xs
xsm
sm
md
lg

ประชาชนโอดเดือดร้อนหนักขึ้น หลังค่าโดยสารรถร่วม บขส.แพงขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประชาชนผู้ใช้บริการรถร่วมบริการ บขส.ยอมรับผลจากการที่รถร่วมบริการ บขส.ขึ้นค่าโดยสาร 3 สตางค์ต่อกิโลเมตร ทำให้มีภาระค่าครองชีพเพิ่มขึ้น พร้อมเรียกร้องรัฐเข้ามาช่วยดูแลความเดือดร้อนของประชาชนและเร่งนำรถโดยสารใช้เอ็นจีวีมาใช้โดยเร็ว ขณะที่ บขส.ระบุจะจัดซื้อรถโดยสารเอ็นจีวี คาดภายในปีนี้จะมีรถโดยสารเอ็นจีวีมาใช้บริการได้

บรรยากาศที่สถานีขนส่งหมอชิตใหม่วันนี้ (1 ส.ค.) ภายหลังที่มติคณะกรรมการขนส่งทางบกกลางอนุมัติให้รถร่วมบริการ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ปรับค่าโดยสารได้ 3 สตางค์ต่อกิโลเมตร และมีผลตั้งแต่หลังเที่ยงคืนที่ผ่านมา จากการสอบถามประชาชนผู้ใช้บริการรถโดยสารต่างตกใจกับค่าโดยสารใหม่ที่ปรับขึ้นมาก

นางสิริมา สุระ ผู้โดยสารที่เดินทางเส้นทางกรุงเทพฯ-บุรีรัมย์ประจำ ยอมรับว่าค่าโดยสารได้ปรับสูงขึ้นจากเที่ยวละ 270 บาท เป็น 310 บาท กลายเป็นภาระหนักให้แก่ผู้เดินทางและคงรับภาระต่อไปไม่ไหว หากรถร่วมบริการจะปรับราคาทุกครั้งที่ราคาน้ำมันปรับขึ้น และขอให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยดูแลความเดือดร้อนในส่วนนี้ด้วย

นายชิตณรงค์ ประวันนวล ผู้โดยสารที่ใช้บริการกรุงเทพฯ-กาฬสินธุ์ ระบุว่าค่าโดยสารที่ใช้ในเส้นทาง ได้ปรับสูงขึ้นจากกว่า 300 บาท เป็น 407 บาท และแม้จะเข้าใจว่าผู้ประกอบการรถร่วมบริการจำเป็นต้องปรับราคาเพื่อความอยู่รอด แต่ค่าโดยสารขณะนี้ทำให้ค่าครองชีพของประชาชนสูงขึ้นด้วย และขอให้หน่วยงานภาครัฐ โดย บขส. และรถร่วมบริการเร่งรัดการนำรถที่ใช้ก๊าซเอ็นจีวีมาใช้ เพื่อลดภาระค่าน้ำมันที่ปรับราคาสูงขึ้น

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร รักษาการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่า การปรับค่าโดยสารขณะนี้จะมีเฉพาะในส่วนของรถร่วมบริการเท่านั้น แต่รถบริการของ บขส.จะยังคงตรึงราคาต่อไปตามนโยบายนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งล่าสุดยังได้สั่งการเร่งรัดให้มีการจัดซื้อรถโดยสารเอ็นจีวีที่อยู่ในแผนจำนวน 50 คันโดยเร็ว ขณะนี้ บขส. อยู่ระหว่างกำหนดลักษณะรถที่จะจัดซื้อ ซึ่งเบื้องต้นจะเป็นรถขนาด 42 ที่นั่ง ราคาคันละประมาณ 4 ล้านบาท โดยการกำหนดคุณสมบัติจะแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้ และสามารถประกวดราคาได้เดือนกันยายน คาดว่าภายในปี 2549 บขส.จะมีรถโดยสารเอ็นจีวีมาวิ่งให้บริการ ซึ่งจะสามารถลดต้นทุนการเดินรถจากการเปลี่ยนเชื้อเพลิงน้ำมันเป็นเอ็นจีวีได้จากเดิมร้อยละ 50-60 เหลือร้อยละ 20 เท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น