนต์ของมณฑลเหลียวหนิงจะเดินทางไปเยือนไทย และจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการลงทุนจากมณฑลเหลียวหนิงด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศได้ ขณะเดียวกันน่าจะมีการตั้งจุดกระจายสินค้าของไทยในมณฑลเหลียวหนิง ซึ่งมีท่าเรือที่สำคัญได้ และน่าจะเพิ่มโอกาสการค้าของสินค้าไทยในพื้นที่ด้านตะวันออกเฉียงเหนือของจีนได้อีกมาก
ส่วนอุปสรรคทางการค้าเกี่ยวกับกฎระเบียบต่าง ๆ ก็ได้มีการหารือกันและจีนก็รับปากพร้อมจะอำนวยความสะดวกให้แก่สินค้าไทย ซึ่งเชื่อว่าอุปสรรคปัญหาการค้าสำหรับสินค้าไทยที่ส่งออกไปยังจีนจะลดลงไปเรื่อย ๆ สำหรับด้านการท่องเที่ยว จะมีการผลักดันให้เปิดเที่ยวบินตรงระหว่างเสิ่นหยางและต้าเหลียน ซึ่งเป็น 2 เมืองสำคัญของมณฑลเหลียวหนิงกับประเทศไทยในอนาคต โดยตั้งเป้าหมายมีนักท่องเที่ยวคุณภาพจากมณฑลเหลียวหนิงเดินทางเที่ยวในประเทศไทยอย่างน้อย 100,000 คน
“ผมยังให้นโยบายกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ว่า ในช่วงงานราชพฤกษ์ 2549 หรืองานพืชสวนโลก ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พยายามส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยดึงนักท่องเที่ยวจากจีนทั่วประเทศให้ไปท่องเที่ยวในไทย ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนสนใจงานดังกล่าวจำนวนมาก” นายสมคิด กล่าว
รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวอีกว่า เพื่ออำนวยความสะดวกให้การค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวของไทยกับมณฑลเหลียวหนิงในอนาคต จะมีการตั้งสถานกงสุลไทยในนครเสิ่นหยาง เพื่อช่วยดูแลเกี่ยวกับ 3 เรื่องดังกล่าวในเร็ว ๆ นี้ด้วย
ด้านนางจันทรา บูรณฤกษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์เองมีแผนตั้งสำนักงานการค้าในมณฑลเหลียวหนิง เพราะมองว่ามีโอกาสที่การค้าของไทยจะขยายมายังเหลียวหนิงได้อีกมาก โดยสินค้าของไทยที่มีโอกาสเติบโตในมณฑลเหลียวหนิง อาทิ ผลไม้ อาหารและข้าว ซึ่งได้รับความนิยมจากคนในมณฑลเหลียวหนิงมาก และประมาณวันที่ 10 ตุลาคมนี้ หน่วยงานของมณฑลเหลียวหนิงพร้อมกับผู้ประกอบการด้านยานยนต์จะเดินทางเยือนประเทศไทย ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ไทยจะจัดงานด้านยานยนต์ จึงเป็นโอกาสที่จะเริ่มมีการเจรจาการค้าและการลงทุนของผู้ประกอบการด้านยานยนต์ของมณฑลเหลียวหนิงกับผู้ประกอบการด้านยานยนต์ของไทยในอนาคต
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในโอกาสนำคณะผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของไทยเยือนนครเสิ่นหยาง และต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ซึ่งเป็นมณฑลทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ว่า มณฑลดังกล่าวถือว่าเป็นอีกมณฑลหนึ่งที่มีความสำคัญของจีน เพราะเป็นมณฑลที่ประกอบอุตสาหกรรมสำคัญที่เชื่อมต่อกับเกาหลีใต้และจีน อาทิ ยานยนต์ เหล็กและเครื่องจักร ขณะที่ประชากรในมณฑลเหลียวหนิงก็สนใจอาหารและผลไม้ของไทย เพราะมีกำลังซื้อสูง จึงเป็นช่องทางที่ดีของไทยที่จะเพิ่มโอกาสการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวกับมณฑลเหลียวหนิง แต่ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าไทยยังติดต่อกับมณฑลนี้ค่อนข้างน้อย
