เครื่องสำอางอาร์เอ็มเคเผยภาวะเศรษฐกิจชะลอกระทบต่อทุกแบรนด์ แก้เกมจัดโปรโมชั่นกระตุ้นกำลังซื้อคืนอย่างต่อเนื่อง ในส่วนอาร์เอ็มเคครึ่งปีแรกทรงตัว จากการมีฐานลูกค้าเหนียวแน่นกว่า 3 พันราย คาดสิ้นปีสมาชิกเพิ่มกว่า 7 พันราย เล็งขยายเคาน์เตอร์เพิ่ม 1 แห่งที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว เผยเครื่องสำอางเกาหลีบูมไม่กระทบแบรนด์อาร์เอ็มเคที่มีจุดเด่นใช้งานง่ายและอินเทรนด์
นางสาวพนิดา ไพโรจน์กิจจา ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์อาร์เอ็มเค (RMK) เครื่องสำอางนำเข้าจากญี่ปุ่น บริษัท คาเนโบ คอสเมติกส์ ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและน้ำมันปรับขึ้นราคาส่งผลกระทบต่อเครื่องสำอางอาร์เอ็มเคบ้างแต่ไม่มาก ซึ่งตรงนี้ก็กระทบต่อยอดขายทุกแบรนด์ รวมถึงทางห้างสรรพสินค้าเองก็พบว่ายอดขายลดลง เนื่องจากคนจะหันมาประหยัดเงินมากขึ้น ดังนั้นทางห้างฯจึงต้องมีการจัดโปรโมชั่นและกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นยอดขายและดึงกำลังซื้อของผู้บริโภคกลับมา
"ภาวะน้ำมันแพงทำให้คนไทยช็อคจึงหยุดการใช้จ่ายลง แต่อีกสักพักก็จะกลับมาใช้เงินตามเดิม โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มเครื่องสำอางถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้หญิงต้องใช้อยู่ตลอดเวลา"
ในส่วนของภาพรวมอาร์เอ็มเคในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาพบว่าทรงๆตัวและยอดรายได้ตกลงไม่มาก เนื่องจากมีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นและมีรอยัลตี้ต่อแบรนด์สูง โดยปัจจุบันฐานสมาชิกมีประมาณ 3,000 ราย ทั้งนี้คาดการณ์ว่าภายในปีนี้จะมีสมาชิกเพิ่มเป็น 7,000 ราย
ทั้งนี้อาร์เอ็มเคเริ่มเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเมื่อ 1 ปีที่แล้ว พบว่าได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคคนไทยเป็นอย่างดี โดยกลุ่มเป้าหมายหลักของอาร์เอ็มเคจะเน้นคนอายุ 20-35 ปีหรือคนในระดับบีขึ้นไป ส่วนสินค้าที่เป็นจุดขายเด่น อาทิ กลุ่มเบจเมคอัพ(กลุ่มรองพื้น) ฯลฯ
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์อาร์เอ็มเค แบ่งออกเป็น 3 ไลน์ ได้แก่ สกินแคร์(ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว) , เบจ เมคอัพ (กลุ่มรองพื้น) และพอยส์ เมคอัพ (เครื่องสำอางสีสัน) รวมกว่า 100 เอสเคยู ซึ่งในแต่ละปีบริษัทฯจะเปิดตัวสินค้าใหม่ 2 ช่วง ได้แก่ สปริง คอลเลคชั่นและคอลเลคชั่นประจำฤดูหนาว ปีนี้มีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ 5 รายการ อาทิ อายเชโดว์,ลิปกลอส เป็นต้นในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้
ในส่วนของช่องทางการขายอาร์เอ็มเคปัจจุบันมีทั้งหมด 4 เคาน์เตอร์ ได้แก่ ที่เซ็นทรัล ชิดลม, ดิ เอ็มโพเรียม , สยาม พารากอน และอิเซตัน เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่าน และล่าสุดเตรียมเปิดสาขาใหม่ที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว คาดว่าจะได้เห็นในช่วงปลายเดือนสิงหาคมหรือประมาณถึงต้นเดือนกันยายน 2549 นี้ ซึ่งงบลงทุนแต่ละเคาน์เตอร์คาดว่าจะใช้ไม่ต่ำกว่า 4 ล้านบาท บนพื้นที่ขนาด 25 ตารางเมตร
"การที่เครื่องสำอางเกาหลีเข้ามาในตลาดไทยมาก ไม่ส่งผลกระทบต่ออาร์เอ็มเค ซึ่งเป็นแบรนด์จากญี่ปุ่น เพราะผลิตภัณฑ์เมคอัพสีสันของเราเทียบชั้นอินเตอร์ ขณะที่โพชิชั่นนิ่งของแบรนด์เราหากเทียบกับแบรนด์จากญี่ปุ่นด้วยกันจะเป็นแบรนด์ชู อูเอมูระ"
นางสาวพนิดา กล่าวถึงภาพรวมตลาดเครื่องสำอางว่า แต่ละแบรนด์มีการแข่งขันกันสูง รวมถึงการที่มีแบรนด์เข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีบางแบรนด์ที่ไม่ประสบความสำเร็จและมีการลดจำนวนเคาน์เตอร์ลง ในส่วนอาร์เอ็มเคเข้ามาเปิดตลาดในช่วงเวลาที่ภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี แต่จากการที่บริษัทฯมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องและตัวแบรนด์มีความเป็นโปรเฟสชั่นแนลและใช้งานง่าย จึงเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ลูกค้ามั่นใจในตัวแบรนด์
