ในภาวะที่เศรษฐกิจยังไม่กระเตื้องขึ้น กำลังซื้อของผู้บริโภคก็ถดถอยลงอีกต่างหาก สินค้าราคาแพงขึ้น แต่นักการตลาดยังคงเชื่อว่า คงไม่กระทบกับตลาดขนมไหว้พระจันทร์ในปีนี้เป็นแน่
เนื่องจากว่า ขนมไหว้พระจันทร์เป็นสินค้าที่เป็นฤดูกาล และมีความสำคัญต่อประเพณีการไหว้และความเชื่อของผู้บริโภคโดยเฉพาะคนจีนและคนไทย ที่ไหว้กันมานานแล้ว อีกทั้งราคาของขนมไหว้พระจันทร์ก็ไม่ใช่ว่าแพงเป็นหลักพันบาท ที่ไม่สามารถหาซื้อได้ และไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือยแต่อย่างไร จึงเชื่อว่า ตลาดขนมไหว้พระจันทร์ในปีนี้ก็ยังคงมีการซื้อขายกันอยู่อย่างปรกติ ซึ่งช่วงเวลาขายขนมไหว้พระจันทร์ปีนี้ก็อยู่ในช่วงระหว่าง กันยายนถึงตุลาคม ส่วนวันไหว้ปีนี้ตรงกับวันที่ 6 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ของจีน
อย่างไรก็ตาม ปีนี้ราคาขายของขนมไหว้พระจันทร์คงมีการปรับตัวสูงขึ้นกว่าปีที่แล้วบ้าง เนื่องจากต้นทุนการผลิตสูงขึ้น โดยเฉพาะแป้งและราคาน้ำมันที่ส่งผลอย่างมาก โดยเฉลี่ยแล้วปีนี้มีการปรับราคากันประมาณ 5-10%
แนวทางที่ผู้ประกอบการหันมาแข่งกันก็ยังคงอยู่ในรูปของการออกไส้ใหม่ๆ การออกแพคเกจจิ้งใหม่ๆเพื่อดึงดูดความสนใจในการซื้อ และการทำโปรโมชั่นเน้นส่วนลด
ในตลาดนี้มีผู้ประกอบการรายที่ทำกันเป็นประจำเช่น เอสแอนด์พีที่เป็นรายใหญ่ นอกนั้นก็มีบทบาทไม่แพ้กันเช่น เชียงการีล่า กาโตว์เฮ้าส์ แอมเวย์ หรือแม้แต่ร้านกาแฟอย่างสตาร์บัคส์ก็ติดใจทำต่อเนื่องอีกปี
โออิชิถอดใจไม่สนทำขนมไหว้พระจันทร์
ขณะที่ค่ายโออิชินั้นปีนี้กลับถอดใจไม่ทำตลาดอีกแล้วเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันจากปีที่แล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทำตลาดมา 3 ปีติดต่อกันและได้รับความนิยมอย่างมาก โดยผู้บริหารของโออิชิให้เหตุผลว่า ปีนี้ไม่ได้ทำเพราะมีโครงการหลายอย่างที่ต้องดำเนินการ จึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับตรงนี้เท่าใดนัก อีกทั้งมาร์จิ้นก็น้อยด้วย และตลาดก็ไม่ได้ใหญ่มากนัก ส่วนปีหน้าจะทำหรือไม่ยังไม่สามารถตอบได้
เอสแอนด์พีขนคาแรคเตอร์การ์ตูนดิสนีย์
