xs
xsm
sm
md
lg

ไอทีวีงงข่าวประกันความเสี่ยงขายหุ้น ผนึกทีวี3ชาติอินโดจีนร่วมมือข่าวสาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไอทีวียันยังไม่มีอะไรคืบหน้ากรณีปัญหากับสปน. ย้ำยังใช้ผังรายการเดิมอยู่ มีการปรับบ้างเล็กน้อยเพื่อความเหมาะสม ล่าสุดปรับเวลารายการ "ร่วมมือร่วมใจ" พร้อมทั้งเพิ่มเวลารายการไอทีวีฮอทนิวส์ เผยผนึกทีวีอีก 3 ช่อง จาก 3 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง สร้าง "ชุมชนลุ่มน้ำแม่โขง" แลกเปลี่ยนข่าวสารและความร่วมมืออื่น

นายนิวัฒน์ธำรงค์ บุญทรงไพศาล ประธาน บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ปัญหาของไอทีวีกับสปน.ยังไม่มีอะไรคืบหน้า หลังจากที่ทางไอทีวีได้ส่งจดหมายไปยังสปน. แล้วไม่นานนี้ ทุกอย่างยังคงอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาและดำเนินการ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า การซื้อขายหุ้นไอทีวีนั้นได้มีการทำประกันความเสี่ยงการซื้อขายระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายหรือการทำเอสโครว์นั้นไม่เป็นความจริง เพราะไม่เคยมีการทำเรื่องนี้แต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผังรายการไอทีวีโดยรวมยังไม่มีการปรับเปลี่ยนแต่อย่างใด ยังคงเป็นไปตามผังเดิมที่ใช้อยู่เหมือนก่อนหน้านี้ แต่มีเพียงการปรับเล็กปรับน้อยและเปลี่ยนแปลงเวลาออกอากาศ บางรายการเท่านั้น

นายทรงศักดิ์ เปรมสุข กรรมการผู้จัดการ ไอทีวี กล่าวว่า ช่วงเดือนตุลาคมจะมีการปรับผังรายการอยู่แล้วตามปรกติ แต่ก็ไม่ได้ปรับใหญ่อะไร เป็นแต่เพียงการปรับเพื่อความเหมาะสมกับความต้องการของตลาดเท่านั้น ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ได้ปรับเวลารายการ ร่วมมือร่วมใจ จากเดิมออกอากาศ เวลา 15.00 น. มาเป็น 14.00 น. และการเพิ่มเวลารายการฮอทนิวส์อีกประมาณ 15 นาที เพื่อความเข้มข้นของการรายงานข่าว

นอกจากนั้นแล้ว ล่าสุดนี้ไอทีวีได้ร่วมมือกับทางสถานีโทรทัศน์อีก 3 ช่อง จาก 3 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขงซึ่งประกอบไปด้วย ทีวี 5 (TV 5) จากราชอาณาจักรกัมพูชา, ช่อง LNTV จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว, ช่อง HTV จากสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และช่องไอทีวี ของประเทศไทย เพื่อจัดทำโครงการ ชุมชนแม่โขง หรือ Mekong Community (MCTV)

โดยวัตถุประสงค์หลักของการร่วมมือทำโครงการนี้ก็เพื่อ 1.สร้างความร่วมมือระหว่างสถานีโทรทัศน์ทั้ง 4 ช่อง 2.แบ่งปันและแลกเปลี่ยนแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ระหว่างกัน ทั้งในด้านข่าวสาร สารคดี กีฬา การท่องเที่ยว วัฒนธรรม บันเทิง และสถานการณ์ที่อยู่ในความสนใจ ปราศจากเรื่องของการเมืองที่ไม่เกี่ยวข้อง 3.แลกเปลี่ยนเทคโนโลยี การฝึกอบรมบุคลากร 4.ร่วมมือสร้างสรรค์รายการโทรทัศน์รูปแบบใหม่