นางสาวพนิดา ไพโรจน์กิจจา ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์อาร์เอ็มเค (RMK) เครื่องสำอางนำเข้าจากญี่ปุ่น บริษัท คาเนโบ คอสเมติกส์ ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและน้ำมันปรับขึ้นราคาส่งผลกระทบต่อเครื่องสำอางอาร์เอ็มเคบ้างแต่ไม่มาก ซึ่งตรงนี้ก็กระทบต่อยอดขายทุกแบรนด์ รวมถึงทางห้างสรรพสินค้าเองก็พบว่ายอดขายลดลง เนื่องจากคนจะหันมาประหยัดเงินมากขึ้น ดังนั้นทางห้างฯจึงต้องมีการจัดโปรโมชั่นและกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นยอดขายและดึงกำลังซื้อของผู้บริโภคกลับมา
"ภาวะน้ำมันแพงทำให้คนไทยช็อคจึงหยุดการใช้จ่ายลง แต่อีกสักพักก็จะกลับมาใช้เงินตามเดิม โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มเครื่องสำอางถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้หญิงต้องใช้อยู่ตลอดเวลา"
ในส่วนของภาพรวมอาร์เอ็มเคในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาพบว่าทรงๆตัวและยอดรายได้ตกลงไม่มาก เนื่องจากมีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นและมีรอยัลตี้ต่อแบรนด์สูง โดยปัจจุบันฐานสมาชิกมีประมาณ 3,000 ราย ทั้งนี้คาดการณ์ว่าภายในปีนี้จะมีสมาชิกเพิ่มเป็น 7,000 ราย
ทั้งนี้อาร์เอ็มเคเริ่มเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเมื่อ 1 ปีที่แล้ว พบว่าได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคคนไทยเป็นอย่างดี โดยกลุ่มเป้าหมายหลักของอาร์เอ็มเคจะเน้นคนอายุ 20-35 ปีหรือคนในระดับบีขึ้นไป ส่วนสินค้าที่เป็นจุดขายเด่น อาทิ กลุ่มเบจเมคอัพ(กลุ่มรองพื้น) ฯลฯ
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์อาร์เอ็มเค แบ่งออกเป็น 3 ไลน์ ได้แก่ สกินแคร์(ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว) , เบจ เมคอัพ (กลุ่มรองพื้น) และพอยส์ เมคอัพ (เครื่องสำอางสีสัน) รวมกว่า 100 เอสเคยู ซึ่งในแต่ละปีบริษัทฯจะเปิดตัวสินค้าใหม่ 2 ช่วง ได้แก่ สปริง คอลเลคชั่นและคอลเลคชั่นประจำฤดูหนาว ปีนี้มีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ 5 รายการ อาทิ อายเชโดว์,ลิปกลอส เป็นต้นในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้
ในส่วนของช่องทางการขายอาร์เอ็มเคปัจจุบันมีทั้งหมด 4 เคาน์เตอร์ ได้แก่ ที่เซ็นทรัล ชิดลม, ดิ เอ็มโพเรียม , สยาม พารากอน และอิเซตัน เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่าน และล่าสุดเตรียมเปิดสาขาใหม่ที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว คาดว่าจะได้เห็นในช่วงปลายเดือนสิงหาคมหรือประมาณถึงต้นเดือนกันยายน 2549 นี้ ซึ่งงบลงทุนแต่ละเคาน์เตอร์คาดว่าจะใช้ไม่ต่ำกว่า 4 ล้านบาท บนพื้นที่ขนาด 25 ตารางเมตร
"การที่เครื่องสำอางเกาหลีเข้ามาในตลาดไทยมาก ไม่ส่งผลกระทบต่ออาร์เอ็มเค ซึ่งเป็นแบรนด์จากญี่ปุ่น เพราะผลิตภัณฑ์เมคอัพสีสันของเราเทียบชั้นอินเตอร์ ขณะที่โพชิชั่นนิ่งของแบรนด์เราหากเทียบกับแบรนด์จากญี่ปุ่นด้วยกันจะเป็นแบรนด์ชู อูเอมูระ"
นางสาวพนิดา กล่าวถึงภาพรวมตลาดเครื่องสำอางว่า แต่ละแบรนด์มีการแข่งขันกันสูง รวมถึงการที่มีแบรนด์เข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีบางแบรนด์ที่ไม่ประสบความสำเร็จและมีการลดจำนวนเคาน์เตอร์ลง ในส่วนอาร์เอ็มเคเข้ามาเปิดตลาดในช่วงเวลาที่ภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี แต่จากการที่บริษัทฯมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องและตัวแบรนด์มีความเป็นโปรเฟสชั่นแนลและใช้งานง่าย จึงเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ลูกค้ามั่นใจในตัวแบรนด์