นายสมคิด กล่าวว่า จากการพบปะกับนายเฉิน เจิ้ง เกา เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ และนายจาง เหวิน เย่ว ผู้ว่าการมณฑลเหลียวหนิงต่างสนับสนุนให้ 2 ฝ่ายมีความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกันให้มากขึ้น โดยในส่วนความร่วมมือด้านการลงทุน ผู้ประกอบการของมณฑลเหลียวหนิง ซึ่งมีอุตสาหกรรมรถยนต์เป็นอุตสาหกรรมสำคัญและสามารถแข่งขันได้กับรถยนต์จากญี่ปุ่น เกาหลีใต้หรือยุโรป ก็พร้อมจะไปลงทุนในประเทศไทย ซึ่งประมาณต้นปีหน้า ผู้ประกอบการด้านยานยนต์ของมณฑลเหลียวหนิงจะเดินทางไปเยือนไทย และจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการลงทุนจากมณฑลเหลียวหนิงด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศได้ ขณะเดียวกันน่าจะมีการตั้งจุดกระจายสินค้าของไทยในมณฑลเหลียวหนิง ซึ่งมีท่าเรือที่สำคัญได้ และน่าจะเพิ่มโอกาสการค้าของสินค้าไทยในพื้นที่ด้านตะวันออกเฉียงเหนือของจีนได้อีกมาก
ส่วนอุปสรรคทางการค้าเกี่ยวกับกฎระเบียบต่าง ๆ ก็ได้มีการหารือกันและจีนก็รับปากพร้อมจะอำนวยความสะดวกให้แก่สินค้าไทย ซึ่งเชื่อว่าอุปสรรคปัญหาการค้าสำหรับสินค้าไทยที่ส่งออกไปยังจีนจะลดลงไปเรื่อย ๆ สำหรับด้านการท่องเที่ยว จะมีการผลักดันให้เปิดเที่ยวบินตรงระหว่างเสิ่นหยางและต้าเหลียน ซึ่งเป็น 2 เมืองสำคัญของมณฑลเหลียวหนิงกับประเทศไทยในอนาคต โดยตั้งเป้าหมายมีนักท่องเที่ยวคุณภาพจากมณฑลเหลียวหนิงเดินทางเที่ยวในประเทศไทยอย่างน้อย 100,000 คน
“ผมยังให้นโยบายกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ว่า ในช่วงงานราชพฤกษ์ 2549 หรืองานพืชสวนโลก ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พยายามส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยดึงนักท่องเที่ยวจากจีนทั่วประเทศให้ไปท่องเที่ยวในไทย ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนสนใจงานดังกล่าวจำนวนมาก” นายสมคิด กล่าว
รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวอีกว่า เพื่ออำนวยความสะดวกให้การค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวของไทยกับมณฑลเหลียวหนิงในอนาคต จะมีการตั้งสถานกงสุลไทยในนครเสิ่นหยาง เพื่อช่วยดูแลเกี่ยวกับ 3 เรื่องดังกล่าวในเร็ว ๆ นี้ด้วย
ด้านนางจันทรา บูรณฤกษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์เองมีแผนตั้งสำนักงานการค้าในมณฑลเหลียวหนิง เพราะมองว่ามีโอกาสที่การค้าของไทยจะขยายมายังเหลียวหนิงได้อีกมาก โดยสินค้าของไทยที่มีโอกาสเติบโตในมณฑลเหลียวหนิง อาทิ ผลไม้ อาหารและข้าว ซึ่งได้รับความนิยมจากคนในมณฑลเหลียวหนิงมาก และประมาณวันที่ 10 ตุลาคมนี้ หน่วยงานของมณฑลเหลียวหนิงพร้อมกับผู้ประกอบการด้านยานยนต์จะเดินทางเยือนประเทศไทย ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ไทยจะจัดงานด้านยานยนต์ จึงเป็นโอกาสที่จะเริ่มมีการเจรจาการค้าและการลงทุนของผู้ประกอบการด้านยานยนต์ของมณฑลเหลียวหนิงกับผู้ประกอบการด้านยานยนต์ของไทยในอนาคต