แนวทางการร่วมมือนั้น เป็นไปได้ทั้งสองแบบคือ การเอาข่าวของแต่ละประเทศมารายงานให้แต่ละประเทศได้ชม กับการที่ส่งทีมงานออกไปร่วมกันทำข่าวที่น่าสนใจหรือที่มีการตกลงกันในประเด็นต่างๆแล้วนำมาแพร่ภาพ ซึ่งจริงๆแล้วไม่ต้องใช้งบประมาณมาก เพราะแต่ละคนก็ต้องทำอยู่แล้ว เพียงแต่จะมีช่องทางการในการออกอากาศมากขึ้น

โดยทางไอทีวีจะนำเสนอข่าวสารรูปแบบต่างๆผ่านทางรายการ ฮอทนิวส์ และข่าวภาคค่ำไอทีวี ได้แก่ ภาพข่าวเหตุการณ์ ข่าวสำคัญ และความเคลื่อนไหวทั่วไป, สกู๊ปพิเศษ ไลฟ์สไตล์ของแต่ละประเทศ สีสันชีวิตวัยรุ่น, รายการยอดฮิตแต่ละประเทศ , หรือประเด็นเกี่ยวกับปัญหาทางสังคม ปัญหาด้านการศึกษา ประเด็นข่าวทางเศรษฐกิจเป็นต้น , การนำเสนอภาพข่าวกิจกรรมในเทศกาลต่างๆ

"ที่ผ่านมาเราไปมุ่งเน้นข่าวของยุโรป ข่าวตะวันออกกลาง แต่เราให้ความสนใจหรือให้ความสำคัญกับข่าวรอบตัวเราที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านน้อยเกินไป ทั้งๆที่อยู่ใกล้ตัวเรา และมีความเกี่ยวข้องกับเราไม่น้อย ทั้ง 4 ประเทศนี้ มีประชากรรวมกันมากกว่า 150 ล้านคน ซึ่งเป็นฐานที่ใหญ่ และในอนาคตก็จะมีเศรษฐกิจเกิดขึ้นใน 4 ประเทศนี้มากกว่าปัจจุบันอีกด้วย"

จับมือเครือข่ายพันธมิตรอีก 3ช่อง
นายกฤษฎา มนูญวงษ์ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 กัมพูชา กล่าวว่า การร่วมมือครั้งนี้จะทำให้ช่อง 5 มีเนื้อหารายการข่าวสารเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่มีประมาณ 10% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องกีฬาประมาณ 60% และที่เหลือเป็นอื่นๆ ซึ่งจะทำให้จุดแข็งด้านเนื้อหาข่าวเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่โดดเด่นและเป็นผู้นำในเรื่องกีฬาแล้ว ซึ่งช่อง 5 กัมพูชา นี้ออกอกกาศตั้งแต่ 07.00-23.00 น.

ส่วนสถานีโทรทัศน์แห่งชาติลาว มีสถานีแพร่ภาพออกอากาศจำนวน 2 ช่อง คือ สทล 1 และ สทล 3 รับสัญญาณจากแม่ข่ายที่นครหลวงเวียงจันทร์ ไปยังสถานีย่อย 15 สถานีทั่วประเทศ มีสัดส่วนรายการดังนี้ ข่าวภาคภาษาลาว วันละ 2 ชั่วโมง 10 นาที ข่าวภาคภาษาอังกฤษ 1 ชั่วโมง 30 นาที ต่อสัปดาห์ ข่าวภาคภาษาฝรั่งเศส 1 ชั่วโมง 30 นาทีต่อสัปดาห์ นอกนั้นเป็นรายการสาระ ความรู้ ความบันเทิง

ขณะที่ช่อง HTV ของเวียดนามนั้น เป็นสถานีที่ใหญ่ที่สุดสถานีหนึ่งของเวียดนาม และเป็นสถานีที่มีเรตติ้งสูงที่สุดด้วย โดยมีการออกอากาศทั้งหมด 7 ช่อง โดยช่องที่ 7 เน้นเกี่ยวกับ เศรษฐกิจ ธุรกิจ และรายการบันเทิง โดยมีรายการที่ผลิตเอง 30% ส่วนที่เหลือเป็นรายการจากต่างประเทศ พร้อมทั้งมีสตูดิโอเป็นของตัวเองด้วย และกำลังพัฒนาเข้าสู่ระบบดิจิตอลในอนาคต
กำลังโหลดความคิดเห็น