xs
xsm
sm
md
lg

คาร์ฟูร์รื้อแผนรุกเฮาส์แบรนด์ หลังพบยอดขายพลาดเป้า11%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คาร์ฟูร์ เร่งเครื่องจัดทัพเฮาส์แบรนด์ใหม่ คาดปลายปีผงาดแน่ หลังรายได้การเติบโตไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ จาก 19% โตเพียง 8% เท่านั้น เชื่อต้องใช้เวลาเป็น 10 ปีสร้างการยอมรับ เผยเตรียมผุดเพิ่มอีก 1 สาขาที่ภูเก็ต เหตุกำลังซื้อครึ่งปีหลังยังดีอยู่ มั่นใจสิ้นปีโกยรายได้เป็นไปตามเป้า

นายโจแอล โค๊ต
ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าบริโภค บริษัท เซ็นคาร์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกภายใต้แบรนด์ คาร์ฟูร์ เปิดเผยว่า สินค้าเฮาส์แบรนด์ที่มีวางจำหน่ายในคาร์ฟูร์มานานกว่า 5-6 ปีนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเท่าที่ควร จากการที่บริษัทฯตั้งเป้าการเติบโตรายได้จากสินค้าเฮาส์แบรนด์ ภายใต้แบรนด์ที่มีอยู่ 2 แบรนด์ คือ คาร์ฟูร์แบรนด์ และนัมเบอร์วัน ไว้กว่า 19% ในแต่ละปีนั้น ขณะนี้สามารถทำได้เพียง 8% เท่านั้นซึ่งยังต่ำกว่าเป้าหมายประมาณ 11%

ทำให้บริษัทฯมีแผนที่จะหันมารุกสินค้าเฮาส์แบรนด์มากขึ้นในปีนี้ โดยจะมีการปรับปรุงคุณภาพ และราคา รวมไปถึงแผนโปรโมชั่นส่งเสริมการขายใหม่ เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดการรับรู้ โดยคาดว่าจะสามารถสรุปแผนดังกล่าวและเห็นได้ไม่เกินช่วงปลายปีนี้ ในขณะที่สินค้าเฮาส์แบรนด์บางรายการที่ไม่ได้รับการตอบรับนั้น จะถูกเก็บคืนและจะส่งสินค้าตัวอื่นมาแทน ซึ่งคาดว่าสินค้าลักษณะดังกล่าวจะมีจำนวนไม่มากนัก

โดยสินค้าเฮาส์แบรนด์ในขณะนี้ยังจะต้องใช้กลยุทธ์ทางด้านราคาเป็นหลักเพื่อให้สามารถจำหน่ายสินค้าได้ เนื่องจากผู้บริโภคทั้งในประเทศไทยและในภูมิภาคนี้ยังคงยึดติดอยู่กับแบรนด์เป็นหลัก ดังนั้นการสร้างแบรนด์ดิ้งให้สินค้านั้น ต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนานประมาณ 10 ปีขึ้นไป ในขณะที่เมื่อเทียบกับทางยุโรป ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่ยึดติดกับแบรนด์ ยังต้องใช้เวลาในการสร้างแบรนด์ดิ้งกว่า 10 ปี

ปัจจุบันแบรนด์ คาร์ฟูร์แบรนด์ เมื่อเทียบกับสินค้าแบรนด์พรีเมี่ยมอื่นๆจะมีราคาที่ถูกว่าประมาณ 5-10% ส่วนแบรนด์ นัมเบอร์ วัน นั้น จะเป็นแบรนด์ที่มีราคาถูกมากเมื่อเทียบกับสินค้าประเภทเดียวกัน ในขณะที่คาร์ฟูร์มีสินค้าที่วางจำหน่ายอยู่ทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 11,000 รายการ และเป็นสินค้าเฮาส์แบรนด์ในกลุ่มอาหารประมาณ 1,000 รายการ

นอกจากนี้บริษัทฯยังมีแผนรีโนเวทห้างใหม่ทั้งหมดอีก 3 สาขาในปีนี้ ได้แก่ คาร์ฟูร์ พระราม4, คาร์ฟูร์รังสิต และคาร์ฟูร์รัชดาภิเษก รวมไปถึงแผนที่จะเปิดเพิ่มอีก 1 สาขาในจังหวัดภูเก็ต คาดว่าภายในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้จะสามารถเปิดให้บริการได้

ในส่วนของรายได้ช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทฯยังมั่นใจว่าจะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ จากการที่บริษัทฯจะยังคงตรึงราคาสินค้าไว้ให้นานที่สุด บวกกับการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย กระตุ้นให้เกิดการซื้อ เนื่องจากเชื่อว่าผู้บริโภคจะนึกถึงความคุ้มค่าและคุ้มราคาในการซื้อสินค้าแต่ละครั้งมากขึ้น เห็นได้จากยอดขายในช่วงเวิลด์ คัพ ที่ผ่านมา ที่มียอดขายสูงเกินเป้าที่วางจาก 25% มาเป็น 35% โดยกลุ่มสินค้าที่มียอดขายสูงที่สุด ได้แก่ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภท แฟลตทีวี หรือ พลาสม่าทีวี เนื่องจากเป็นสินค้าที่เป็นที่ต้องการ บวกกับทางบริษัทฯได้จัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายร่วมด้วย จึงทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้น

ขณะที่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา อาจจะได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองหรือเศรษฐกิจบ้างเล็กน้อย ส่งผลให้ยอดขายในเดือนมีนาคมน้อยกว่าเป้าที่ตั้งไว้ แต่ก็สามารถสร้างรายได้เป็นไปตามที่วางไว้กลับคืนได้ทันในช่วง 3 เดือนหลังได้ทัน ดังนั้นครึ่งปีแรกที่ผ่านมาจึงยังคงรักษายอดขายเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ และเชื่อว่าทั้งปีจะยังคงมีรายได้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้อย่างแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น