ที่น่าสนใจของปีนี้คือ ค่ายเอสแอนด์พีที่เป็นรายใหญ่ในตลาดอยู่แล้ว เพราะปีนี้มาแปลกด้วยกลยุทธ์ การเอาคาแรคเตอร์ดังของอมริกามาใช้ที่ได้ซื้อลิขสิทธิ์มาคือ คาแรคเตอร์ของการ์ตูนดิสนีย์ มาพิมพ์ลงบนบรรจุภัณฑ์แบบกล่อง ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ใหม่ที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมของตะวันออกกับลิขสิทธิ์ของตะวันตกอย่างแปลกตา
นอกจากนั้นแล้วหน้าของขนมไหว้พระจันทร์เอสแอนด์พีก็ยังมีลูกเล่นทำเป็น ลายหมีพูห์ ลายมิกกี้เม้าส์ อีกต่างหาก เรียกได้ว่า ทั้งแพคเกจและสินค้า ฉีกแนวจากทุกค่ายอย่างสิ้นเชิง
ทั้งนี้การทำเช่นนี้ ทำให้เอสแอนด์พีสามารถขยายฐานกลุ่มเป้าหมายไปยังวัยรุ่นและเด็กได้มากขึ้นด้วย โดยใช้แรงดึงดูดจากคาแรคเตอร์เหล่านี้ จากเดิมที่ขนมไหว้พระจันทร์นี้กลุ่มเป้าหมายหลักมักจะเป็นผู้ใหญ่ และคนวัยทำงานเป็นหลัก และสอดรับกับการออกรสชาติใหม่ปีนี้ยังมีรสชาติ ช็อคโกแลต อีกด้วย ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี โดยราคาจำหน่ายของเอสแอนด์พีนั้น 1 กล่อง บรรจุ 8 ชิ้น ราคา 175 บาท
กาโตว์เฮ้าส์เน้นทำโปรโมชั่น
ทางด้าน กาโตว์เฮ้าส์ ก็มีความได้เปรียบเหมือนเอสแอนด์พีในแง่ของช่องทงจำหน่ายที่ผ่านร้านของตัวเองที่มีมากกว่า 40 สาขาแล้ว และปีนี้ก็พยายามชูความเป็นพรีเมี่ยมโฮมเมดของสินค้า ด้วยรสชาติที่มากถึง 13 รสชาติคือ ไส้หมอนทองล้วน ไส้หมอนทองไข่เดี่ยว ไส้หมอนทองไข่คู่ ไส้ลูกบัวไข่เดี่ยว ไส้พุทราไข่เดี่ยว ไส้โหงวยิ้งล้วน ไส้โหงวยิ้งไข่เดี่ยว ไส้ถั่วทองเมล็ดสน ไส้มิกซ์ฟรุ๊ต ไส้งาดำ บัวหิมะคัสตาร์ด บัวหิมะงาดำ บัวหิมะถั่วทองเมล็ดสน ซึ่งมีราคาเฉลี่ยต่อชิ้น 70 กว่าบาทขึ้นไป
โดยโปรโมชั่นของกาโตว์เฮ้าส์นั้น เมื่อซื้อ 2 ชิ้นขึ้นไป รับส่วนลด 10% และเมื่อซื้อจำนวนชิ้นมากขึ้นก็จะได้รับส่วนลดตามเงื่อนไข นอกนั้นก็จะเป็นการออกลวดลายของแพคเกจจิ้งที่จะเป็นลวดลายรูปพระจันทร์ แม้ว่าจะเบสิคแต่ก็อมตะและเป็นที่นิยม
ขณะที่ค่ายไทยยามซากิก็ทำต่อเนื่องอีกปีหลังจากปีที่แล้วขายได้มากกว่า 1,400 กล่อง พร้อมกับการนำสูตรมาจากไต้หวัน แต่ก็ทำเพียงแค่ 2 ไส้เท่านั้นไม่มากมาย คือ รสเม็ดบัวและรสไข่ ขายราคา 100 บาท เฉพาะที่สาขาของยามาซากิ
แอมเวย์เพิ่มรสรสชาติใหม่
สำหรับบริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ก็ยังคงผูกเป็นพันธมิตรกับทางยูเอฟเอ็มในการเป็นผู้ผผิตให้เหมือนที่ผ่านมา และขายผ่านนักธุรกิจแอมเวย์ ทั่วประเทศ ซึ่งมีมากถึง 400,000 ราย และปีนี้มีเพิ่มรสชาติใหม่คือ ไส้แมคคาเดเมียถั่วแดง ลูกบัวชาเขียว ลูกบัวไข่เดี่ยว และงาดำ อย่างละ 1 ชิ้น บรรจุในกล่องพลาสติกสีแดง ขายราคา 267 บาท
ส่วนรสชาติเดิมที่เคยขายนั้น ก็จะแยกออกมาอยู่ในแพคเกจจิ้งกล่องสีทอง คือ ไส้ทุเรียนหมอนทอง และทุเรียนหมอนทองไข่เดี่ยว อย่างละ 2 ชิ้นต่อกล่อง ราคา 280 บาท ส่วนอีกรูปแบบคือ กล่องเหล็กสีแดง มีไส้ลูกบัวชาเขียว วอลนัทเผือก โหงวยิ้ง งาดำ อย่างละ 1 ชิ้น ราคา 270 บาท
สตาร์บัคส์ออกไส้ชาเขียว
ทางฟากของสตาร์บัคส์ออกรสชาติใหม่ของตัวเองคือ ไส้ชาเขียว แต่ก็ไม่ได้ใหม่ในท้องตลาดจากที่โออิชิเคยทำมาแล้ว โดยของสตาร์บัคส์ เป็นชาเขียวชนิดเดียวกับที่เป็นส่วนผสมในเครื่องดื่ม สตาร์บัคส์ กรีนที แฟรบปูชิโน่ และยังมีรสดั้งเดิมคือ ไส้กาแฟเอสเพรสโซโรสท์ และทุเรียนหมอนทอง ซึ่งทั้งสามสูตรนี้ขายที่ร้านสตาร์บัคส์ถึงวันที่ 15 ตุลาคมนี้ โดยได้จัดเป็นแพคเกจขนาดเล็กครบทั้ง 3 รสชาติ จำนวน 6 ชิ้นต่อกล่อง ราคาจำหน่ายไส้ชาเขียว และเอสเพรสโซโรสท์ ชิ้นละ 105 บาท ส่วนไส้ทุเรียนหมอนทอง ชิ้นละ 95 บาท และเซ็ต 6 ชิ้น ราคากล่องะ 165 บาท
เนื่องจากว่า ขนมไหว้พระจันทร์เป็นสินค้าที่เป็นฤดูกาล และมีความสำคัญต่อประเพณีการไหว้และความเชื่อของผู้บริโภคโดยเฉพาะคนจีนและคนไทย ที่ไหว้กันมานานแล้ว อีกทั้งราคาของขนมไหว้พระจันทร์ก็ไม่ใช่ว่าแพงเป็นหลักพันบาท ที่ไม่สามารถหาซื้อได้ และไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือยแต่อย่างไร จึงเชื่อว่า ตลาดขนมไหว้พระจันทร์ในปีนี้ก็ยังคงมีการซื้อขายกันอยู่อย่างปรกติ ซึ่งช่วงเวลาขายขนมไหว้พระจันทร์ปีนี้ก็อยู่ในช่วงระหว่าง กันยายนถึงตุลาคม ส่วนวันไหว้ปีนี้ตรงกับวันที่ 6 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ของจีน
อย่างไรก็ตาม ปีนี้ราคาขายของขนมไหว้พระจันทร์คงมีการปรับตัวสูงขึ้นกว่าปีที่แล้วบ้าง เนื่องจากต้นทุนการผลิตสูงขึ้น โดยเฉพาะแป้งและราคาน้ำมันที่ส่งผลอย่างมาก โดยเฉลี่ยแล้วปีนี้มีการปรับราคากันประมาณ 5-10%
แนวทางที่ผู้ประกอบการหันมาแข่งกันก็ยังคงอยู่ในรูปของการออกไส้ใหม่ๆ การออกแพคเกจจิ้งใหม่ๆเพื่อดึงดูดความสนใจในการซื้อ และการทำโปรโมชั่นเน้นส่วนลด
