ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่ายอดการนำเข้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากต่างประเทศของไทยในช่วงครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 45.4 ทั้งจากประเทศที่มีต้นทุนการผลิตต่ำและเสื้อผ้าราคาแพง เตือนให้รณรงค์คนไทยให้หันกลับมาอุดหนุนสินค้าที่ผลิตในประเทศ
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด จัดทำบทวิจัยในหัวข้อ “เสื้อผ้าสำเร็จรูปปี’49 : สินค้านำเข้าเพิ่ม…สวนกระแสเศรษฐกิจขาลง” โดยระบุว่า การนำเข้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปของไทยในช่วงครึ่งแรกปี 2549 มีอัตราการเติบโตที่สูงถึงร้อยละ 45.4 โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่นำเข้าจากประเทศที่มีต้นทุนการผลิตต่ำอย่าง จีน อินเดีย และเวียดนาม ซึ่งมีมูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 98.2 รวมถึงเสื้อผ้าสำเร็จรูปราคาแพงที่นำเข้าจากประเทศทั้งในยุโรปและสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้นำด้านแฟชั่นและตราสินค้าเป็นที่รู้จักทั่วโลก เติบโตร้อยละ 68.1 ทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียเงินตราต่างประเทศไปในช่วงที่ประเทศไทยกำลังประสบภาวะขาดดุลการค้าที่สูงถึง 2,029.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2549 ยังส่งผลให้สินค้าที่ผลิตในประเทศต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น และอาจส่งผลกระทบไปถึงปัญหาการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมเสื้อผ้าสำเร็จรูปในท้ายที่สุด
ดังนั้น เพื่อป้องกันและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ภาครัฐและผู้ประกอบการควรเร่งรณรงค์ให้คนไทยหันมาอุดหนุนสินค้าที่ผลิตจากในประเทศซึ่งมีความหลากหลาย ทั้งเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ผลิตจากผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและรายใหญ่ที่มีราคาไม่แพง ไปจนถึงผู้ประกอบการที่ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่มีคุณภาพภายใต้ตราสินค้าของตนเอง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้ประกอบเองก็ควรเร่งปรับตัวหาหนทางลดต้นทุนการผลิต รวมทั้งพัฒนาคุณภาพสินค้าให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ มูลค่านำเข้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปของไทยปรับเพิ่มขึ้นทั้งในส่วนสินค้าที่นำเข้าจากประเทศที่มีต้นทุนการผลิตต่ำ ไปจนถึงประเทศที่มีระดับราคาปานกลางไปถึงสูง โดยกลุ่มประเทศที่ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่เน้นต้นทุนการผลิตต่ำ ได้แก่ จีน อินเดีย และเวียดนาม เป็นแหล่งนำเข้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่สำคัญของไทย คิดเป็นสัดส่วนรวมกันถึงร้อยละ 49.2 โดยในช่วง 6 เดือนแรกปี 2549 มูลค่านำเข้าจากจีนมีทั้งสิ้น 36.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 36.4 รองลงมาได้แก่นำเข้าจากอินเดีย มูลค่า 2.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 101.2 และเวียดนามนำเข้า 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 156.8
