กรมบัญชีกลางเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาจ่ายเงินโบนัสพิเศษให้แก่ข้าราชการจำนวน 7,000 ล้านบาท ในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) รับโบนัสสูงสุดกว่า 1,700 ล้านบาท รองลงมาคือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองทัพบก
นายบุญศักดิ์ เจียมปรีชา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ กรมบัญชีกลางจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างระเบียบการจ่ายเงินโบนัสพิเศษจำนวน 7,000 ล้านบาทให้กับข้าราชการ หลังจากที่คณะกรรมการพิจารณาร่างระเบียบได้ขอให้แก้ไขถ้อยคำให้เกิดความชัดเจน โดยยืนยันว่าเมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ กรมบัญชีกลางจะโอนเงินให้ส่วนราชการเพื่อให้สามารถเบิกจ่ายเงินได้ทันที เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่ข้าราชการรอคอยกันมานานแล้ว
ส่วนกรณีที่คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ระบุให้ผู้บริหารจัดสรรเงินโบนัสส่วนหนึ่งให้กับพนักงานระดับล่าง ว่า ถือเป็นเรื่องของหน่วยงานที่จะพิจารณากันเองไม่ได้เกี่ยวข้องใด ๆ กับกรมบัญชีกลาง ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้บริหารของหน่วยงานนั้น ๆ และถือเป็นความลับของผู้บริหารแต่ละคน
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่าสำหรับเงินโบนัสที่ให้กับข้าราชการครั้งนี้ เมื่อคำนวณตามสูตรที่คณะกรรมการพัฒนาระบบข้าราชการ (ก.พ.ร.) กำหนดแล้ว ระดับปลัดกระทรวงจะได้รับเงินโบนัสกว่า 500,000 บาท ขณะที่ระดับรองปลัดกระทรวง ระดับอธิบดี จะได้รับเงินโบนัสประมาณ 300,000-400,000 บาท ส่วนหัวหน้าหน่วยงานในภูมิภาคจะได้รับเงินโบนัสตั้งแต่ 40,000-100,000 บาท
สำหรับหน่วยงานที่ได้รับเงินโบนัสมากที่สุด ได้แก่ สพฐ. จำนวน 1,747 ล้านบาท เนื่องจากเป็นส่วนราชการที่มีจำนวนข้าราชการมากที่สุดประมาณ 400,000-500,000 คน เมื่อคำนวณคะแนนที่ได้รับรวมกับฐานเงินเดือนและจำนวนข้าราชการแล้ว จึงทำให้ได้รับเงินโบนัสสูงที่สุด รองลงมาคือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้รับเงินงบประมาณเพื่อจ่ายโบนัสจำนวน 514 ล้านบาท เนื่องจากมีข้าราชการตำรวจกว่า 200,000 คน ขณะที่กองทัพบกได้รับเงินจำนวน 400 ล้านบาท หรือมากเป็นอันดับ 3
ทั้งนี้ การจ่ายเงินโบนัสในส่วนของข้าราชการระดับสูงที่มีเงินประจำตำแหน่ง หรือตั้งแต่ระดับผู้อำนวยการกอง ไปจนถึงระดับปลัดกระทรวงนั้นจะได้รับเงินโบนัสในงวดนี้จำนวนร้อยละ 70 ก่อน เนื่องจากการจัดทำดัชนีชี้วัดหรือเคพีไอ ยังไม่แล้วเสร็จครบทุกหน่วยงาน จึงทำให้ข้าราชการระดับสูงต้องได้รับเงินส่วนมากไปก่อน และเมื่อได้รับเงินไปแล้ว แต่หากหน่วยงานต้นสังกัดได้คำนวณเคพีไอ แล้วได้รับเงินโบนัสเกิน ข้าราชการระดับสูงต้องจ่ายเงินคืนให้กับหน่วยงานคืนภายหลังด้วย
นายบุญศักดิ์ เจียมปรีชา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ กรมบัญชีกลางจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างระเบียบการจ่ายเงินโบนัสพิเศษจำนวน 7,000 ล้านบาทให้กับข้าราชการ หลังจากที่คณะกรรมการพิจารณาร่างระเบียบได้ขอให้แก้ไขถ้อยคำให้เกิดความชัดเจน โดยยืนยันว่าเมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ กรมบัญชีกลางจะโอนเงินให้ส่วนราชการเพื่อให้สามารถเบิกจ่ายเงินได้ทันที เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่ข้าราชการรอคอยกันมานานแล้ว
ส่วนกรณีที่คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ระบุให้ผู้บริหารจัดสรรเงินโบนัสส่วนหนึ่งให้กับพนักงานระดับล่าง ว่า ถือเป็นเรื่องของหน่วยงานที่จะพิจารณากันเองไม่ได้เกี่ยวข้องใด ๆ กับกรมบัญชีกลาง ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้บริหารของหน่วยงานนั้น ๆ และถือเป็นความลับของผู้บริหารแต่ละคน
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่าสำหรับเงินโบนัสที่ให้กับข้าราชการครั้งนี้ เมื่อคำนวณตามสูตรที่คณะกรรมการพัฒนาระบบข้าราชการ (ก.พ.ร.) กำหนดแล้ว ระดับปลัดกระทรวงจะได้รับเงินโบนัสกว่า 500,000 บาท ขณะที่ระดับรองปลัดกระทรวง ระดับอธิบดี จะได้รับเงินโบนัสประมาณ 300,000-400,000 บาท ส่วนหัวหน้าหน่วยงานในภูมิภาคจะได้รับเงินโบนัสตั้งแต่ 40,000-100,000 บาท
สำหรับหน่วยงานที่ได้รับเงินโบนัสมากที่สุด ได้แก่ สพฐ. จำนวน 1,747 ล้านบาท เนื่องจากเป็นส่วนราชการที่มีจำนวนข้าราชการมากที่สุดประมาณ 400,000-500,000 คน เมื่อคำนวณคะแนนที่ได้รับรวมกับฐานเงินเดือนและจำนวนข้าราชการแล้ว จึงทำให้ได้รับเงินโบนัสสูงที่สุด รองลงมาคือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้รับเงินงบประมาณเพื่อจ่ายโบนัสจำนวน 514 ล้านบาท เนื่องจากมีข้าราชการตำรวจกว่า 200,000 คน ขณะที่กองทัพบกได้รับเงินจำนวน 400 ล้านบาท หรือมากเป็นอันดับ 3
ทั้งนี้ การจ่ายเงินโบนัสในส่วนของข้าราชการระดับสูงที่มีเงินประจำตำแหน่ง หรือตั้งแต่ระดับผู้อำนวยการกอง ไปจนถึงระดับปลัดกระทรวงนั้นจะได้รับเงินโบนัสในงวดนี้จำนวนร้อยละ 70 ก่อน เนื่องจากการจัดทำดัชนีชี้วัดหรือเคพีไอ ยังไม่แล้วเสร็จครบทุกหน่วยงาน จึงทำให้ข้าราชการระดับสูงต้องได้รับเงินส่วนมากไปก่อน และเมื่อได้รับเงินไปแล้ว แต่หากหน่วยงานต้นสังกัดได้คำนวณเคพีไอ แล้วได้รับเงินโบนัสเกิน ข้าราชการระดับสูงต้องจ่ายเงินคืนให้กับหน่วยงานคืนภายหลังด้วย