ททท.เล่นทุกทางกระตุ้นคนไทยท่องเที่ยว ล่าสุดจับกลุ่มคนรักสุนัขจัดโครงการ “พาตูบเที่ยวไทย” นำร่อง ก่อนขยายผลไปยังสัตว์เลี้ยงอื่นๆ เผยกลุ่มคนรักสุนัข มีศักยภาพสูงด้านการจับจ่าย หลังพบตัวเลขมูลค่าตลาดสินค้าสำหรับสุนัขเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย 2-5% ทุกปี แม้สภาพเศรษฐกิจจะชะลอตัว
แหล่งข่าวจากวงการท่องเที่ยวเปิดเผยว่า เพื่อเป็นการขยายผลและเดินหน้าในนโยบายเจาะกลุ่มตลาดพิเศษ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในตลาดคนไทยเพิ่มมากขึ้น ล่าสุด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ร่วมกับนิตยสาร “ด็อกกาซีน”และกลุ่มพันธมิตรที่ลงโฆษณาในนิตยสารดังกล่าว ร่วมกันจัดโครงการ “พาตูบเที่ยวไทย” ซึ่งจะเริ่มเดินทางในวันที่ 22-23 กรกฎาคมศกนี้ ขณะนี้มีผู้ตอบรับเข้าร่วมเดินทางแล้วประมาณ 30 ราย
ในรายละเอียดของโครงการดังกล่าว ได้เปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมเดินทาง โดยแต่ละคนจะขับรถไปเที่ยวในเส้นทางที่เลือกไว้ โดยมีจุดหมายปลายทางเพื่อไปลงนามถวายพระพรร่วมกัน ส่วนเส้นทางที่คัดเลือกมาก็จะนำมาจาก 20 เส้นทางถวายพระพรด้วยเช่นกัน และในอนาคตได้วางแผนว่า ในงานคอนซูเมอร์แฟร์ ด้านการท่องเที่ยว ,งานเพ็ทโชว์ หรือด็อกโชว์ต่างๆ ก็จะมีการแบ่งพื้นที่ให้แก่ผู้ประกอบการในกลุ่มโรงแรมที่มีที่พักสำหรับสุนัขให้มาร่วมออกงานด้วย ซึ่งที่ผ่านมาโรงแรมเหล่านี้อาจเคยเข้ามาร่วมงานแฟร์ ที่ททท. หรือภาคเอกชนจัดมาบ้างแล้ว แต่ไม่ได้จัดพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน
“ครั้งนี้ถือเป็นโครงการนำร่อง ซึ่งหากมีผลตอบรับที่ดี ก็จะมีโครงการอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการพาสัตว์เลี้ยงออกไปเที่ยวยังที่ต่างๆได้อีก เช่น อาจมีโครงการ “พาน้องเหมียวเที่ยวทั่วไทย”ก็อาจเป็นไปได้ ซึ่งโครงการที่จัดขึ้นนี้ ททท.ไม่ได้หวังในเรื่องของจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ แต่ต้องการสร้างกระแสการเดินทางท่องเที่ยวใเกิดขึ้นในทุกกลุ่มคน แล้วหากประสบความสำเร็จ ก็สามารถทำแนวคิดไปขยายผลต่อได้อีก”
ปัจจุบันในประเทศไทย มีโรงแรม ที่จัดที่พักไว้ให้สุนัขมีจำนวนประมาณ 100 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งก็ยังมีห้องพักไม่มากนัก แต่แนวโน้มของผู้มาใช้บริการมีเพิ่มขึ้น และครั้งนี้ ททท.ถือเป็นเจ้าภาพของการนำร่องจัดโครงการเพื่อให้เกิดกลุ่มลูกค้าทางการท่องเที่ยวขึ้นมาอีกกลุ่มหนึ่ง จากปกติ กลุ่มคนรักสุนัขก็จะมีการรวมตัวกันอยู่แล้ว แต่เป็นการรวมกลุ่มกันขนาดเล็กๆเท่านั้น ซึ่งหากเป็นไปได้ อาจมีการออกเป็นบัตรสมาชิก สำหรับนักท่องเที่ยวที่เป็นกลุ่มรักสัตว์ และสามารถนำไปใช้เป็นส่วนลดโรงแรม ร้านค้าและร้านอาหารได้เหมือนบัตรสมาชิกตัวอื่นๆที่ ททท.ได้เคยทำไปแล้ว
