นายกสมาคมกุ้งเผยสถานการณ์กุ้งจีนอืมครึม เหตุน้ำท่วมบ่อกุ้ง และมีพายุฝนกระหน่ำจนออกเรือไม่ได้ ชี้ราคากุ้งขาวไทยถูกกว่าทำให้ศักยภาพการแข่งขันของไทยเพิ่มขึ้น ขณะที่ผลพวงจากราคาน้ำมันแพงยังไม่จบ ทำยอกจับกุ้งทะเลปีนี้ลดฮวบกว่าร้อยละ50
นายสมศักดิ์ ปณีตัธยาศัย นายกสมาคมกุ้งไทย เผยว่าขณะนี้สถานการณ์การผลิตกุ้งของจีน ประเทศผู้ผลิตกุ้งที่สำคัญของโลก หลังจากมีทีมงานเดินทางไปเยือนจีนเมื่อเร็วๆ นี้ว่า การผลิตกุ้งของจีนมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่ปรวนแปร พายุไต้ฝุ่นกระหน่ำ ฝนตก และเกิดภาวะน้ำท่วมรุนแรง สร้างความเสียหายในหลายพื้นที่ อาทิ เหนือเขตฟู่เจิ้นขึ้นไป ทางใต้จ้านเจียง มณฑลกวางตุ้ง กวางโจว ไห่หนาน ฯลฯ ขณะเดียวกันหลายพื้นที่ก็เกิดภาวะแห้งแล้ง มีอุณหภูมิสูง ภัยพิบัติร้ายแรงที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตกุ้งของจีนด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คาดปีนี้การผลิตกุ้งของจีนลดลงประมาณร้อยละ 10-20 ที่สำคัญส่งผลให้ราคากุ้งสูงมาก ปัจจุบันกุ้งขาวของจีนขนาด 60 ตัว/กก. ราคา 160 บาท/กก. ขณะที่กุ้งขนาดดังกล่าวของไทยปัจจุบันอยู่ที่ 115 บาท/กก. เท่านั้น (ทั้งที่ปกติ เดือนมิถุนายนของปีที่แล้ว ราคากุ้งของจีนที่ขนาดดังกล่าว อยู่ที่ประมาณ 100 บาท/กก. )
“ตอนแรกได้ประเมินไว้ว่า การผลิตกุ้งปีนี้ของจีนมีโอกาสเพิ่มขึ้น แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน สภาพอากาศไม่เป็นใจ เกิดไต้ฝุ่น พายุฝน ฝนตกหนัก น้ำท่วมรุนแรง ทำให้บ่อเลี้ยงกุ้งเสียหายไปไม่น้อย อาจจะเป็นเพราะได้รับอิทธิพลจากลานินญานะครับ นอกจากนี้ข้อมูลกรมอุตุนิยมวิทยาของจีนบอกว่าปริมาณน้ำฝนที่ตกในประเทศเขานั้น หนักมากที่สุดในรอบ 200 ปี เลยทีเดียว ที่สำคัญในประเทศจีนเอง มีความต้องการบริโภคกุ้งเพิ่มขึ้น ขณะที่ผลผลิตลด ตอนนี้เลยกลายเป็นว่า ราคากุ้งในประเทศจีนสูงเป็นประวัติการณ์ 60 ตัว/กก. ราคา 160 บาท/กก. ทั้งที่ปกติเดือนหก ราคากุ้งของจีนควรจะลงแล้ว … เชื่อว่าภาวการณ์เช่นนี้จะทำให้ศักยภาพหรือโอกาสการส่งออกกุ้งของจีนลดลง ซึ่งจะทำให้ความสามารถในการแข่งขันในสินค้ากุ้งของจีนในตลาดกุ้งโลกน้อยลงไปด้วย” นายกสมาคมกุ้งไทย กล่าว
ราคากุ้งขาวแวนนาไม ตลาดกุ้งทะเลไทย มหาชัย วันที่ 28 มิถุนายน 2549 กุ้งขนาด(ตัว/กก.)/ราคา (บาท/กก.) ตามลำดับ ดังนี้ 40/190, 50/135, 60/115, 70/105, 80/100, 90/95 และ 100/90
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ผลผลิตกุ้งไทยเพื่อการส่งออกในปีนี้อาจไม่เป็นไปตามคาด เนื่องจากภาวะวิกฤติน้ำมันแพง ชาวประมงงดออกทะเล ทำให้ปริมาณกุ้งทะเลที่ใช้บริโภคในประเทศจะจับได้ลดลงกว่าร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ประกอบกับกุ้งก้ามกรามมีผลผลิตน้อยลง เพราะไม่สามารถแก้ปัญหาโรคไวรัสระบาดได้ จึงจำเป็นต้องดึงกุ้งขาวมาบริโภคทดแทน ทำให้ผลผลิตกุ้งขาวเพื่อการส่งออกจะน้อยลงไปอีก จากการเลี้ยงที่น้อยอยู่แล้วในปีนี้ โดยเฉพาะในไตรมาส 2
