xs
xsm
sm
md
lg

สยามฯปั้นสติลไวน์ลุยทุกเซกเมนต์ ดันสปายไวน์คูลเลอร์โหมหนักตปท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สยาม ไวเนอรี่ ประกาศนโยบายเดินลงสมรภูมิสติลไวน์ครบทุกเซกเมนต์ เล็งปั้นแบรนด์ใหม่ลงเซกเมนต์กลาง-พรีเมียม หลังพบตลาดไวน์ คูลเลอร์ 3 พันล.ไม่โตติดต่อมาหลายปี ล่าสุดอัดฉีดงบเพิ่ม 5% หรือ 135 ล้านบาทกระตุ้น พร้อมเบนเข็มลุยตลาดโกอินเตอร์จริงจัง  สิ้นปียอดส่งออกโต 200% ตั้งเป้าอีก 6 ปี ผงาดขึ้นเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอันดับหนึ่งในเอเชีย  

นายแดเนียล ชวาล์บ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการขายและการตลาด บริษัท สยาม ไวเนอรี่ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสปาย ไวน์ คูลเลอร์ และสติล ไวน์ แบรนด์ มอนซูน แวลลี่ย์ เปิดเผยว่า จากภาวะตลาดไวน์ คูลเลอร์มูลค่า 3,000 ล้านบาท ไม่มีอัตราการเติบโตมาหลายปีแล้ว และปีนี้ก็เช่นเดียวกัน ทำให้ปีนี้บริษัทฯได้เพิ่มงบการตลาดอีก 5% หรือคิดเป็น 135 ล้านบาทในการกระตุ้นตลาดในฐานะที่สปาย ไวน์ คูลเลอร์เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 89%

นอกจากนี้ได้วางแผนรุกตลาดสติล ไวน์มากขึ้น โดยเฉพาะการขยายไลน์สินค้าให้ครอบคลุมสติล ไวน์ในเซกเมนต์ที่บริษัทยังไม่มี ได้แก่ เซกเมนต์ระดับกลาง และพรีเมียม จากเดิมไวน์ในพอร์ตมีแต่ในเซกเมนต์ระดับล่างเท่านั้น โดยบริษัทจะเน้นวางสินค้าใหม่ภายใต้ราคาที่ดึงดูดใจ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างปลูกพันธ์องุ่นใหม่ บนพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ ที่ หัวหิน

พร้อมกันนี้ยังเตรียมนำเทคโนโลยีการผลิตไวน์ใหม่ รวมทั้งนำผู้ผลิตไวน์ที่มีความชำนาญมาพัฒนาสินค้าใหม่ โดยจะเป็นไวน์ภายใต้แบรนด์ใหม่ จากปัจจุบันบริษัทมีไวน์ภายใต้แบรนด์มอนซูน แวลลี่ย์ มีทั้งหมด 5 ชนิด ได้แก่ ไวน์ขาวมะละกา ไวน์แดงป๊อกดำ ไวน์โรเซ่ ไวน์แดงชีราซ สเปเชี่ยล เป็นต้น จำหน่ายในราคาเฉลี่ย 800 บาทขึ้นไป

สำหรับสติล ไวน์จากประเทศไทยถือว่าเป็นไวน์โลกใหม่ ที่เน้นดื่มร่วมกับอาหารรสจัด อย่างไรก็ตามปัจจุบันอัตราการดื่มไวน์ของคนไทยยังมีน้อยอยู่ เพราะการรับรู้ข้อมูลข่าวสารมีไม่มากนัก ทั้งนี้ประเทศไทยสามารถจะสร้างตลาดไวน์ให้มีอัตราการเติบโตได้ เหมือนเช่นในประเทศจีน และอินเดียที่ลดโครงสร้างภาษีไวน์ลง ทำให้ตลาดไวน์มีราคาถูกและมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น

นายชวาล์บ กล่าวว่า นอกจากนี้บริษัทยังได้เตรียมรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น ภายใต้สปาย ไวน์ คูลเลอร์ และสบาย ฯลฯ เนื่องจากในปี 2555 หรืออีก 6 ปี ข้างหน้านี้ บริษัทฯตั้งเป้าจะขึ้นเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายไวน์ในภูมิภาคเอเชีย โดยในเบื้องต้นได้เตรียมเพิ่มกำลังการผลิตถึง 2 เท่าตัว จากปัจจุบันบริษัทเป็นผู้ผลิตไวน์เป็นอันดับหนึ่งในเซาท์อีสเอเชีย โดยมีกำลังผลิต 35 ล้านลิตร อย่างไรก็ตามอัตราการดื่มไวน์ของคนเอเชียยังมีน้อย โดยคาดว่าในอีก 4 ปีข้างหน้าจะมีอัตราการดื่มไวน์ 920 ล้านลิตร หรือคิดเป็นเพียง 4%ของผู้ดื่มทั่วโลก

สำหรับแผนส่งออกในปีหน้านี้ บริษัทได้เตรียมขยายตลาดไปยังประเทศจีน อินเดีย และอินโดนีเซีย จากที่ผ่านมาส่งออกไปแล้ว 22 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ เยอรมัน และญี่ปุ่น โดยจะใช้โมเดลเดียวกับเรดบูล ซึ่งล่าสุดได้ส่งออกเครื่องดื่มผสมแอลฮอล์พร้อมดื่ม”สบาย”เปิดตลาดในประเทศอังกฤษ โดยให้ดิสทริเตอร์รายเดียวกับเรดบูล ส่งผลให้ยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกทะลุเป้าหมายที่วางไว้ 1.3 แสนขวดเพิ่มขึ้นไป 56% จากในปีที่ผ่านมา ปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากการส่งออกคิดเป็น 10% และภายประเทศ 90%

ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรก ตลาดส่งออกมีอัตราการเติบโต 125% หรือมียอดขาย 7.5 หมื่นขวด สิ้นปีตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 200% แบ่งเป็นยอดขาย สปาย 3 ล้านขวด และสบาย 6 แสนขวด ส่วนยอดขายภายในประเทศครึ่งปีแรกสปาย ไวน์ คูลเลอร์ โต 5% และมอนซูน แวลลี่ย์ 27%    
กำลังโหลดความคิดเห็น