เจ้าพ่อเกสท์เฮ้าส์ "สวัสดี" และร้านอาหาร ซิลค์ บาร์ อัพเกรดแตกแบรนด์ "วรบุรี" ขึ้นแท่นโรงแรม 4 ดาว เพิ่มทางเลือกครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เผย 1 ปี ลงทุนมากกว่า 1,500 ล้านบาท เปิดวรบุรี 3 แห่ง ภูเก็ต อยุธยา ทองหล่อ ระบุ 10 ปีคืนทุน เผยยังมีที่ดินรอการพัฒนาอีกหลายแปลง แต่เมินลงทุนที่เชียงใหม่ เหตุตลาดดังกล่าวแข่งขันด้านราคาสูง และมีนักท่องเที่ยวเฉพาะฤดูกาลเท่านั้น
นายณัฐวัชร์ นาคาพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด สวัสดี แอนด์ วรบุรี กรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ขยายธุรกิจ ด้วยการเปิดตัวโรงแรมระดับ 4 ดาว ภายใต้ชื่อ " วรบุรี" โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ 1 ปีที่ผ่านมา ด้วยเงินลงทุนกว่า 1,500 ล้านบาท ใน 3 โลเกชั่น ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วทั้งหมด ได้แก่ วรบุรี ทองหล่อ เงินลงทุน 400 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวปีหน้า ,วรบุรี รีสอร์ท แอนด์ สปา ภูเก็ต เงินลงทุน 500 ล้านบาท และวรบุรี รีสอร์ท แอนด์ สปา อยุธยา เงินลงทุน 450 ล้านบาท คาดว่าทั้งหมดจะใช้เวลาคืนทุนภายใน 10 ปี โดยแต่ละแห่งจะเป็นโรงแรมขนาดกลาง สูงไม่เกิน 5 ชั้น อัตราค่าห้องพักอยู่ในเรต 3,000-10,000 บาทต่อคืน นอกจากนั้นยังมีวรบุรี สุขุมวิทซอยนานา ที่เปิดให้บริการแล้ว
ทั้งนี้การตัดสินใจขยายธุรกิจก็เพื่อตอบรับกับความต้องการของลูกค้าให้ครอบคลุมทุกเซกเมนต์มากขึ้น เป็นการกระจายความเสี่ยงทางการตลาด โดยแบรนด์วรบุรีจะเน้นกลุ่มนักธุรกิจ และกลุ่มครอบครัวเป็นหลัก ขณะเดียวกันมองว่าแบรนด์วรบุรีจะเข้ามาช่วยเสริมแบรนด์ "สวัสดี" ให้ดูเข้มแข็งขึ้น ส่วนในอนาคต มีแผนขยายธุรกิจไปสู่การรับบริหารจัดการโรงแรม
อย่างไรก็ตามบริษัทฯมีแผนที่จะรีโนเวตโรงแรมสวัสดี พัทยากลาง แล้วอัพแบรนด์ขึ้นเป็นวรบุรี เพื่อตอบรับการเปิดตัวของสนามบินสุวรรณภูมิ เพราะเห็นว่าเมื่อเปิดใช้สนามบินแล้ว พัทยาจะได้รับประโยชน์ด้านการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น โดยเชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจเดินทางเข้ามาพัทยาเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีความสะดวก ใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมง
นายณัฐวัชร์ กล่าวอีกว่า บริษัทฯยังมีที่ดินอีกจำนวนหนึ่งตามจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหัวเมืองใหญ่ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย แต่ยังมองว่าไม่คุ้มกับการลงทุน เพราะจากประสบการณ์ในธุรกิจโรงแรมมากว่า 13 ปี พบว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาประเทศไทย นอกจากจะเที่ยวในกรุงเทพฯแล้ว ส่วนใหญ่จะยังคงนิยมไปเที่ยวทะเล หาดทรายมากกว่าการเที่ยวภูเขา อีกทั้งมองว่าธุรกิจโรงแรมในเชียงใหม่มีการแข่งขันด้านราคากันมาก และนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางเฉพาะช่วงฤดูหนาวเท่านั้น จึงยังไม่สนใจเข้าไปลงทุนในขณะนี้
ส่วนเรื่องช่องทางจัดจำหน่ายบริษัทฯมีเอเยนต์ จัดจำหน่าย และอีกส่วนหนึ่งเป็นการจองผ่านเว็บไซต์ ซึ่งโรงแรมสวัสดีจะมีฐานลูกค้าจำนวนมาก เพราะเปิดดำเนินการมายาวนาน ดังนั้นเมื่อเพิ่มแบรนด์วรบุรีเข้าไปในเว็บไซต์จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่ลูกค้า นอกจากนั้นยังออกเดินสายโรดโชว์ในต่างประเทศ โดยไปกับสมาคมโรงแรม และการท่องเที่ยวแห่งประเทศ เป็นต้น และช่วงเดือนนี้เป็นต้นไป มีแผนไปโรดโชว์ที่ประเทศอังกฤษ และกลุ่มยุโรป ซึ่งการโรดโชว์จะนำเสนอเฉพาะแบรนด์วรบุรีเท่านั้น
