xs
xsm
sm
md
lg

ธ.ก.ส.ไล่บี้2รง.วังขนายจ่ายเกี๊ยว สอน.ขีด7วันไม่ใช้บีบขายน้ำตาล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธ.ก.ส. รุดพบ”ดำริ”ประธานกอน.ให้ช่วยเคลียร์โรงงานอ่างเวียน และที.เอ็น.กลุ่มวังขนายหลังเบี้ยวจ่ายค่าเกี๊ยวอ้อยคืนรวม 1,100 ล้านบาท “สอน.”ขีดเส้น 7 วันให้ธ.ก.ส.เจรจากับ 2 โรงงานก่อนหากไม่ยุติใช้มาตรการเด็ดขาดบีบขายน้ำตาลโควตาก.2แสนตันที่มีอยู่หักส่วนต่าง 3 บาทต่อกก.ทยอยใช้หนี้

นางรัตนาภรณ์ จึงสงวนสิทธิ์
 เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(สอน.) เปิดเผยภายหลังการหารือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธ.ก.ส.)ซึ่งได้เข้าพบนายดำริ สุโขธนัง รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะประธานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(กอน.) วานนี้(15ส.ค.) ว่า เป็นการหารือปัญหาการค้างจ่ายเงินเกี๊ยวหรือเงินบำรุงอ้อยของโรงงานน้ำตาลทีเอ็น.กับอ่างเวียนในกลุ่มวังขนายให้กับธกส.วงเงินรวม 1,100 ล้านบาทซึ่งที่ประชุมได้มอบหมายให้ทางธกส.ไปเจรจากับโรงงานก่อนภายใน 7 วัน

ทั้งนี้หากภายใน 7 วันไม่สามารถตกลงได้ทางสอน.จะใช้อำนาจตามกฏหมายที่มีอยู่เข้าไปดำเนินการบังคับขายน้ำตาลทรายในประเทศ(โควต้าก.) ที่กำลังจะขึ้นงวดของโรงงานทั้ง 2 แห่งที่มีอยู่ประมาณ 2 แสนตันเพื่อนำส่วนต่างระหว่างราคาน้ำตาลทรายขายปลีกที่อยู่ประมาณ 14 บาทต่อกิโลกรัมกับการจำนำราคาน้ำตาลทรายหรือแพคกิ้งเครดิตที่โรงงานได้รับจากธนาคารเจ้าหนี้ประมาณ 9.50 บาทต่อกก.ซึ่งจะมีส่วนต่างประมาณ 4.50 บาทต่อกก.โดยสอน.จะดึงเงินส่วนต่างมาชำระหนี้ธ.ก.ส.ประมาณ 3 บาทต่อกก.ส่วนที่เหลือให้เป็นเงินค่าใช้จ่ายของโรงงานน้ำตาลและการจ่ายหนี้คืนธนาคารเจ้าหนี้

“โครงการสินเชื่อเพื่อการบำรุงอ้อยทางสอน.ต้องเข้าไปมีส่วนแก้ไขเพราะเป็นเป็นผู้นำเสนอคณะรัฐมนตรีให้ดำเนินโครงการนี้และในเมื่อโรงงานน้ำตาลเข้าร่วมโครงการสอน.ก็ย่อมใช้อำนาจในการดำเนินการได้เช่นกัน ซึ่งก็คงจะต้องมาดูว่า 7 วันนี้จะตกลงกันได้หรือไม่หากไม่ได้ก็คงต้องบังคับขายน้ำตาลและนำส่วนนี้มาใช้หนี้ไม่พอก็ทำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมด ครั้งนี้คงจะได้ราวๆ 60 กว่าล้านบาท”นางรัตนาภรณ์กล่าว

นางรัตนาภรณ์กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวส่วนหนึ่งเกิดจากปริมาณอ้อยที่จะเข้าป้อนโรงงานโดยเฉพาะของอ่างเวียนจากเดิมที่เคยมีถึง 3 ล้านตันเหลือเพียง 8 แสนตันเท่านั้นจึงทำให้ได้น้ำตาลที่ไม่มากพอ และมีปัญหาภาระหนี้สินอยู่ก่อนแล้วส่งผลให้ทางธนาคารเจ้าหนี้ค่อนข้างเข้มงวดในการปล่อยกู้เพิ่มเติม และกรณีการค้างจ่ายเงินเกี้ยวทางชาวไร่อ้อยคู่สัญญาโรงงานถือเป็นจำเลยที่ 1  เพราะโรงงานเป็นผู้ค้ำประกันการออกเช็คเกี๊ยวอ้อยแล้วให้ชาวไร่เป็นผู้ขายลดเช็คให้กับธ.ก.ส.แล้วธ.ก.ส.จะไปเรียกเงินจากโรงงานอีกครั้งหนึ่ง

“ชาวไร่อ้อยที่เป็นคู่สัญญากับโรงงานกลุ่มวังขนายดังกล่าวยังไม่ได้รับเงินเกี้ยวเพื่อการบำรุงอ้อยใหม่ซึ่งปกติจะเริ่มดำเนินการแล้ว ส่งผลให้ทางสอน.ได้มีมาตรการให้กู้กับธกส.ตรงไปก่อนหน้านี้ส่วนหนึ่งเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ส่วนกรณีของโรงงานนครเพชร ทางธ.ก.ส.ไม่ปล่อยเช็คเกี๊ยวเพราะอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างหนี้อาจจะยังไม่มั่นใจกรณีกลุ่มวังขนายหากเรื่องจบลงปัญหานี้ก็คงหมดไปด้วย” นางรัตนาภรณ์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น