xs
xsm
sm
md
lg

“ซาโตรุ คุโรซากิ” กัปตันใหม่ไพโอเนียร์ “ต้องทำให้ตลาดในไทยโตมากกว่าที่บริษัทแม่ตั้งไว้”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ซาโตรุ คุโรซากิ
ในฐานะที่เป็นกำลังสำคัญของ บริษัท ไพโอเนียร์ กรุ๊ป นั้น “ซาโตรุ คุโรซากิ” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผู้บริหารที่ร่วมงานกับทางไพโอเนียร์มาอย่างยาวนานกว่า 18 ปี จนได้รับความไว้วางใจให้มานั่งแท่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนียร์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา พร้อมยอมรับว่าการทำตลาดเครื่องเสียงในไทยไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

ซาโตรุ คุโรซากิ มีประสบการณ์ในการทำงานให้กับ บริษัท ไพโอเนียร์ กรุ๊ป มากว่า 18 ปี โดยก่อนหน้านี้ เขาจบการศึกษาในปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัย Sophia ประเทศญี่ปุ่น และร่วมงานกับไพโอเนียนร์ครั้งแรกในปี 1988 ในตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายภายในประเทศ (ประเทศญี่ปุ่น) และได้ทำงานในตำแหน่งต่างๆ ที่สำคัญ

จนกระทั่งใน2003 ถึง 2006 “ซาโตรุ” ดำรงตำแหน่ง ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ทุกหมวดผลิตภัณฑ์ ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศ ที่ บริษัทไพโอเนียร์ ประเทศญี่ปุ่น ก่อนที่จะได้ให้รับหน้าที่ที่สำคัญในการเข้ามานั่งเก้าอี้ผู้นำ ในฐานะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนียร์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ในเดือนเมษายนเป็นต้นมา

“ซาโตรุ” เล่าถึงการเข้ามารับตำแหน่งในประเทศไทยในช่วง 3-4 เดือนนี้ ให้ฟังด้วยความรู้สึกของการเป็นเพียงพนักงานคนหนึ่งของไพโอเนียร์ ที่ให้การยอมรับกับนโยบายที่บริษัทแม่ได้วางไว้ว่า ถึงแม้ว่าตนจะเข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ของไพโอเนียร์ในประเทศไทยก็ตาม ตนก็ยังจะปฏิบัติตามนโยบายหลักที่ทางบริษัทแม่ได้วางไว้อย่างเคร่งครัด

โดยปกติกลุ่มผู้บริหารที่ทางไพโอเนียร์ส่งไปประจำตำแหน่งยังประเทศต่างๆนั้น สิ่งหนึ่งที่จะต้องทำเช่นเดียวกันคือ การนำเอานโยบายหลักที่ทางบริษัทแม่ได้วางไว้ให้ เช่น การนำแผน PDCA หรือ Plan, Do, Check และ Action มาประยุกต์ใช้กับการดำเนินธุรกิจในประเทศนั้น เพื่อให้ไพโอเนียร์ในแต่ละประเทศ ดำเนินไปในทิศทางเดียวกันทั่วโลก
 
อย่างไรก็ตาม “ซาโตรุ” เองต้องการให้ตลาดเมืองไทย เป็นมากกว่าที่บริษัทแม่วางแผนไว้ โดยเขามุ่งมั่นที่จะทำให้ตลาดเมืองไทยจะต้องมีการเติบโตที่สูงกว่า เป้าหมายที่บริษัทแม่ต้องการให้จงได้ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เขามาดำรงตำแหน่งในครั้งนี้ เพื่อชดเชยให้กับช่วง 2-3 ปีก่อน ที่ไพโอเนียร์มีการเติบโตน้อยกว่าเป้าที่วางไว้มาโดยตลอด

ในขณะที่การทำตลาดเครื่องเสียงในเมืองไทยนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เมื่อเทียบกับตลาดเครื่องเสียงในประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่จะเป็นผู้เล่นภายในประเทศ แต่สำหรับประเทศไทยผู้เล่นจะมีหลากหลายเชื้อชาติ รวมถึงด้านการแข่งขันที่มีสูงมาก บวกกับผู้บริโภคคนไทยเองก็ให้ความสำคัญกับราคาเป็นปัจจัยหลักในการเลือกซื้อสินค้า ดังนั้นการทำตลาดเครื่องเสียงในไทยจึงถือได้ว่า มีความยากมากกว่าในประเทศญี่ปุ่น

ท้ายที่สุด อย่างน้อย ความมุ่งมั่นแรกของ “ซาโตรุ” ที่กำลังจะปรากฏให้เป็นที่ประจักษ์แก่ทุกสายตาในเวลานี้คือ การบริหารงานให้ปีหน้า ไพโอเนียร์จะต้องมีการเติบโตอย่างน้อย 10% ซึ่งถือเป็นการเติบโตที่เป็นสัญญาณอันดีของตลาดเครื่องเสียงไทยและของไพโอเนียร์เอง หลังพบว่าปีนี้ไพโอเนียร์ทำได้ดีที่สุดเพียงรักษายอดขายให้เท่ากับปีที่ผ่านมาเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น