xs
xsm
sm
md
lg

พาณิชย์เบรกปูนซีเมนต์นครหลวงปรับขึ้นราคา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กรมการค้าภายในระบุยังไม่ได้รับหนังสือขอปรับขึ้นราคาปูนจาก บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง ชี้หากบริษัทยังมีกำไรควรรับภาระไปก่อน แต่หากไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนก็เสนอแผนให้กรมฯ พิจารณาต้นทุน พร้อมขอความร่วมมือผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ช่วยกันกระจายสินค้าผ่านโครงการตลาดนัดธงฟ้า...มหาชน ให้มากขึ้น

นางวัชรี วิมุกตายน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงกรณีที่ บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) ประกาศเตรียมปรับขึ้นราคาปูนซีเมนต์ของบริษัทอีกตันละ 200-300 บาท จากต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้นว่า หากทำโดยพลการคงไม่สามารถทำได้ เพราะปูนซีเมนต์เป็นสินค้าที่อยู่ในความดูแลของกระทรวงพาณิชย์ หากจะปรับขึ้นต้องทำหนังสือแจ้งมาที่กรมการค้าภายในอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งกรมจะพิจารณาดูว่ามีความจำเป็น หรือมีผลกระทบราคาน้ำมันกับต้นทุนมากน้อยแค่ไหน และดูผลประกอบการที่ผ่านมาสามารถรับภาระได้หรือไม่ เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถอยู่ได้ ไม่ใช่ผลักภาระให้กับผู้ใช้ หากทางบริษัทยังมีกำไรอยู่ควรจะชะลอการปรับขึ้นราคาไว้ก่อน แต่เข้าใจว่ากระบวนการผลิตปูนซีเมนต์มีต้นทุนด้านพลังงานมาก โดยจะเข้าไปดูว่าใช้พลังงานใดเป็นหลักในการผลิต เพื่อพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้กรมการค้าภายในได้มีการหารือกับผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่จำนวน 5 ราย เพื่อหารือแนวทางการช่วยเหลือประชาชนในกลุ่มที่มีรายได้ประจำ และเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากราคาสินค้าที่ปรับสูงขึ้น โดยต้องการให้ขยายโครงการธงฟ้าให้เข้าถึงประชาชนกลุ่มนี้ให้มากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าจำเป็น เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเกษตรจากแหล่งผลิต หรือแฟคตอรี่ แอนด์ ฟาร์ม เอาท์เล็ต เป็นต้น ซึ่งผู้ประกอบการได้รับปากจะนำแนวทางดังกล่าวไปศึกษาและหารูปแบบการดำเนินการอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังได้หารือเกี่ยวกับโครงการธงฟ้าเคลื่อนที่ หรือโมบายธงฟ้า ที่จะนำสินค้าจำเป็นไปจำหน่ายให้กับประชาชนในชุมชน ซึ่งเดิมจะให้ข้าราชการของกรมการค้าภายในเป็นผู้ปฏิบัติ แต่ในความเป็นจริงข้าราชการมีงานประจำที่ต้องดูแลอยู่แล้ว จึงต้องการให้ผู้ประกอบการเป็นผู้ดำเนินการเอง โดยกระทรวงพาณิชย์จะเป็นผู้กำกับดูแลให้สินค้าที่จำหน่ายมีความจำเป็นต่อการครองชีพจริง ๆ ในคุณภาพดีและราคาประหยัด

ทั้งนี้ การจัดงานตลาดนัดธงฟ้า…มหาชน 3 ครั้ง ที่ผ่านมา ไม่ได้มีผลกระทบกับต่อภาคเอกชน เนื่องจากจัดเพียงเดือนละ 1 ครั้ง เท่านั้น ขณะที่ประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอยได้ซื้อสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพภายในงาน ส่วนสินค้าอื่น ๆ ก็จะซื้อตามร้านค้าใกล้บ้าน เนื่องจากราคาไม่แตกต่างกันมาก จึงเห็นว่าไม่น่าจะกระทบต่อร้านค้าโชห่วยตามสถานที่ต่าง ๆ ที่มีกระแสข่าวอยู่ในขณะนี้แต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น