xs
xsm
sm
md
lg

ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งชาติ รายงานตรงจากสิงคโปร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กรณีความขัดแย้งระหว่างชาวบ้าน ร้านโชว์ห่วย ชุมชนชนบทกับการแผ่ขยายอาณาจักรค้าปลีกข้ามชาติ ซูเปอร์มาร์เก็ตเชนต่างชาติ นั้นนับวันก็ยิ่งจะทวีความรุนแรงมากขึ้น

ท่ามกลางผลประโยชน์ ตัวเลขผลกำไรนับพันนับหมื่นล้านบาทในแต่ละปีดูจะเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าเม็ดเงินสูงลิ่วนี้ไม่เข้าใครออกใคร หลายปีที่ผ่านมาร้านค้าเล็กๆของชุมชนต้องปิดกิจการลงเพราะการขยายสาขาของค้าปลีกยักษ์ใหญ่

ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร หน่วยงานรัฐซึ่งควรจะมีบทบาทในการดูแลคุ้มครองผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลักกลับไม่สนใจไยดี เมื่อใดที่เกิดกระแสต่อต้านรุนแรงก็จะ ซื้อเวลาด้วยการสัญญาว่าจะออกมาตรการต่างๆเพื่อไม่ให้โชว์ห่วย กิจการรากหญ้าของแต่ละชุมชนต้องตายจากไป ในทางปฎิบัติกลับกระทำตรงกันข้าม รัฐบาลเลือกที่จะอำนวยความสะดวกให้กับ ค้าปลีกข้ามชาติ มากกว่าช่วยเหลือโชว์ห่วยจริง

สาขาของซูเปอร์มาร์เก็ตเชนต่างๆอย่างโลตัส คาร์ฟูร์ ดูเหมือนจะยิ่งแผ่ขยายไปเร็วขึ้นกว่าเก่า เร่งรัดทำเรื่องซื้อเช่าที่ทาง โบกปูนก่อสร้างเป็นรูปเป็นร่างด้วยความรวดเร็ว เร็วจนกระทั่งเราไม่ทันได้ตั้งตัวก็เห็นซูเปอร์ขาว-เขียว, ขาว-น้ำเงิน โผล่มาเปิดให้บริการ

ชุมชนบางแห่งที่เข้มแข็งและพอจะมองเกมมองปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตออกก็จะออกมาต่อต้าน ในขณะที่ชาวบ้านบางส่วนก็ดีใจที่จะมีซูเปอร์ติดแอร์เย็นๆเดินให้มันฉ่ำใจ ราคาของในซูเปอร์ก็ถูกกว่าร้านอาแปะอาม่าตรงหัวมุมเป็นไหนๆ

แต่ใครจะรู้บ้างว่าเบื้องหลังของราคาสินค้าที่ถูกกว่า นอกจากจะมาจากกลไกตลาดซึ่งรับซื้อในปริมาณมากจนได้ราคาถูกแล้ว ซูเปอร์มาร์เก็ตต่างชาติเหล่านี้ยังกดราคาต้นทุนผู้ผลิตของคนในชาติเราซะติดดิน แถมบังคับจ่ายค่าแรกเข้า ค่าชั้นวางของ ค่าการตลาด ค่านู่นค่านี่ซะโรงงานผู้ผลิตที่แท้จริงเหลือกำไรไม่เท่าไหร่ โรงงานเหล่านี้ก็ต้องไปบีบเอากับเกษตรกร กับแรงงานในชาติของเราอีกที

กำไรในแต่ละปีที่บริษัทแม่ของซูเปอร์เชนต่างชาติขนออกจากประเทศเราส่งกลับไปที่ประเทศอังกฤษ-ฝรั่งเศสเป็นหลายร้อยหลายพันล้านบาทนั้น มันคุ้มค่าแล้วหรือกับการได้เดินในซูเปอร์มาร์เก็ตเย็นฉ่ำ กับการได้ซื้อของในราคาที่ถูกลงนิดหน่อย แต่คนในชาติเราเอง ผลประโยชน์ของชาติเราเองกลับถูกโกยไปอีกประเทศหนึ่ง อีกฟากหนึ่งของโลก

คนท้องถิ่นมองไม่เห็นยังไม่เท่าไหร่ แต่รัฐซึ่งควรจะเป็นผู้ปกป้อง คุ้มครองเรานั้นหายไปไหน ?

