xs
xsm
sm
md
lg

'ทนง' ยอมรับนักลงทุนญี่ปุ่นห่วงการเมือง-แรงงานฝีมือในไทยมากสุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังระบุนักลงทุนญี่ปุ่นแสดงความกังวลเรื่องสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย และปรับอันดับความไม่เชื่อมั่นจากอันดับที่ 18 เป็นอันดับที่ 6 แล้ว นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องแรงงานมีฝีมือที่นักลงทุนญี่ปุ่นกังวลมาก พร้อมชี้แจงสาเหตุที่ซีเกตย้ายฐานการขยายโรงงานไปมาเลเซีย เพราะปัญหาแรงงานฝีมือมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดเป็นหลัก

นายทนง พิทยะ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ปัจจุบันนักลงทุนญี่ปุ่นได้แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยมาก เพราะจากดัชนีวัดความรู้สึกของนักลงทุนญี่ปุ่นที่มีต่อไทย ซึ่งจัดทำโดยองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) ล่าสุดในปี 2549 ได้ปรับอันดับความไม่เชื่อมั่นจากสาเหตุการเมืองขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 6 แล้ว จากเดิมที่ปีก่อนยังอยู่ในอันดับที่ 18 ซึ่งถือเป็นปัญหาระยะสั้นที่ต้องเร่งดำเนินการ ขณะที่อันดับต้น ๆ ยังเป็นเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนและดอกเบี้ยที่มีผลต่อการลงทุนของญี่ปุ่น

นอกจากนี้ยังพบว่า ปัญหาเรื่องการขาดแคลนฝีมือแรงงาน การแย่งแรงงานระหว่างโรงงาน เป็นปัญหาสำคัญที่บรรดานักลงทุนญี่ปุ่นเป็นห่วงมากเช่นกัน โดยมีอันดับความไม่เชื่อมั่นอยู่ในอันดับที่ 4 เพราะการทำธุรกิจของญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยลงทุนในเรื่องนี้มาก เมื่อมีการแย่งแรงงานเกิดขึ้น ทำให้บริษัทญี่ปุ่นมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

นายทนง กล่าวด้วยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มีการรายงานให้ทราบชัดเจนถึงสาเหตุที่บริษัทซีเกตได้ตัดสินใจไปลงทุนขยายโรงงานเพิ่มเติมที่มาเลเซีย เนื่องจากไทยขาดแคลนแรงงานฝีมือด้านอิเล็กทรอนิกส์ จนกลัวว่าหากขยายการลงทุนในไทยอาจมีแรงงานไม่เพียงพอ ซึ่งทั้งหมดรัฐบาลได้ทราบปัญหามาโดยตลอด แต่ยอมรับว่าการพัฒนาแรงงานฝีมือ แรงงานด้านช่างเทคนิค ด้านเอ็นจิเนียร์ของไทย ยังไม่มีกลยุทธ์ในการพัฒนาที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม บริษัทญี่ปุ่นที่ลงทุนอยู่แล้วก็ยังดำเนินธุรกิจต่อไป แต่นักลงทุนอาจกังวลกับการลงทุนใหม่ที่เกิดขึ้น

“ที่ผ่านมาบริษัทขนาดใหญ่ที่ไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน ก็มีซีเกตที่ไปลงทุนมาเลเซีย บริษัท อินเทลฯ ที่ไปลงทุนที่เวียดนาม แต่การขาดแคลนแรงงานฝีมือไม่ได้เกี่ยวข้องกับการไม่มีงานทำหรือการว่างงานแต่อย่างใด เพราะปัจจุบันอัตราการว่างงานหรือการไม่มีงานทำของคนไทย มีอัตราแค่ร้อยละ 1.7 เท่านั้น” นายทนง กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น