“อมรปิ่นทิพย์” ได้เวลาเครื่องร้อนทุ่มเม็ดเงินก้อนใหญ่กว่า 3,000 ล้านบาท เดินหน้าลุยธุรกิจโรงแรมเต็มกำลัง เตรียมสยายปีกภายใน 5 ปี ผุดโรงแรมและรีสอร์ทต่างจังหวัด 5 โครงการ คาดใช้เม็ดเงินไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท ส่วนอีก 1,000 ล้านบาท รีโนเวทโรงแรมริชมอนด์ใหม่ หลังสัญญาณธุรกิจโรงแรมย่านเมืองนนท์ส่อเค้าแข่งดุ เหตุภาครัฐเตรียมจัดให้ย่านถนนแจ้งวัฒนะเป็นศูนย์ราชการ รับตลาด MICE บูม ตั้งเป้ารายได้ไม่ต่ำกว่า 120 ล้านบาทในปีนี้ และถึงจุดคุ้มทุนได้ใน 5 ปี
นางสาวลักษณ์วรรณ วงศ์วรการ กรรมการผู้จัดการ โรงแรมริชมอนด์ (นนทบุรี) ภายใต้บริษัท อมรปิ่นทิพย์ จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทฯมีแผนที่จะขยายธุรกิจโรงแรมไปยังต่างจังหวัดในอีก 5 ปีข้างหน้า จำนวน 5 โครงการ ใน 4 ทำเล โดยใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท เนื่องจากเดิมบริษัทฯคลุกคลีอยู่ในวงการเรียลเอสเตทมาตลอด กับการบริหารเซอร์วิสอพาร์ทเม้นอยู่ 2 แห่ง ย่านสุขุมวิทและประตูน้ำ รวมไปถึงการดำเนินธุรกิจโรงแรมริชมอนด์อยู่ก่อนแล้วในระดับ 3 ดาว จึงต้องการที่จะขยายธุรกิจเพื่อช่วยลดความเสี่ยง และเป็นการทำตลาดให้กับทางโรงแรมริชมอนด์ที่ได้มีการรีโนเวทรับตลาดสัมมนาที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นอีกด้วย
ล่าสุดบริษัทฯเตรียมงบการลงทุนไว้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท สำหรับการขยายธุรกิจโรงแรมในต่างจังหวัด 2,000 ล้านบาทใน 5 ปีข้างหน้านับจากนี้ และอีก 1,000 ล้านบาท สำหรับการรีโนเวทโรงแรมริชมอนด์ในปีนี้ โดยในส่วนของการขยายธุรกิจโรงแรมไปยังต่างจังหวัดนั้น ในปี 2550 บริษัทฯเตรียมสร้างรีสอร์ท “Lifestyle Convention Resort” ที่หาดจอมเทียน พัทยา มีลักษณะเป็นกึ่งโรงแรมกึ่งรีสอร์ท ระดับ 4 ดาว บนพื้นที่ประมาณ 12 ไร่ และมีห้องพักประมาณ 500 ห้อง เป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดที่เปิดในต่างจังหวัด ตามด้วยการสร้างโรงแรมสไตล์รีสอร์ทที่เกาะช้าง โดยวางจำนวนห้องพักไว้ที่ 150-200 ห้อง ระดับ 4 ดาว เน้นกลุ่มชาวต่างประเทศและชาวไทย
จากนั้นในปี 2551 จะให้เปิดรีสอร์ทระดับ 5 ดาวที่จังหวัดกระบี่ บนพื้นที่ 34 ไร่ โดยวางจำนวนห้องพักไว้ประมาณ 150-200 ห้อง และจะพัฒนาพื้นที่อีก 1 แปลง ขนาด 88 ไร่ ในการทำบ้านพักตากอากาศ จำนวน 70-80 หลัง เจาะกลุ่มเป้าหมายชาวต่างชาติ โดยมีมูลค่าโครงการไม่ต่ำกว่า 700-800 ล้านบาท และสุดท้ายในปี 2552 จะเปิดโรงแรมสไตล์รีสอร์ทอีก 1 แห่งที่เกาะพะงัน เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว จำนวนห้องพักไม่เกิน 100 ห้อง
โครงการที่จะเปิดให้บริการนั้นจะเป็นแบรนด์ใหม่ทั้งหมด จะเป็นการดำเนินการในรูปแบบของการจัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่ในการดำเนินการแต่ละโครงการ