เครือข่ายผลประโยชน์ที่เหนียวแน่น บวกกับเงินใต้โต๊ะเป็นปึกๆคงจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนในตัวว่าทำไมเราไม่คุ้มครองผลประโยชน์ของชาติเรา

มองดูประเทศสิงคโปร์ซึ่งมีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับรัฐบาลทักษิณ แล้วเปรียบเทียบดูบ้างไหม ข้าราชการ-นักการเมืองไทยเดินทางไปดูงานประเทศนี้เป็นร้อยเป็นพันครั้ง เกาะเล็กๆที่ว่านี้ แม้จะเจ้าเล่ห์เพทุบาย เอารัดเอาเปรียบเราอยู่หลายครา แต่ข้อดีคือ เขาก็ยังมองผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก สิงคโปร์มีซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นของตนเอง หรือจะเรียกว่า “ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งชาติ”
ก็คงจะไม่ผิด

เอ็นทียูซี แฟร์ไพรซ์ เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตเชนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ ตั้งขึ้นเมื่อ 30 กว่าปีที่ผ่านมา เน้นราคาถูกเป็นหลัก ขายสินค้าราคาประหยัดให้กับประชาชนในประเทศเป็นหลัก ด้วยโลโก้ “เราขายสินค้าราคาถูกทุกวัน” ติดหราอยู่ทุกชั้นทุกแผนก

ด้วยความที่เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งชาติ บวกอำนาจรัฐที่มีอยู่ในมือ (ที่เปิดโอกาสให้ต่างชาติน้อยกว่า) ทำให้เอ็นทียูซีเพิ่มขีดความสามารถในการครอบครองตลาดได้มากกว่าเจ้าไหนๆในสิงคโปร์ ทุกวันนี้เอ็นทียูซี แฟร์ไพร์ซ มีสาขามากกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ มียอดขายราว 1 พันล้านเหรียญและยังร่วมมือกับเอ็กซอนโมบิลเปิดมินิมาร์ทในปั๊มน้ำมันอีกกว่า 50 แห่ง พร้อมเพิ่มแรงรักชาติด้วยประโยคที่ย้ำว่า(FairPrice Singapore’s Very Own) แฟร์ไพร์ซ – ของเราชาวสิงคโปร์แท้ๆ

ดังนั้นซูเปอร์มาร์เก็ตเชนอื่นๆทั้งของต่างชาติและเอกชนจึงต้องพ่ายกลยุทธ์นี้ไปโดยการไปจับกลุ่มเป้าหมายอื่นที่ยอมจ่ายราคาสูงกว่าแทน เช่น กลุ่มชาวต่างชาติ หรือ แหล่งคนรวยและแหล่งอื่นที่ผู้ซื้อไม่เกี่ยงเรื่องราคาไปซะ

นี่เป็นความคิดที่ดีที่รัฐน่าจะเอาเป็นแบบอย่าง การตั้งซุปเปอร์มาร์เก็ตเชนของไทย ตอบสนองความต้องการของคนในประเทศ ซื้อหาสรรหามาจากแหล่งผลิตในประเทศ สนับสนุนเกษตรกรและภาคการผลิตของไทยเราเอง คนซื้อได้ของราคาถูก บรรยากาศเย็นฉ่ำ คนผลิตและรัฐได้กำไรเข้ากระเป๋า เงินทองก็วนเวียนอยู่ในประเทศเราเอง ไม่รั่วไหลไปไหนให้ขาดดุลและช้ำใจ

อันที่จริงต้นแบบความคิดนี้มีผู้ริเริ่มในไทยมานานหลายปีแล้ว นั่นก็คือ โครงการร้านโกลด์เด้นเพลซของในหลวง, โครงการร้านภูฟ้าของสมเด็จพระเทพฯ, และอีกหลายๆร้านค้าจากโครงการในพระราชดำริ แต่กลับเป็นสิ่งที่รัฐละเลย เพิกเฉย และมองข้ามไป ไม่มีใครนำมาคิดและสานต่อหรืออาจจะคิดแต่เงินมันอุดปาก-มัดมือไว้ก็ไม่ทราบได้

เราทำได้ เรามีศักยภาพ เรามีแหล่งสินค้า เรามีตลาด แต่เราไม่มีรัฐบาลที่จงรักภักดีต่อชาติและเห็นแก่ผลประโยชน์ของชาติที่เพียงพอ ตราบใดที่ประเทศไทยยังอยู่ภายใต้ระบอบทักษิณ เราคงไม่มีโอกาสได้เห็นซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งชาติของไทยแน่นอน.
กำลังโหลดความคิดเห็น