xs
xsm
sm
md
lg

สมบุญ ประสิทธิ์จูตระกูล “ตอนนี้ถือว่าอยู่ในภาวะของความลำบาก”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ผู้จัดการรายวัน” สัมภาษณ์พิเศษ นายสมบุญ ประสิทธิ์จูตระกูล รองประธานอำนวยการบริหาร บริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด และในฐานะนายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย เป็นครั้งแรกหลังรับตำแหน่ง

- แนวทางบริหารสมาคมฯเป็นอย่างไร
วิชั่นของสมาคมฯคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่ผมจะลงในรายละเอียดมากขึ้น โดยเฉพาะการให้ความรู้ข้อมูลต่างๆกับสมาชิกมากกว่าเดิม เช่น การอบรม การป้อนข้อมูล การวิจัยให้กับสมาชิกมากขึ้น จะมีการนำข้อมูลมาแลกเปลี่ยนกันมากขึ้น เพื่อประโยชน์ในการทำงานร่วมกัน ยังไม่สรุปว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่เป็นแนวทางที่ต้องการทำ เพราะเรามีสมาชิกมากกว่า 1,000 รายแล้ว

- มองภาวะเศรษฐกิจโดยรวมเวลานี้เป็นอย่างไร
ตอนนี้ถือว่าอยู่ในภาวะของความลำบาก ทั้งปัจจัยต่างๆที่กระทบต่อต้นทุนและการดำเนินธุรกิจ ราคาน้ำมันก็ยังพุ่งขึ้นตลอดเวลา เรื่องของน้ำมันหนักที่สุด เราจะขับรถให้น้อยลง ระยะทางสั้นลงก็ไม่ได้ เพราะทุกอย่างมันต้องไป เราคงต้องหันมาจัดเส้นทางการขนส่งให้ดีมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ซับซ้อน แต่คิดว่าก็คงช่วยได้ไม่หมด หากน้ำมันยังไม่นิ่ง และการเมืองยังไม่ลงตัว ต้องหันกลับมาดูแนวทางการลดต้นทุนเพื่อลดค่าเสียหายบ้าง ต้องควบคุมตัวเองเช่น เรื่องของ การบริหารคลังสินค้า ลดต้นทุนได้อย่างไร การบริหารทีมขายให้มีประสิทธิภาพ เราจะกินแชร์คนอื่นได้อย่างไร จะจัดทีมงานการขายอย่างไร และที่สำคัญต้องบริหารจัดการให้หนี้เสียน้อยลงด้วย

- ในส่วนของดีทแฮล์มเป็นอย่างไร
ตอนนี้เราก็มีการหาสินค้าใหม่ ลูกค้าใหม่เข้ามาจัดจำหน่ายด้วย ก็ถือเป็นการลดต้นทุนได้ทางหนึ่ง เพราะจะทำให้เรามีสินค้ามากขึ้น โอกาสในการจำหน่ายก็มีมากขึ้น ในขณะที่ต้นทุนเท่าเดิม เพราะเราก็มีรถที่ต้องวิ่งไปส่งสินค้าอยู่แล้ว และมีร้านค้าที่เป็นช่องทางประจำของเราอยู่แล้ว

- แผนการลงทุนในขณะนี้มีหรือไม่
ถ้าพูดถึงการลงทุนโครงการใหม่เลยจริงๆคงจะยังไม่มีตอนนี้ ตอนนี้เราหยุดหรือชะลอการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ๆไว้ก่อน แต่การลงทุนที่ต่อเนื่องมาจากเดิมยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะในเรื่องของคลังสินค้าแห่งใหม่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนตุลาคมนี้ ที่เราลงทุนไปประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้เรามีศักยภาพในการบริหารจัดการได้มากขึ้นกว่าคลังสินค้าเดิม ที่ถนนบางนา-ตราด กิโลเมตรที่ 21 เพราะที่ใหม่นี้มีพื้นที่มากกว่า 50,000 ตารางเมตร ส่วนที่เดิมที่บางนานั้นพื้นที่เพียง 26,000 ตารางเมตรเท่านั้น คาดว่าอันเดิมคงจะปิดไป

ส่วนอีกแห่งหนึ่งที่ใช้อยู่ก็คือที่ บางปะอิน พื้นที่ประมาณ 32,000 ตารางเมตร นอกจากนั้นก็ยังมีคลังสินค้าย่อยๆที่เช่าคนอื่นอีกมากกว่า 10 แห่ง

- ทำไมถึงไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่ในปีนี้
เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ยังไม่เอื้อต่อการลงทุน เพราะว่า ทุกอย่างยังไม่มีความชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเลือกตั้ง การเมืองที่ยังไม่สรุปชัดเจน ค่าดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น

แต่ในส่วนของดีทแฮล์มทั่วโลกแล้วเราลงทุนไม่หยุด โดยในปีหน้า ทางบริษัทแม่ลงทุนทางด้านระบบซอฟท์แวร์ ในไทย หรือ SAP หรือ โปรแกรมบริหารจัดการด้านบัญชี โลจิสติกส์ ข้อมูลต่างๆ ซึ่งเป็นระบบซอฟท์แวร์ที่ทำกันเป็นอันเดียวของดีทแฮล์มทั่วโลก โดยมีศูนย์ใหญ่เป็นศูนย์ควบคุมกลางอยู่ที่มาเลเซีย ซึ่งในปีนี้เองดีทแฮล์มบางประเทศก็เริ่มปรับแล้วเช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม เป็นต้น ส่วนในไทยจะเริ่มจริงจังปีหน้า คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณต้นปี 2551

สาเหตุที่พัฒนาระบบนี้ เนื่องจากว่า ดีทแฮล์มเองมีลูกค้าอินเตอร์เนชั่นแนลอยู่ทั่วโลก และในหลายประเทศด้วย ดังนั้นการที่มีข้อมูลสามารถเชื่อมโยงถึงกันได้ จะทำให้เราสามารถรู้ข้อมูลทุกอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อการวางแผนงาน

อันนี้เป็นงบประมาณของทางภาคพื้นทั้งหมดเลย ไม่ใช่เราเป็นคนออก ซึ่งการลงทุนหลักอยู่ที่ประเทศมาเลเชีย เพราะที่นั่นจะเป็นศูนย์กลางในการควบคุมคอมพิวเตอร์ทั้งหมดทั่วโลก

- ตั้งเป้าผลประกอบการปีนี้ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้อย่างไร
ปีนี้เราคิดว่าคงจะมีอัตราการเติบโตด้านรายได้จากปีที่แล้วไม่มากนัก เนื่องด้วยสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ อีกอย่างหนึ่งหากโครงการเมกกะโปรเจ็คต์เกิดขึ้น ก็จะทำให้เราเติบโตมากขึ้นกว่านี้ โดยเฉพาะในกลุ่มของวิศวกรรม ที่จะมีสินค้าบริการพวก รถเครน รถแทรกเตอร์ รถก่อสร้างต่างๆ แต่เมกกะโปรเจ็คต์ก็ยังไม่เกิดขึ้น

โดยปีที่แล้วผลประกอบการของเราปิดที่ 68,000 ล้านบาท โดยมีกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคมีสัดส่วนรายได้สูงที่สุดมากกว่า 40% รองลงมาคือกลุ่มายา มีสัดส่วนรายได้เกือบ 40% นอกจากนั้นอีก 3 กลุ่มก็คละเคล้ากันไปคือ กลุ่มลีวายส์ กลุ่มวิศวกรรม และกลุ่มเคมีภัณฑ์พิเศษ
กำลังโหลดความคิดเห็น