เอส. ซี. เสรีชัยบิวตี้รุกตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผมเต็มสูบทั้งในประเทศและต่างประเทศในรอบ 19 ปี ภายใต้แบรนด์ “โลแลน" ชูสินค้าครีมหมักผมเป็นหัวหอกทำตลาด พร้อมขยายฐานลูกค้าสู่คนรุ่นใหม่และนักศึกษา ครึ่งปีหลังนี้เล็งเปิดสินค้าใหม่กว่า 50 เอสเคยู ตั้งเป้ายอดขายสิ้นปีพุ่ง 770 ล้านบาท ปีหน้าเล็งปรับภาพลักษณ์สินค้าอื่นอีก 10 แบรนด์ หวังดันยอดขายเพิ่ม 40%
นายเสรี สมบูรณ์ศักดิกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอส.ซี.เสรีชัยบิวตี้ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผม ภายใต้แบรนด์ "โลแลน" เปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมรุกทำตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผมโลแลนอย่างจริงจังเป็นครั้งแรกในรอบ 19 ปี โดยจะชูผลิตภัณฑ์ครีมหมักผมโลแลนเป็นหัวหอกในการบุกตลาด หลังจากทำการวิจัยพบว่าผลิตภัณฑ์ครีมหมักผมโลแลนเป็นผลิตภัณฑ์อันดับ 1 ที่อยู่ในใจผู้บริโภคคนไทย ในแง่คุณภาพและราคาสินค้ามีความเหมาะสม
พร้อมกันนี้บริษัทฯเล็งขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ที่เป็นนักศึกษา จากเดิมกลุ่มลูกค้าหลักจะมีอายุ 35 ปีขึ้นไป นอกจากนี้ในปีหน้าบริษัทฯเตรียมปรับภาพลักษณ์สินค้าแบรนด์อื่นๆที่มีอยู่กว่า 10 ยี่ห้อให้ดูทันสมัยมากขึ้น ทั้งนี้บริษัทฯคาดว่าหลังจากการรีแบรนด์ดิ้งสินค้าแล้วจะทำให้บริษัทฯมียอดขายสินค้าเพิ่มอีก 30-40%
นายวิบูลย์ สมบูรณ์ศักดิกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เปิดเผยว่า แผนการตลาดในครึ่งปีหลังนี้บริษัทฯเตรียมทำตลาดมากขึ้น ด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม กลุ่มจัดทรงผม และกลุ่มเปลี่ยนโครงสร้างผมมากกว่า 50 เอสเคยู จากปัจจุบันโลแลนมีสินค้ากว่า 25 ชนิด รวม 300 เอสเคยู แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ 1. ผลิตภัณฑ์สำหรับบำรุงและดูแลสุขภาพผม (Hair Clean & Care) อาทิ แชมพู, ครีมหมักผม, เซรั่ม 2. กลุ่มผลิตภัณฑ์เปลี่ยนโครงสร้างผม (Hair Transformer) อาทิ ครีมเปลี่ยนสีผม, ครีมยืดผม, น้ำยาดัดผม และกลุ่มสุดท้ายกลุ่มผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม (Styling) อาทิ เจล สเปรย์ และ แฮร์สเปรย์ เป็นต้น
สำหรับงบการตลาดในครึ่งปีหลังนี้บริษัทฯเตรียมใช้ประมาณ 40 ล้านบาท แบ่งเป็นงบโฆษณาประชาสัมพันธ์ 30 ล้านบาท และที่เหลือจะเป็นงบกิจกรรมอีก 10 ล้านบาท ล่าสุดบริษัทฯได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาโลแลนชุดใหม่ 2 ชุด ได้แก่ “หมักเร็ว” และ”วัยรุ่น” เพื่อต้องการสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงต้องการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เคยใช้ครีมนวดผมให้หันมาใช้ครีมหมักผมแทน
ส่วนช่องทางการจำหน่ายสินค้าในปัจจุบันมีขายผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ ร้านค้าทั่วไป และห้างค้าปลีก เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าง่าย จากเดิมที่ขายผ่านร้านเสริมสวยเป็นหลัก ทั้งนี้ปัจจุบันผลิตภัณฑ์กลุ่มบำรุงผมโลแลนวางขายในเทรดดิชั่นแนล คิดเป็นสัดส่วน 30% และโมเดิร์นเทรด 70% ส่วนกลุ่มเปลี่ยนโครงสร้างผม ขายในเทรดดิชั่นแนล 80% และโมเดิร์นเทรด 20% และกลุ่มจัดแต่งทรงผมวางขายในเทรดดิชั่นแนล 60% และโมเดิร์นเทรด 40%
ด้านตลาดต่างประเทศขณะนี้บริษัทฯมีส่งสินค้าไปจำหน่ายกว่า 25-30 ประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และตลาดในอินโดจีน เป็นต้น โดยบริษัทฯตั้งเป้าหมายยอดรายได้กลุ่มส่งออกภายในสิ้นปีนี้จะเติบโตขึ้น 30%
สำหรับยอดรายได้ปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ายอด 770 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นจากปี 2548 ที่ปิดยอดขายกว่า 518 ล้านบาท โดยปีนี้บริษัทฯหวังครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 6 %จากตลาดรวมผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผม ซึ่งมีมูลค่ากว่า 13,000 ล้านบาท โดยตลาดแบ่งเป็นกลุ่มแชมพู 7,400 ล้านบาท และครีมบำรุงผม 2,400 ล้านบาท 'โดยในส่วนตลาดทรีตเมนต์และครีมหมักผมมีมูลค่า 216 ล้านบาท โลแลนมีส่วนแบ่งตลาดกลุ่มนี้อยู่ถึง 55 % ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 119 ล้านบาท และในปี 2549 บริษัทตั้งเป้าสำหรับการเติบโตในตลาดนี้เพิ่มขึ้นอีก 40 % คิดเป็นมูลค่า 168 ล้านบาท