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลทำให้การนำเข้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปในช่วง 6 เดือนแรกปี 2549 เพิ่มขึ้น ประกอบด้วย ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ประชาชนที่มีกำลังซื้อจำกัดหันไปเลือกซื้อสินค้าที่มีราคาไม่แพง ขณะเดียวกันเงินบาทที่แข็งค่า มีส่วนช่วยลดต้นทุนการนำเข้าสินค้าจำพวกเสื้อผ้าสำเร็จรูปราคาแพงจากต่างประเทศลงมาได้บางส่วน และการเปิดเสรีทางการค้า ทำให้สินค้าจากจีนทะลักเข้ามายังไทยเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับการแข่งขันในธุรกิจค้าปลีก ที่นำเข้าสินค้าเสื้อผ้าเพื่อสร้างความหลากหลายและแตกต่างรองรับกลุ่มลูกค้า ขณะที่กระแสความนิยมในวัฒนธรรมต่างประเทศ ปัจจุบันคนไทยโดยเฉพาะวัยรุ่นได้รับเอาวัฒนธรรมการแต่งกายตามแบบต่างประเทศ ดังนั้นเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่นำเข้าจากประเทศดังกล่าวจึงได้รับความนิยมมากขึ้น
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า แม้ว่าการนำเข้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากต่างประเทศจะถือเป็นวงจรการค้าระหว่างประเทศตามปกติ แต่จากการที่คนไทยเริ่มหันไปซื้อสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ทั้งในส่วนของเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ผลิตจากประเทศที่มีต้นทุนการผลิตต่ำ ไม่ว่าจะเป็น จีน อินเดีย เวียดนาม หรือที่ผลิตจากประเทศที่เป็นผู้นำทางด้านแฟชั่นการออกแบบตัดเย็บ ทั้งจากยุโรปและสหรัฐ ก็นับเป็นสัญญาณอันตรายต่อภาวะดุลการค้าของไทย รวมทั้งกระทบต่อผู้ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปในประเทศเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นการหาหนทางป้องกันและแก้ไขตั้งแต่บัดนี้จึงนับว่ามีความสำคัญ เพราะในอนาคตผลจากข้อตกลงการค้าเสรีที่ไทยทำกับประเทศต่าง ๆ จะทำให้สินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายโดยเสียภาษีในอัตราที่ต่ำลง หรือไม่เก็บภาษี ซึ่งหากถึงวันนั้น สินค้าจากต่างประเทศอาจจะเข้ามาครอบครองพื้นที่จำหน่าย ทั้งตามตลาดนัดสินค้าราคาถูกไปจนกระทั่งถึงห้างสรรพสินค้าที่จำหน่ายสินค้าราคาแพงเพิ่มขึ้น หากสินค้าในประเทศไม่มีการปรับตัวทั้งทางด้านคุณภาพและประสิทธิภาพการผลิตให้อยู่ในสถานะที่จะแข่งขันได้ในตลาดการค้าเสรีดังกล่าว
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด จัดทำบทวิจัยในหัวข้อ “เสื้อผ้าสำเร็จรูปปี’49 : สินค้านำเข้าเพิ่ม…สวนกระแสเศรษฐกิจขาลง” โดยระบุว่า การนำเข้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปของไทยในช่วงครึ่งแรกปี 2549 มีอัตราการเติบโตที่สูงถึงร้อยละ 45.4 โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่นำเข้าจากประเทศที่มีต้นทุนการผลิตต่ำอย่าง จีน อินเดีย และเวียดนาม ซึ่งมีมูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 98.2 รวมถึงเสื้อผ้าสำเร็จรูปราคาแพงที่นำเข้าจากประเทศทั้งในยุโรปและสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้นำด้านแฟชั่นและตราสินค้าเป็นที่รู้จักทั่วโลก เติบโตร้อยละ 68.1 ทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียเงินตราต่างประเทศไปในช่วงที่ประเทศไทยกำลังประสบภาวะขาดดุลการค้าที่สูงถึง 2,029.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2549 ยังส่งผลให้สินค้าที่ผลิตในประเทศต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น และอาจส่งผลกระทบไปถึงปัญหาการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมเสื้อผ้าสำเร็จรูปในท้ายที่สุด
