รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมยืนยันคลังสินค้าปลอดภาษี สนามบินสุวรรณภูมิ จะแล้วเสร็จทัน 28 กันยายนนี้ และมั่นใจศักยภาพสามารถเพิ่มมูลค่าผ่านเข้าออกคลังสินค้าจากปีละ 100,000 ล้านบาท เป็น 200,000-300,000 ล้านบาท
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมพื้นที่คลังสินค้าปลอดภาษี (ฟรีโซน) ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งที่ผ่านมามีรายงานความความล่าช้า ในส่วนของการจัดตั้งสำนักงานของผู้ประกอบการ สายการบิน และเที่ยวบินขนส่งทางอากาศ โดยนายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า จากการตรวจความคืบหน้าของงานการก่อสร้างและตกแต่งพื้นที่สำนักงานมีความคืบหน้าไปมาก และมั่นใจว่างานทั้งหมดจะแล้วเสร็จตามกำหนดในวันที่ 28 กันยายน อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม หากการจัดเตรียมสำนักงานของเอกชนล่าช้าไม่ทันวันที่ 28 กันยายนนี้ จะผ่อนผันให้ผู้ประกอบการใช้สำนักงานที่ท่าอากาศยานดอนเมืองต่อไปอีก 3 เดือน รวมทั้ง ทอท.ได้งดเว้นค่าเช่าสำนักงานในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้ เพื่อผ่อนคลายภาระในการโยกย้ายสำนักงานให้แก่ภาคเอกชนด้วย
สำหรับการขยายพื้นที่ให้บริการของฟรีโซนในอนาคตนั้น ทอท.มีนโยบายในเฟสที่ 2 ซึ่งเตรียมการก่อสร้างอาคารคลังสินค้าสำหรับของสดหรือผักผลไม้ที่เน่าเสียบนเนื้อที่อีก 49 ไร่ โดยคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายหลังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิก่อสร้างแล้วเสร็จ 1 ปี นอกจากนี้ มั่นใจว่าด้วยศักยภาพของพื้นที่คลังสินค้าของสนามบินสุวรรณภูมิที่มีขนาดใหญ่มากกว่าสนามบินดอนเมือง 2-3 เท่า รวมถึงมีระบบบริหารจัดการที่ทันสมัย โดยไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารที่เป็นกระดาษในการทำธุรกรรม เพราะใช้ระบบสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด จะทำให้ธุรกรรมคลังสินค้าที่สนามบินสุวรรณภูมิขยายตัว จากเดิมที่มีมูลค่าสินค้าเข้าออกปีละประมาณ 100,000 ล้านบาท เพื่อการนำเข้าและส่งออก เพิ่มเป็น 200,000-300,000 ล้านบาทต่อปี