ทั้งนี้กิจการของ สวัสดี กรุ๊ป เป็นธุรกิจโรงแรมที่พักในกลุ่มเกสท์เฮ้าส์ ที่มีคุณภาพเน้นความสะอาดและปลอดภัยในราคาไม่แพง ซึ่งมีทั้งสิ้นจำนวน 16 แห่งตามแหล่งท่องเที่ยว ได้แก่ ย่านถนนสุขุมวิท , ถนนข้าวสาร ,พัทยา เป็นต้น เน้นที่เป็นแหล่งชุมชน ราคาห้องพักอยู่ที่ 500-1,000 บาทต่อคืน และแบรนด์วรบุรี 4 แห่ง รวมจำนวนห้องพักทั้งหมด ราว 1,200 ห้อง มีอัตราเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีที่ 70% ซึ่งเมื่อเพิ่มแบรนด์วรบุรี จะทำให้การเติบโตของกิจการเกือบก้าวกระโดด
นอกจากนั้นบริษัทฯยังมีกิจการในส่วนของร้านอาหารและสปา ได้แก่ ร้าน ซิลค์ บาร์ แอนด์ เรสเตอรอนท์ , ซันเซท สตรีท , ซันเซท บาร์ แอนด์ การ์เด้น เรสเตอรอนท์ , สบาย บาร์ แอนด์ เรสเตอรอนท์ และ สนุก บาร์ แอนด์ เรสเตอรอนท์ สำหรับสปา ซึ่งเพิ่งเปิดเป็นสาขาแรก ที่ วรบุรี ภูเก็ต รีสอร์ต แอนด์ สปา ภายใต้ชื่อ สลิลดารา สปา ในอนาคตมีแผนที่จะขยายสาขาไปยังที่อื่นๆด้วย
สำหรับลูกค้าเป้าหมายกว่า 60% เป็นชาวต่างชาติ เช่น ยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น เป้นต้น ถ้าเป็นแบรนด์สวัสดีจะเป็นกลุ่มแบกแพกเกอร์ ที่นิยมเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง มีการจองผ่านเว็บไซต์เป็นส่วนใหญ่ ขณะที่แบรนด์วรบุรีจะขึ้นกับสถานที่ตั้ง เช่น ภูเก็ต ก็จะเป็นชาวต่างชาติ ส่วน อยุธยา 80% จะเป็นคนไทย ในกลุ่มสัมมนา และเนื่องจากบริษัทฯมีทั้งโรงแรมที่พักและร้านอาหาร ทำให้สัดส่วนรายได้ระหว่างกิจการห้องพักกั กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม จะแบ่งเป็น 60 : 40
นายณัฐวัชร์ นาคาพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด สวัสดี แอนด์ วรบุรี กรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ขยายธุรกิจ ด้วยการเปิดตัวโรงแรมระดับ 4 ดาว ภายใต้ชื่อ " วรบุรี" โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ 1 ปีที่ผ่านมา ด้วยเงินลงทุนกว่า 1,500 ล้านบาท ใน 3 โลเกชั่น ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วทั้งหมด ได้แก่ วรบุรี ทองหล่อ เงินลงทุน 400 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวปีหน้า ,วรบุรี รีสอร์ท แอนด์ สปา ภูเก็ต เงินลงทุน 500 ล้านบาท และวรบุรี รีสอร์ท แอนด์ สปา อยุธยา เงินลงทุน 450 ล้านบาท คาดว่าทั้งหมดจะใช้เวลาคืนทุนภายใน 10 ปี โดยแต่ละแห่งจะเป็นโรงแรมขนาดกลาง สูงไม่เกิน 5 ชั้น อัตราค่าห้องพักอยู่ในเรต 3,000-10,000 บาทต่อคืน นอกจากนั้นยังมีวรบุรี สุขุมวิทซอยนานา ที่เปิดให้บริการแล้ว
ทั้งนี้การตัดสินใจขยายธุรกิจก็เพื่อตอบรับกับความต้องการของลูกค้าให้ครอบคลุมทุกเซกเมนต์มากขึ้น เป็นการกระจายความเสี่ยงทางการตลาด โดยแบรนด์วรบุรีจะเน้นกลุ่มนักธุรกิจ และกลุ่มครอบครัวเป็นหลัก ขณะเดียวกันมองว่าแบรนด์วรบุรีจะเข้ามาช่วยเสริมแบรนด์ "สวัสดี" ให้ดูเข้มแข็งขึ้น ส่วนในอนาคต มีแผนขยายธุรกิจไปสู่การรับบริหารจัดการโรงแรม