ในตลาดนี้มีผู้ประกอบการรายที่ทำกันเป็นประจำเช่น เอสแอนด์พีที่เป็นรายใหญ่ นอกนั้นก็มีบทบาทไม่แพ้กันเช่น เชียงการีล่า กาโตว์เฮ้าส์ แอมเวย์ หรือแม้แต่ร้านกาแฟอย่างสตาร์บัคส์ก็ติดใจทำต่อเนื่องอีกปี
โออิชิถอดใจไม่สนทำขนมไหว้พระจันทร์
ขณะที่ค่ายโออิชินั้นปีนี้กลับถอดใจไม่ทำตลาดอีกแล้วเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันจากปีที่แล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทำตลาดมา 3 ปีติดต่อกันและได้รับความนิยมอย่างมาก โดยผู้บริหารของโออิชิให้เหตุผลว่า ปีนี้ไม่ได้ทำเพราะมีโครงการหลายอย่างที่ต้องดำเนินการ จึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับตรงนี้เท่าใดนัก อีกทั้งมาร์จิ้นก็น้อยด้วย และตลาดก็ไม่ได้ใหญ่มากนัก ส่วนปีหน้าจะทำหรือไม่ยังไม่สามารถตอบได้
เอสแอนด์พีขนคาแรคเตอร์การ์ตูนดิสนีย์
ที่น่าสนใจของปีนี้คือ ค่ายเอสแอนด์พีที่เป็นรายใหญ่ในตลาดอยู่แล้ว เพราะปีนี้มาแปลกด้วยกลยุทธ์ การเอาคาแรคเตอร์ดังของอมริกามาใช้ที่ได้ซื้อลิขสิทธิ์มาคือ คาแรคเตอร์ของการ์ตูนดิสนีย์ มาพิมพ์ลงบนบรรจุภัณฑ์แบบกล่อง ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ใหม่ที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมของตะวันออกกับลิขสิทธิ์ของตะวันตกอย่างแปลกตา
นอกจากนั้นแล้วหน้าของขนมไหว้พระจันทร์เอสแอนด์พีก็ยังมีลูกเล่นทำเป็น ลายหมีพูห์ ลายมิกกี้เม้าส์ อีกต่างหาก เรียกได้ว่า ทั้งแพคเกจและสินค้า ฉีกแนวจากทุกค่ายอย่างสิ้นเชิง
ทั้งนี้การทำเช่นนี้ ทำให้เอสแอนด์พีสามารถขยายฐานกลุ่มเป้าหมายไปยังวัยรุ่นและเด็กได้มากขึ้นด้วย โดยใช้แรงดึงดูดจากคาแรคเตอร์เหล่านี้ จากเดิมที่ขนมไหว้พระจันทร์นี้กลุ่มเป้าหมายหลักมักจะเป็นผู้ใหญ่ และคนวัยทำงานเป็นหลัก และสอดรับกับการออกรสชาติใหม่ปีนี้ยังมีรสชาติ ช็อคโกแลต อีกด้วย ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี โดยราคาจำหน่ายของเอสแอนด์พีนั้น 1 กล่อง บรรจุ 8 ชิ้น ราคา 175 บาท
กาโตว์เฮ้าส์เน้นทำโปรโมชั่น