ดังนั้น เพื่อป้องกันและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ภาครัฐและผู้ประกอบการควรเร่งรณรงค์ให้คนไทยหันมาอุดหนุนสินค้าที่ผลิตจากในประเทศซึ่งมีความหลากหลาย ทั้งเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ผลิตจากผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและรายใหญ่ที่มีราคาไม่แพง ไปจนถึงผู้ประกอบการที่ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่มีคุณภาพภายใต้ตราสินค้าของตนเอง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้ประกอบเองก็ควรเร่งปรับตัวหาหนทางลดต้นทุนการผลิต รวมทั้งพัฒนาคุณภาพสินค้าให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ มูลค่านำเข้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปของไทยปรับเพิ่มขึ้นทั้งในส่วนสินค้าที่นำเข้าจากประเทศที่มีต้นทุนการผลิตต่ำ ไปจนถึงประเทศที่มีระดับราคาปานกลางไปถึงสูง โดยกลุ่มประเทศที่ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่เน้นต้นทุนการผลิตต่ำ ได้แก่ จีน อินเดีย และเวียดนาม เป็นแหล่งนำเข้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่สำคัญของไทย คิดเป็นสัดส่วนรวมกันถึงร้อยละ 49.2 โดยในช่วง 6 เดือนแรกปี 2549 มูลค่านำเข้าจากจีนมีทั้งสิ้น 36.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 36.4 รองลงมาได้แก่นำเข้าจากอินเดีย มูลค่า 2.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 101.2 และเวียดนามนำเข้า 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 156.8
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลทำให้การนำเข้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปในช่วง 6 เดือนแรกปี 2549 เพิ่มขึ้น ประกอบด้วย ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ประชาชนที่มีกำลังซื้อจำกัดหันไปเลือกซื้อสินค้าที่มีราคาไม่แพง ขณะเดียวกันเงินบาทที่แข็งค่า มีส่วนช่วยลดต้นทุนการนำเข้าสินค้าจำพวกเสื้อผ้าสำเร็จรูปราคาแพงจากต่างประเทศลงมาได้บางส่วน และการเปิดเสรีทางการค้า ทำให้สินค้าจากจีนทะลักเข้ามายังไทยเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับการแข่งขันในธุรกิจค้าปลีก ที่นำเข้าสินค้าเสื้อผ้าเพื่อสร้างความหลากหลายและแตกต่างรองรับกลุ่มลูกค้า ขณะที่กระแสความนิยมในวัฒนธรรมต่างประเทศ ปัจจุบันคนไทยโดยเฉพาะวัยรุ่นได้รับเอาวัฒนธรรมการแต่งกายตามแบบต่างประเทศ ดังนั้นเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่นำเข้าจากประเทศดังกล่าวจึงได้รับความนิยมมากขึ้น
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า แม้ว่าการนำเข้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากต่างประเทศจะถือเป็นวงจรการค้าระหว่างประเทศตามปกติ แต่จากการที่คนไทยเริ่มหันไปซื้อสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ทั้งในส่วนของเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ผลิตจากประเทศที่มีต้นทุนการผลิตต่ำ ไม่ว่าจะเป็น จีน อินเดีย เวียดนาม หรือที่ผลิตจากประเทศที่เป็นผู้นำทางด้านแฟชั่นการออกแบบตัดเย็บ ทั้งจากยุโรปและสหรัฐ ก็นับเป็นสัญญาณอันตรายต่อภาวะดุลการค้าของไทย รวมทั้งกระทบต่อผู้ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปในประเทศเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นการหาหนทางป้องกันและแก้ไขตั้งแต่บัดนี้จึงนับว่ามีความสำคัญ เพราะในอนาคตผลจากข้อตกลงการค้าเสรีที่ไทยทำกับประเทศต่าง ๆ จะทำให้สินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายโดยเสียภาษีในอัตราที่ต่ำลง หรือไม่เก็บภาษี ซึ่งหากถึงวันนั้น สินค้าจากต่างประเทศอาจจะเข้ามาครอบครองพื้นที่จำหน่าย ทั้งตามตลาดนัดสินค้าราคาถูกไปจนกระทั่งถึงห้างสรรพสินค้าที่จำหน่ายสินค้าราคาแพงเพิ่มขึ้น หากสินค้าในประเทศไม่มีการปรับตัวทั้งทางด้านคุณภาพและประสิทธิภาพการผลิตให้อยู่ในสถานะที่จะแข่งขันได้ในตลาดการค้าเสรีดังกล่าว