ทั้งนี้จากการสำรวจของผู้ที่อยู่ในธุรกิจอาหารและอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง พบว่าจาก 17 ล้านครัวเรือนในประเทศไทยมีครัวเรือที่เลี้ยวสุนัขอยู่ถึง 5 ล้านครัวเรือน และครัวเรือนกลุ่มนี้มีการใช้จ่ายเงินที่สูงกับการเลี้ยงสุนัข เพราะด้วยความรักและความผูกพันทำให้บางคนหรือบางครัวเรือนรักและเลี้ยงสุนัขเหมือนลูก ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนก็ต้องการที่จะนำสุนัขติดไปด้วย และจะยินดีมากหากสถานที่ใดเปิดให้นำสุนัขเข้าไปได้ โดยยอมที่จะเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อหาข้าวของเครื่องใช้และบริการให้แก่สุนัขของตัวเอง
โดยตัวเลขจากผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยง และอุปกรณ์อื่นๆ ระบุว่า แม้เศรษฐกิจจะชลอตัว แต่มูลค่ารวมของค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับสุนัข อาทิ ค่าอาหาร สปา และเครื่องแต่งกาย เป็นต้น นอกจากจะไปปรับลดแล้ว ยังมีตัวเลขที่เติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 2-5%
อย่างไรก็ตาม การที่ ททท. ร่วมกับภาคเอกชน จัดทำโครงการต่างๆ ขึ้นมา จุดประสงค์หลัก คือต้องการสร้างกระแสเดินทางท่องเที่ยวในตลาดคนไทยให้มีมากขึ้น แม้ภาวะเศรษฐกิจจะชลอตัว อีกทั้งยังมองว่าทุกกิจกรรมจะมีส่วนช่วยผลักดันให้ ททท.บรรลุถึงเป้าหมายตัวเลขนักท่องเที่ยวคนไทยในสิ้นปีนี้ที่ตั้งเป้าไว้ที่ 79 ล้านคนครั้ง มีรายได้หมุนเวียนในประเทศมากกว่า 3.8 แสนล้านบาท แม้ว่าผลการประเมินสถานการณ์เพื่อการจัดทำแผนตลาดในปี 2550 จะระบุว่า ในปีนี้ตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศจะไม่ถึงเป้าหมายแต่จะได้เพียง 77.5 ล้านคนครั้งก็ตาม
แหล่งข่าวจากวงการท่องเที่ยวเปิดเผยว่า เพื่อเป็นการขยายผลและเดินหน้าในนโยบายเจาะกลุ่มตลาดพิเศษ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในตลาดคนไทยเพิ่มมากขึ้น ล่าสุด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ร่วมกับนิตยสาร “ด็อกกาซีน”และกลุ่มพันธมิตรที่ลงโฆษณาในนิตยสารดังกล่าว ร่วมกันจัดโครงการ “พาตูบเที่ยวไทย” ซึ่งจะเริ่มเดินทางในวันที่ 22-23 กรกฎาคมศกนี้ ขณะนี้มีผู้ตอบรับเข้าร่วมเดินทางแล้วประมาณ 30 ราย
ในรายละเอียดของโครงการดังกล่าว ได้เปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมเดินทาง โดยแต่ละคนจะขับรถไปเที่ยวในเส้นทางที่เลือกไว้ โดยมีจุดหมายปลายทางเพื่อไปลงนามถวายพระพรร่วมกัน ส่วนเส้นทางที่คัดเลือกมาก็จะนำมาจาก 20 เส้นทางถวายพระพรด้วยเช่นกัน และในอนาคตได้วางแผนว่า ในงานคอนซูเมอร์แฟร์ ด้านการท่องเที่ยว ,งานเพ็ทโชว์ หรือด็อกโชว์ต่างๆ ก็จะมีการแบ่งพื้นที่ให้แก่ผู้ประกอบการในกลุ่มโรงแรมที่มีที่พักสำหรับสุนัขให้มาร่วมออกงานด้วย ซึ่งที่ผ่านมาโรงแรมเหล่านี้อาจเคยเข้ามาร่วมงานแฟร์ ที่ททท. หรือภาคเอกชนจัดมาบ้างแล้ว แต่ไม่ได้จัดพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน
“ครั้งนี้ถือเป็นโครงการนำร่อง ซึ่งหากมีผลตอบรับที่ดี ก็จะมีโครงการอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการพาสัตว์เลี้ยงออกไปเที่ยวยังที่ต่างๆได้อีก เช่น อาจมีโครงการ “พาน้องเหมียวเที่ยวทั่วไทย”ก็อาจเป็นไปได้ ซึ่งโครงการที่จัดขึ้นนี้ ททท.ไม่ได้หวังในเรื่องของจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ แต่ต้องการสร้างกระแสการเดินทางท่องเที่ยวใเกิดขึ้นในทุกกลุ่มคน แล้วหากประสบความสำเร็จ ก็สามารถทำแนวคิดไปขยายผลต่อได้อีก”
ปัจจุบันในประเทศไทย มีโรงแรม ที่จัดที่พักไว้ให้สุนัขมีจำนวนประมาณ 100 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งก็ยังมีห้องพักไม่มากนัก แต่แนวโน้มของผู้มาใช้บริการมีเพิ่มขึ้น และครั้งนี้ ททท.ถือเป็นเจ้าภาพของการนำร่องจัดโครงการเพื่อให้เกิดกลุ่มลูกค้าทางการท่องเที่ยวขึ้นมาอีกกลุ่มหนึ่ง จากปกติ กลุ่มคนรักสุนัขก็จะมีการรวมตัวกันอยู่แล้ว แต่เป็นการรวมกลุ่มกันขนาดเล็กๆเท่านั้น ซึ่งหากเป็นไปได้ อาจมีการออกเป็นบัตรสมาชิก สำหรับนักท่องเที่ยวที่เป็นกลุ่มรักสัตว์ และสามารถนำไปใช้เป็นส่วนลดโรงแรม ร้านค้าและร้านอาหารได้เหมือนบัตรสมาชิกตัวอื่นๆที่ ททท.ได้เคยทำไปแล้ว
ทั้งนี้จากการสำรวจของผู้ที่อยู่ในธุรกิจอาหารและอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง พบว่าจาก 17 ล้านครัวเรือนในประเทศไทยมีครัวเรือที่เลี้ยวสุนัขอยู่ถึง 5 ล้านครัวเรือน และครัวเรือนกลุ่มนี้มีการใช้จ่ายเงินที่สูงกับการเลี้ยงสุนัข เพราะด้วยความรักและความผูกพันทำให้บางคนหรือบางครัวเรือนรักและเลี้ยงสุนัขเหมือนลูก ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนก็ต้องการที่จะนำสุนัขติดไปด้วย และจะยินดีมากหากสถานที่ใดเปิดให้นำสุนัขเข้าไปได้ โดยยอมที่จะเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อหาข้าวของเครื่องใช้และบริการให้แก่สุนัขของตัวเอง
โดยตัวเลขจากผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยง และอุปกรณ์อื่นๆ ระบุว่า แม้เศรษฐกิจจะชลอตัว แต่มูลค่ารวมของค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับสุนัข อาทิ ค่าอาหาร สปา และเครื่องแต่งกาย เป็นต้น นอกจากจะไปปรับลดแล้ว ยังมีตัวเลขที่เติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 2-5%
อย่างไรก็ตาม การที่ ททท. ร่วมกับภาคเอกชน จัดทำโครงการต่างๆ ขึ้นมา จุดประสงค์หลัก คือต้องการสร้างกระแสเดินทางท่องเที่ยวในตลาดคนไทยให้มีมากขึ้น แม้ภาวะเศรษฐกิจจะชลอตัว อีกทั้งยังมองว่าทุกกิจกรรมจะมีส่วนช่วยผลักดันให้ ททท.บรรลุถึงเป้าหมายตัวเลขนักท่องเที่ยวคนไทยในสิ้นปีนี้ที่ตั้งเป้าไว้ที่ 79 ล้านคนครั้ง มีรายได้หมุนเวียนในประเทศมากกว่า 3.8 แสนล้านบาท แม้ว่าผลการประเมินสถานการณ์เพื่อการจัดทำแผนตลาดในปี 2550 จะระบุว่า ในปีนี้ตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศจะไม่ถึงเป้าหมายแต่จะได้เพียง 77.5 ล้านคนครั้งก็ตาม