ค่ายสินค้าอุปโภคบริโภคกระอัก ยอดขายโลว์ซีซั่นต่ำกว่าที่คิด ทัพสินค้าเริ่มควักโปรโมชั่นกระทุ้งยอด แคมเปญแจกทองมาแรงกระตุ้นต่อมผู้บริโภคได้มากที่สุด "ไลอ้อน" เน้นเดินเกมโมเดิร์นไนซ์เซชั่น หวังสิ้นปีโต 16% กวาด 7,000 ล้านบาท ล่าสุดทุ่มกว่า 50 ล้านบาท ปั้นซอลส์สูตรใหม่รับช่วงขาขึ้น หลังพบมีฐานลูกค้าขยับจากผู้ใหญ่สู่คนรุ่นใหม่
นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลอ้อน ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในเครือสหพัฒน์ อาทิ ผงซักฟอกเปา ยาสีฟันซอลส์ เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน"ว่า ในช่วงโลว์ซีซันหรือระหว่างหน้าฝนในเดือนพฤษาคม-กันยายน เป็นปกติที่ยอดขายผู้ประกอบการแต่ละบริษัทจะลดลง แต่ปัจจัยด้านภาวะเศรษฐกิจที่จะชะลอตัวลง รวมทั้งกำลังการซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง ส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยมีความระมัดระวังยิ่งขึ้น ยิ่งกระทบให้ยอดขายผู้ประกอบการลดลงต่ำกว่าปกติเข้าไปอีก
สำหรับสถานการณ์การแข่งขันตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ประกอบการแต่ละค่าย ออกตัวด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย จากการสำรวจผู้จัดการรายวัน พบว่า บางค่ายใช้กลยุทธ์เพิ่มปริมาณแต่ราคาเท่าเดิมมาล่อใจผู้บริโภค อย่าง ผงซักฟอกบรีสเพิ่มปริมาณ 20 กรัม ขณะที่วาสลีนใช้กลยุทธ์ไซส์ซิ่ง มีบรรจุภัณฑ์จำหน่ายซองละ 5 บาท เพื่อให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายมากขึ้น หรือกระทั่งการแจกสินค้าพรีเมียม แต่โปรโมชั่นที่มาแรงในปีนี้ คือ การแจกทองคำเป็นของรางวัล
ทั้งนี้พบว่ามีสินค้าหลากหลายตัวที่ใช้โปรโมชั่นแจกทอง อาทิ ดัชมิลล์ จัดแคมเปญ"พลิกฝาลุ้นทอง ลุ้น 10ล้าน" บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไว เปิดตัว"รวยทันใจ ไวไวให้โชค"แจกทองคำ 630 บาท โอวัลติน เปิดตัวแคมเปญ"แจกทองคำ 9ล้านบาท 9สัปดาห์" เนื่องจากแคมเปญแจกทองคำ เป็นของรางวัลที่ติดอันดับทอปโฟร์ โดยประกอบด้วย เงิน ทองคำ รถยนต์ สินค้าไอที และบ้าน แต่ทองคำถือเป็นรางวัลที่ผู้บริโภคอยากได้มากที่สุดในปีนี้ เพราะเป็นของรางวัลที่มีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ จากปัจจุบันทองคำ 1บาท มีมูลค่ากว่า 12,000บาท
สำหรับแนวทางการทำตลาดของบริษัทในท่ามกลางการแข่งขันที่มีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ให้ความสำคัญกับการแบรนด์ โมเดิร์นไนซ์เซชั่น (Brand Modernization) หรือการทำผลิตภัณฑ์ให้มีการเคลื่อนไหว มีความทันสมัย และสดใสอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น การทุ่มงบโฆษณา การจัดกิจกรรม รวมทั้งการเปิดตัวสินค้าใหม่ แต่ที่ผ่านมาผู้ประกอบการบางค่ายมองว่าไลอ้อนไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหว แต่ที่จริงบริษัทมีการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นรายได้รวมของบริษัทมีอัตราการเติบโต 16% หรือมีรายได้ 7,000 ล้านบาท เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
นายบุญฤทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงยาสีฟันซอลส์ว่า เป็นสินค้าที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลพวงจากกระแสสุขภาพที่มากแรง ส่งผลให้ซอลล์มีฐานลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้ฐานลูกค้าซอลส์ โดยมากจะเป็นกลุ่มผู้ใหญ่เป็นหลัก ดังนั้นปีนี้บริษัททุ่มงบการตลาดมากกว่า 50 ล้านบาท พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมเปิดตัวยาสีฟันซอลส์สูตรใหม่ลงสู่ตลาดยาสีฟันมูลค่า 5,000 ล้านบาท จากปัจจุบันมีด้วยกัน 3 สูตร ได้แก่ ยาสีฟันซอลส์, ยาสีฟัน ซอลส์-เอฟ และซอลส์ ฮาบุ
นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลอ้อน ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในเครือสหพัฒน์ อาทิ ผงซักฟอกเปา ยาสีฟันซอลส์ เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน"ว่า ในช่วงโลว์ซีซันหรือระหว่างหน้าฝนในเดือนพฤษาคม-กันยายน เป็นปกติที่ยอดขายผู้ประกอบการแต่ละบริษัทจะลดลง แต่ปัจจัยด้านภาวะเศรษฐกิจที่จะชะลอตัวลง รวมทั้งกำลังการซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง ส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยมีความระมัดระวังยิ่งขึ้น ยิ่งกระทบให้ยอดขายผู้ประกอบการลดลงต่ำกว่าปกติเข้าไปอีก
สำหรับสถานการณ์การแข่งขันตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ประกอบการแต่ละค่าย ออกตัวด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย จากการสำรวจผู้จัดการรายวัน พบว่า บางค่ายใช้กลยุทธ์เพิ่มปริมาณแต่ราคาเท่าเดิมมาล่อใจผู้บริโภค อย่าง ผงซักฟอกบรีสเพิ่มปริมาณ 20 กรัม ขณะที่วาสลีนใช้กลยุทธ์ไซส์ซิ่ง มีบรรจุภัณฑ์จำหน่ายซองละ 5 บาท เพื่อให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายมากขึ้น หรือกระทั่งการแจกสินค้าพรีเมียม แต่โปรโมชั่นที่มาแรงในปีนี้ คือ การแจกทองคำเป็นของรางวัล
ทั้งนี้พบว่ามีสินค้าหลากหลายตัวที่ใช้โปรโมชั่นแจกทอง อาทิ ดัชมิลล์ จัดแคมเปญ"พลิกฝาลุ้นทอง ลุ้น 10ล้าน" บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไว เปิดตัว"รวยทันใจ ไวไวให้โชค"แจกทองคำ 630 บาท โอวัลติน เปิดตัวแคมเปญ"แจกทองคำ 9ล้านบาท 9สัปดาห์" เนื่องจากแคมเปญแจกทองคำ เป็นของรางวัลที่ติดอันดับทอปโฟร์ โดยประกอบด้วย เงิน ทองคำ รถยนต์ สินค้าไอที และบ้าน แต่ทองคำถือเป็นรางวัลที่ผู้บริโภคอยากได้มากที่สุดในปีนี้ เพราะเป็นของรางวัลที่มีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ จากปัจจุบันทองคำ 1บาท มีมูลค่ากว่า 12,000บาท
สำหรับแนวทางการทำตลาดของบริษัทในท่ามกลางการแข่งขันที่มีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ให้ความสำคัญกับการแบรนด์ โมเดิร์นไนซ์เซชั่น (Brand Modernization) หรือการทำผลิตภัณฑ์ให้มีการเคลื่อนไหว มีความทันสมัย และสดใสอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น การทุ่มงบโฆษณา การจัดกิจกรรม รวมทั้งการเปิดตัวสินค้าใหม่ แต่ที่ผ่านมาผู้ประกอบการบางค่ายมองว่าไลอ้อนไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหว แต่ที่จริงบริษัทมีการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นรายได้รวมของบริษัทมีอัตราการเติบโต 16% หรือมีรายได้ 7,000 ล้านบาท เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
นายบุญฤทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงยาสีฟันซอลส์ว่า เป็นสินค้าที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลพวงจากกระแสสุขภาพที่มากแรง ส่งผลให้ซอลล์มีฐานลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้ฐานลูกค้าซอลส์ โดยมากจะเป็นกลุ่มผู้ใหญ่เป็นหลัก ดังนั้นปีนี้บริษัททุ่มงบการตลาดมากกว่า 50 ล้านบาท พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมเปิดตัวยาสีฟันซอลส์สูตรใหม่ลงสู่ตลาดยาสีฟันมูลค่า 5,000 ล้านบาท จากปัจจุบันมีด้วยกัน 3 สูตร ได้แก่ ยาสีฟันซอลส์, ยาสีฟัน ซอลส์-เอฟ และซอลส์ ฮาบุ