xs
xsm
sm
md
lg

คลังเร่งสรุปเงินกู้รถไฟฟ้า เผยเจบิกเปิดทางกู้ยาว40ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สบน.เผยเงินกู้ก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 สายจะได้ข้อสรุปเบื้องต้นในเดือนกันยายนนี้ ระบุเจบิกเปิดทางเลือกเงินกู้ระยะยาวสูงสุดถึง 40 ปีดอกเบี้ยไม่เกิน 0.75% เชื่อแม้หนี้สาธารณะจะเพิ่มขึ้นแต่สามารถบริหารจัดการได้

นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) เปิดเผยว่า แผนการระดมเงินกู้ระยะยาวจากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น (เจบิก) เพื่อก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 สาย ตามที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้มีมติอนุมัติการก่อสร้างโครงการดังกล่าวเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2549 นั้น ทางเจบิกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายจะเข้าร่วมหารือเพื่อหาข้อสรุปสำหรับแนวทางในการกู้ยืมเงินภายในเดือนกันยายนนี้

โดยทางเจบิกได้วางกรอบเงินกู้ในเบื้องต้นไว้ 3 แนวทางคือ เงินกู้ระยะ 25 ปี มีช่วงระยะเวลา ปลอดภาษี 5 ปี คิดอัตราดอกเบี้ย 0.50%ต่อปี ระยะ 30 ปี ปลอดดอกเบี้ย 10 ปี คิดดอกเบี้ยในอัตรา 0.65%ต่อปี และเงินกู้ระยะ 40 ปี ช่วงเวลาปลอดดอกเบี้ย 10 ปี คิดดอกเบี้ยในอัตรา 0.75% ต่อปี ซึ่งในเบื้องต้นทางสบน.ยังไม่สามารถสรุปวงเงินกู้ทั้งหมดได้ว่าจะกูเงินจำนวนเท่าไรเนื่องจากการเจรจายังไม่เป็นที่สิ้นสุด

“ขณะนี้ทางสบน.ได้วางกรอบในการกู้ยืมเงินไว้คร่าวๆ แล้วแต่ยังไม่สามารถให้รายละเอียดลึกลงไปถึงตัวเลขได้ เนื่องจากในฐานะที่เราเป็นผู้กู้และการเจรจายังไม่เสร็จสิ้น เราจึงต้องให้เกียรติแก่เจ้าของเงินกู้ด้วยเพราะทางเจบิกเองก็ต้องไปขออนุญาตต้นสังกัดทั้งกระทรวงการคลังและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยกู้เงินเยนของญี่ปุ่นด้วย เราจึงไม่สามารถพูดอะไรที่มันล้ำหน้ามากไปกว่านี้ได้” นางพรรณีกล่าว

นางพรรณีกล่าวว่า เงินกู้จากเจบิกในการก่อสร้างครั้งนี้ถือเป็นเงินกู้ที่มีต้นทุนต่ำกว่าเงินกู้ทั่วไป เนื่องจากแต่เดิมที่ประเทศไทยกู้เงินเพื่อก่อสร้างรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคลเป็นการกู้เงินเพื่อก่อสร้างแบบปกติ แต่การกู้ในครั้งนี้สามารถยกเงื่อนไขทางด้านสิ่งแวดล้อมประกอบการกู้ยืมได้ เพราะสามารถลดมลภาวะ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ทำให้สามารถได้เงินกู้ภายใต้กรอบเงื่อนไขด้านสิ่งแวดล้อมที่มีต้นทุนต่ำได้

ขณะที่สัดส่วนหนี้สาธารณะที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะเพิ่มขึ้นนั้นทางสบน.ถือว่าเป็นการเพิ่มขึ้นตามความก้าวหน้าของปริมาณงาน ซึ่งเมื่อพิจารณาจากกรอบการศึกษาในช่วงที่มีโครงการทำรถไฟฟ้า 7 สายและ 10 สายก็มีการวางแผนในการจัดการหนี้สาธารณะควบคู่กันไปด้วย ซึ่งโครงการที่มีการเร่งรัดในปัจจุบันนี้เป็นการก่อสร้างเพียง 3 สายจึงไม่น่าจะมีปัญหาในการจัดการหนี้สาธารณะแต่อย่างใด

“สบน.มีกรอบในการบริหารจัดการหนี้สาธารณะอย่างมีประสิทธิภาพได้ ซึ่งการกู้เงินจากเจบิกในครั้งนี้ก็ไม่ได้เป็นการเบิกมาใช้ครั้งเดียวทั้งก้อน แต่เป็นการทยอยเบิกมาเพื่อก่อสร้างในระยะเวลา 2-3 ปี โดยในระหว่างการก่อสร้างก็สามารถชำระหนี้บางส่วนคืนและในปัจจุบันก็มีการทยอยชำระหนี้เก่าคืนด้วย” นางพรรณีกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น