ทางด้าน กาโตว์เฮ้าส์ ก็มีความได้เปรียบเหมือนเอสแอนด์พีในแง่ของช่องทงจำหน่ายที่ผ่านร้านของตัวเองที่มีมากกว่า 40 สาขาแล้ว และปีนี้ก็พยายามชูความเป็นพรีเมี่ยมโฮมเมดของสินค้า ด้วยรสชาติที่มากถึง 13 รสชาติคือ ไส้หมอนทองล้วน ไส้หมอนทองไข่เดี่ยว ไส้หมอนทองไข่คู่ ไส้ลูกบัวไข่เดี่ยว ไส้พุทราไข่เดี่ยว ไส้โหงวยิ้งล้วน ไส้โหงวยิ้งไข่เดี่ยว ไส้ถั่วทองเมล็ดสน ไส้มิกซ์ฟรุ๊ต ไส้งาดำ บัวหิมะคัสตาร์ด บัวหิมะงาดำ บัวหิมะถั่วทองเมล็ดสน ซึ่งมีราคาเฉลี่ยต่อชิ้น 70 กว่าบาทขึ้นไป
โดยโปรโมชั่นของกาโตว์เฮ้าส์นั้น เมื่อซื้อ 2 ชิ้นขึ้นไป รับส่วนลด 10% และเมื่อซื้อจำนวนชิ้นมากขึ้นก็จะได้รับส่วนลดตามเงื่อนไข นอกนั้นก็จะเป็นการออกลวดลายของแพคเกจจิ้งที่จะเป็นลวดลายรูปพระจันทร์ แม้ว่าจะเบสิคแต่ก็อมตะและเป็นที่นิยม
ขณะที่ค่ายไทยยามซากิก็ทำต่อเนื่องอีกปีหลังจากปีที่แล้วขายได้มากกว่า 1,400 กล่อง พร้อมกับการนำสูตรมาจากไต้หวัน แต่ก็ทำเพียงแค่ 2 ไส้เท่านั้นไม่มากมาย คือ รสเม็ดบัวและรสไข่ ขายราคา 100 บาท เฉพาะที่สาขาของยามาซากิ
แอมเวย์เพิ่มรสรสชาติใหม่
สำหรับบริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ก็ยังคงผูกเป็นพันธมิตรกับทางยูเอฟเอ็มในการเป็นผู้ผผิตให้เหมือนที่ผ่านมา และขายผ่านนักธุรกิจแอมเวย์ ทั่วประเทศ ซึ่งมีมากถึง 400,000 ราย และปีนี้มีเพิ่มรสชาติใหม่คือ ไส้แมคคาเดเมียถั่วแดง ลูกบัวชาเขียว ลูกบัวไข่เดี่ยว และงาดำ อย่างละ 1 ชิ้น บรรจุในกล่องพลาสติกสีแดง ขายราคา 267 บาท
ส่วนรสชาติเดิมที่เคยขายนั้น ก็จะแยกออกมาอยู่ในแพคเกจจิ้งกล่องสีทอง คือ ไส้ทุเรียนหมอนทอง และทุเรียนหมอนทองไข่เดี่ยว อย่างละ 2 ชิ้นต่อกล่อง ราคา 280 บาท ส่วนอีกรูปแบบคือ กล่องเหล็กสีแดง มีไส้ลูกบัวชาเขียว วอลนัทเผือก โหงวยิ้ง งาดำ อย่างละ 1 ชิ้น ราคา 270 บาท
สตาร์บัคส์ออกไส้ชาเขียว
ทางฟากของสตาร์บัคส์ออกรสชาติใหม่ของตัวเองคือ ไส้ชาเขียว แต่ก็ไม่ได้ใหม่ในท้องตลาดจากที่โออิชิเคยทำมาแล้ว โดยของสตาร์บัคส์ เป็นชาเขียวชนิดเดียวกับที่เป็นส่วนผสมในเครื่องดื่ม สตาร์บัคส์ กรีนที แฟรบปูชิโน่ และยังมีรสดั้งเดิมคือ ไส้กาแฟเอสเพรสโซโรสท์ และทุเรียนหมอนทอง ซึ่งทั้งสามสูตรนี้ขายที่ร้านสตาร์บัคส์ถึงวันที่ 15 ตุลาคมนี้ โดยได้จัดเป็นแพคเกจขนาดเล็กครบทั้ง 3 รสชาติ จำนวน 6 ชิ้นต่อกล่อง ราคาจำหน่ายไส้ชาเขียว และเอสเพรสโซโรสท์ ชิ้นละ 105 บาท ส่วนไส้ทุเรียนหมอนทอง ชิ้นละ 95 บาท และเซ็ต 6 ชิ้น ราคากล่องะ 165 บาท