อย่างไรก็ตามในส่วนของโรงแรมริชมอนด์เอง ปีนี้บริษัทฯได้จัดงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท สำหรับรีโนเวท ชูคอนเซปต์ “คอนเวนชั่น โฮเตล” เนื่องจากศักยภาพของพื้นที่ในจังหวัดนนทบุรี ที่ทางภาครัฐกำลังผลักดันให้กลายเป็นศูนย์ราชการ ในย่านถนนแจ้งวัฒนะ ที่คาดว่าจะมีคนเข้ามาไม่ต่ำกว่า 10,000 คน บวกกับพื้นที่บริเวณใกล้เคียงนี้ ที่ทางโรงแรมมีลูกค้ากลุ่มประชุมสัมมนา และการจัดอีเวนท์ต่างๆ อยู่แล้ว เช่น หน่วยงานทางภาครัฐ อย่าง กระทรวงสาธารณสุข การปะปา การไฟฟ้า และหน่วยงานจากกระทรวงยุติธรรม คาดว่าสิ้นปีจะมีรายได้ประมาณ 120 ล้านบาท และคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนในอีก 5 ปี
สำหรับการรีโนเวทครั้งนี้ทำให้ปัจจุบันโรงแรมมีจำนวนห้องพักทั้งหมด 445 ห้อง ห้องประชุมจำนวน 19 ห้อง โดยรีโนเวทเรียบร้อยแล้ว 90% ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของริชมอนด์มาจาก ประชุม 60% ห้องพัก 40% และเป็นลูกค้าชาวไทย 80% ต่างประเทศ 20% จากการเน้นลูกค้าต่างชาติในกลุ่มเอเชียมากขึ้น เช่น ชาวเกาหลี จากเดิมที่เป็นชาวรัสเซียเป็นหลัก
บริษัทฯยังจ้างบริษัท แม็กกาสปาร์ค จำกัด เข้ามาดูแลเกี่ยวกับการทำตลาดและสร้างแบรนด์ให้กับทางโรงแรมด้วย ด้วยงบประมาณ 2 ล้านบาท เน้นการทำประชาสัมพันธ์ การจัดโปรโมชั่นในแต่ละเดือนเป็นหลัก รวมทั้งการเข้าไปจับมือกับทางอิมแพ็ค เมืองทองธานี ในการร่วมมือที่พักให้กับกลุ่มที่เข้ามาสัมมนาที่อิมแพ็ค อีกด้วย
สำหรับภาวะการแข่งขันธุรกิจโรงแรมย่านชานเมืองนั้น จุดขายที่สำคัญอยู่ที่การให้บริการทางด้านการประชุม สัมมนา และจัดงานเลี้ยงทั่วไป ดังนั้นบริษัทฯจึงต้องการสร้างการจดจำให้เกิดแก่ลูกค้ามากขึ้น เพื่อรองรับตลาดMICE ที่กำลังจะเกิดขึ้น ในขณะที่ย่านดังกล่าวนี้ มีโรงแรมที่ให้บริการในระดับเดียวกันกับริชมอนด์อีก 2 แห่ง คือ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ และโรงแรมรามา การ์เด้น
นางสาวลักษณ์วรรณ วงศ์วรการ กรรมการผู้จัดการ โรงแรมริชมอนด์ (นนทบุรี) ภายใต้บริษัท อมรปิ่นทิพย์ จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทฯมีแผนที่จะขยายธุรกิจโรงแรมไปยังต่างจังหวัดในอีก 5 ปีข้างหน้า จำนวน 5 โครงการ ใน 4 ทำเล โดยใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท เนื่องจากเดิมบริษัทฯคลุกคลีอยู่ในวงการเรียลเอสเตทมาตลอด กับการบริหารเซอร์วิสอพาร์ทเม้นอยู่ 2 แห่ง ย่านสุขุมวิทและประตูน้ำ รวมไปถึงการดำเนินธุรกิจโรงแรมริชมอนด์อยู่ก่อนแล้วในระดับ 3 ดาว จึงต้องการที่จะขยายธุรกิจเพื่อช่วยลดความเสี่ยง และเป็นการทำตลาดให้กับทางโรงแรมริชมอนด์ที่ได้มีการรีโนเวทรับตลาดสัมมนาที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นอีกด้วย
ล่าสุดบริษัทฯเตรียมงบการลงทุนไว้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท สำหรับการขยายธุรกิจโรงแรมในต่างจังหวัด 2,000 ล้านบาทใน 5 ปีข้างหน้านับจากนี้ และอีก 1,000 ล้านบาท สำหรับการรีโนเวทโรงแรมริชมอนด์ในปีนี้ โดยในส่วนของการขยายธุรกิจโรงแรมไปยังต่างจังหวัดนั้น ในปี 2550 บริษัทฯเตรียมสร้างรีสอร์ท “Lifestyle Convention Resort” ที่หาดจอมเทียน พัทยา มีลักษณะเป็นกึ่งโรงแรมกึ่งรีสอร์ท ระดับ 4 ดาว บนพื้นที่ประมาณ 12 ไร่ และมีห้องพักประมาณ 500 ห้อง เป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดที่เปิดในต่างจังหวัด ตามด้วยการสร้างโรงแรมสไตล์รีสอร์ทที่เกาะช้าง โดยวางจำนวนห้องพักไว้ที่ 150-200 ห้อง ระดับ 4 ดาว เน้นกลุ่มชาวต่างประเทศและชาวไทย