อย่างไรก็ตามบริษัทฯมีแผนที่จะรีโนเวตโรงแรมสวัสดี พัทยากลาง แล้วอัพแบรนด์ขึ้นเป็นวรบุรี เพื่อตอบรับการเปิดตัวของสนามบินสุวรรณภูมิ เพราะเห็นว่าเมื่อเปิดใช้สนามบินแล้ว พัทยาจะได้รับประโยชน์ด้านการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น โดยเชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจเดินทางเข้ามาพัทยาเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีความสะดวก ใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมง
นายณัฐวัชร์ กล่าวอีกว่า บริษัทฯยังมีที่ดินอีกจำนวนหนึ่งตามจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหัวเมืองใหญ่ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย แต่ยังมองว่าไม่คุ้มกับการลงทุน เพราะจากประสบการณ์ในธุรกิจโรงแรมมากว่า 13 ปี พบว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาประเทศไทย นอกจากจะเที่ยวในกรุงเทพฯแล้ว ส่วนใหญ่จะยังคงนิยมไปเที่ยวทะเล หาดทรายมากกว่าการเที่ยวภูเขา อีกทั้งมองว่าธุรกิจโรงแรมในเชียงใหม่มีการแข่งขันด้านราคากันมาก และนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางเฉพาะช่วงฤดูหนาวเท่านั้น จึงยังไม่สนใจเข้าไปลงทุนในขณะนี้
ส่วนเรื่องช่องทางจัดจำหน่ายบริษัทฯมีเอเยนต์ จัดจำหน่าย และอีกส่วนหนึ่งเป็นการจองผ่านเว็บไซต์ ซึ่งโรงแรมสวัสดีจะมีฐานลูกค้าจำนวนมาก เพราะเปิดดำเนินการมายาวนาน ดังนั้นเมื่อเพิ่มแบรนด์วรบุรีเข้าไปในเว็บไซต์จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่ลูกค้า นอกจากนั้นยังออกเดินสายโรดโชว์ในต่างประเทศ โดยไปกับสมาคมโรงแรม และการท่องเที่ยวแห่งประเทศ เป็นต้น และช่วงเดือนนี้เป็นต้นไป มีแผนไปโรดโชว์ที่ประเทศอังกฤษ และกลุ่มยุโรป ซึ่งการโรดโชว์จะนำเสนอเฉพาะแบรนด์วรบุรีเท่านั้น
ทั้งนี้กิจการของ สวัสดี กรุ๊ป เป็นธุรกิจโรงแรมที่พักในกลุ่มเกสท์เฮ้าส์ ที่มีคุณภาพเน้นความสะอาดและปลอดภัยในราคาไม่แพง ซึ่งมีทั้งสิ้นจำนวน 16 แห่งตามแหล่งท่องเที่ยว ได้แก่ ย่านถนนสุขุมวิท , ถนนข้าวสาร ,พัทยา เป็นต้น เน้นที่เป็นแหล่งชุมชน ราคาห้องพักอยู่ที่ 500-1,000 บาทต่อคืน และแบรนด์วรบุรี 4 แห่ง รวมจำนวนห้องพักทั้งหมด ราว 1,200 ห้อง มีอัตราเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีที่ 70% ซึ่งเมื่อเพิ่มแบรนด์วรบุรี จะทำให้การเติบโตของกิจการเกือบก้าวกระโดด
นอกจากนั้นบริษัทฯยังมีกิจการในส่วนของร้านอาหารและสปา ได้แก่ ร้าน ซิลค์ บาร์ แอนด์ เรสเตอรอนท์ , ซันเซท สตรีท , ซันเซท บาร์ แอนด์ การ์เด้น เรสเตอรอนท์ , สบาย บาร์ แอนด์ เรสเตอรอนท์ และ สนุก บาร์ แอนด์ เรสเตอรอนท์ สำหรับสปา ซึ่งเพิ่งเปิดเป็นสาขาแรก ที่ วรบุรี ภูเก็ต รีสอร์ต แอนด์ สปา ภายใต้ชื่อ สลิลดารา สปา ในอนาคตมีแผนที่จะขยายสาขาไปยังที่อื่นๆด้วย
สำหรับลูกค้าเป้าหมายกว่า 60% เป็นชาวต่างชาติ เช่น ยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น เป้นต้น ถ้าเป็นแบรนด์สวัสดีจะเป็นกลุ่มแบกแพกเกอร์ ที่นิยมเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง มีการจองผ่านเว็บไซต์เป็นส่วนใหญ่ ขณะที่แบรนด์วรบุรีจะขึ้นกับสถานที่ตั้ง เช่น ภูเก็ต ก็จะเป็นชาวต่างชาติ ส่วน อยุธยา 80% จะเป็นคนไทย ในกลุ่มสัมมนา และเนื่องจากบริษัทฯมีทั้งโรงแรมที่พักและร้านอาหาร ทำให้สัดส่วนรายได้ระหว่างกิจการห้องพักกั กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม จะแบ่งเป็น 60 : 40