จากนั้นในปี 2551 จะให้เปิดรีสอร์ทระดับ 5 ดาวที่จังหวัดกระบี่ บนพื้นที่ 34 ไร่ โดยวางจำนวนห้องพักไว้ประมาณ 150-200 ห้อง และจะพัฒนาพื้นที่อีก 1 แปลง ขนาด 88 ไร่ ในการทำบ้านพักตากอากาศ จำนวน 70-80 หลัง เจาะกลุ่มเป้าหมายชาวต่างชาติ โดยมีมูลค่าโครงการไม่ต่ำกว่า 700-800 ล้านบาท และสุดท้ายในปี 2552 จะเปิดโรงแรมสไตล์รีสอร์ทอีก 1 แห่งที่เกาะพะงัน เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว จำนวนห้องพักไม่เกิน 100 ห้อง
โครงการที่จะเปิดให้บริการนั้นจะเป็นแบรนด์ใหม่ทั้งหมด จะเป็นการดำเนินการในรูปแบบของการจัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่ในการดำเนินการแต่ละโครงการ
อย่างไรก็ตามในส่วนของโรงแรมริชมอนด์เอง ปีนี้บริษัทฯได้จัดงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท สำหรับรีโนเวท ชูคอนเซปต์ “คอนเวนชั่น โฮเตล” เนื่องจากศักยภาพของพื้นที่ในจังหวัดนนทบุรี ที่ทางภาครัฐกำลังผลักดันให้กลายเป็นศูนย์ราชการ ในย่านถนนแจ้งวัฒนะ ที่คาดว่าจะมีคนเข้ามาไม่ต่ำกว่า 10,000 คน บวกกับพื้นที่บริเวณใกล้เคียงนี้ ที่ทางโรงแรมมีลูกค้ากลุ่มประชุมสัมมนา และการจัดอีเวนท์ต่างๆ อยู่แล้ว เช่น หน่วยงานทางภาครัฐ อย่าง กระทรวงสาธารณสุข การปะปา การไฟฟ้า และหน่วยงานจากกระทรวงยุติธรรม คาดว่าสิ้นปีจะมีรายได้ประมาณ 120 ล้านบาท และคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนในอีก 5 ปี
สำหรับการรีโนเวทครั้งนี้ทำให้ปัจจุบันโรงแรมมีจำนวนห้องพักทั้งหมด 445 ห้อง ห้องประชุมจำนวน 19 ห้อง โดยรีโนเวทเรียบร้อยแล้ว 90% ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของริชมอนด์มาจาก ประชุม 60% ห้องพัก 40% และเป็นลูกค้าชาวไทย 80% ต่างประเทศ 20% จากการเน้นลูกค้าต่างชาติในกลุ่มเอเชียมากขึ้น เช่น ชาวเกาหลี จากเดิมที่เป็นชาวรัสเซียเป็นหลัก
บริษัทฯยังจ้างบริษัท แม็กกาสปาร์ค จำกัด เข้ามาดูแลเกี่ยวกับการทำตลาดและสร้างแบรนด์ให้กับทางโรงแรมด้วย ด้วยงบประมาณ 2 ล้านบาท เน้นการทำประชาสัมพันธ์ การจัดโปรโมชั่นในแต่ละเดือนเป็นหลัก รวมทั้งการเข้าไปจับมือกับทางอิมแพ็ค เมืองทองธานี ในการร่วมมือที่พักให้กับกลุ่มที่เข้ามาสัมมนาที่อิมแพ็ค อีกด้วย
สำหรับภาวะการแข่งขันธุรกิจโรงแรมย่านชานเมืองนั้น จุดขายที่สำคัญอยู่ที่การให้บริการทางด้านการประชุม สัมมนา และจัดงานเลี้ยงทั่วไป ดังนั้นบริษัทฯจึงต้องการสร้างการจดจำให้เกิดแก่ลูกค้ามากขึ้น เพื่อรองรับตลาดMICE ที่กำลังจะเกิดขึ้น ในขณะที่ย่านดังกล่าวนี้ มีโรงแรมที่ให้บริการในระดับเดียวกันกับริชมอนด์อีก 2 แห่ง คือ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ และโรงแรมรามา การ์เด้น