“เรื่องวิกฤติราคาน้ำมันแพงครั้งนี้ นายภูเบศ จันทนิมิ นายกสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ได้ระบุว่าส่งผลกระทบต่อชาวประมงมาก เพราะต้องงดออกเรือจับสัตว์น้ำและจะส่งผลต่อเนื่องถึงปริมาณผลผลิตกุ้งของไทย การบริโภคในประเทศและการส่งออก ซึ่งปี 2548 กุ้งที่จับจากทะเล ประมาณการว่าได้ปริมาณ 74,860 ตัน แต่ปีนี้คาดว่าจะเหลือประมาณ 37,430 ตัน” นายสมศักดิ์ กล่าว
ส่วนกุ้งก้ามกรามที่เพาะเลี้ยงในประเทศ นายกสมาคมกุ้งไทย กล่าวว่า ปีนี้ผลผลิตกุ้งก้ามกรามจากการเพาะเลี้ยงจะลดลงกว่าปีที่แล้ว เพราะตั้งแต่กลางปีที่แล้วมีการระบาดของโรคไวรัส 2 ชนิด ทำให้บรรดาโรงเพาะลูกกุ้งได้รับความเสียหาย แม้ล่าสุดรัฐอนุญาตให้นำเข้าพ่อแม่พันธุ์กุ้งก้ามกรามจากต่างประเทศ โรงเพาะฟักบางรายเริ่มฟื้นตัว แต่ส่วนใหญ่ยังแก้ปัญหาการระบาดของไวรัสไม่ได้ ปีนี้จึงคาดว่าจะผลิตได้น้อยลง 10,000 ตัน หรือจะลดลงประมาณร้อยละ 30-40 รวมแล้วปีนี้ทั้งกุ้งจับจากทะเล กุ้งก้ามกราม จะหายไปจากตลาดประมาณ 50,000 ตัน
นายสมศักดิ์ ปณีตัธยาศัย นายกสมาคมกุ้งไทย เผยว่าขณะนี้สถานการณ์การผลิตกุ้งของจีน ประเทศผู้ผลิตกุ้งที่สำคัญของโลก หลังจากมีทีมงานเดินทางไปเยือนจีนเมื่อเร็วๆ นี้ว่า การผลิตกุ้งของจีนมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่ปรวนแปร พายุไต้ฝุ่นกระหน่ำ ฝนตก และเกิดภาวะน้ำท่วมรุนแรง สร้างความเสียหายในหลายพื้นที่ อาทิ เหนือเขตฟู่เจิ้นขึ้นไป ทางใต้จ้านเจียง มณฑลกวางตุ้ง กวางโจว ไห่หนาน ฯลฯ ขณะเดียวกันหลายพื้นที่ก็เกิดภาวะแห้งแล้ง มีอุณหภูมิสูง ภัยพิบัติร้ายแรงที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตกุ้งของจีนด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คาดปีนี้การผลิตกุ้งของจีนลดลงประมาณร้อยละ 10-20 ที่สำคัญส่งผลให้ราคากุ้งสูงมาก ปัจจุบันกุ้งขาวของจีนขนาด 60 ตัว/กก. ราคา 160 บาท/กก. ขณะที่กุ้งขนาดดังกล่าวของไทยปัจจุบันอยู่ที่ 115 บาท/กก. เท่านั้น (ทั้งที่ปกติ เดือนมิถุนายนของปีที่แล้ว ราคากุ้งของจีนที่ขนาดดังกล่าว อยู่ที่ประมาณ 100 บาท/กก. )
“ตอนแรกได้ประเมินไว้ว่า การผลิตกุ้งปีนี้ของจีนมีโอกาสเพิ่มขึ้น แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน สภาพอากาศไม่เป็นใจ เกิดไต้ฝุ่น พายุฝน ฝนตกหนัก น้ำท่วมรุนแรง ทำให้บ่อเลี้ยงกุ้งเสียหายไปไม่น้อย อาจจะเป็นเพราะได้รับอิทธิพลจากลานินญานะครับ นอกจากนี้ข้อมูลกรมอุตุนิยมวิทยาของจีนบอกว่าปริมาณน้ำฝนที่ตกในประเทศเขานั้น หนักมากที่สุดในรอบ 200 ปี เลยทีเดียว ที่สำคัญในประเทศจีนเอง มีความต้องการบริโภคกุ้งเพิ่มขึ้น ขณะที่ผลผลิตลด ตอนนี้เลยกลายเป็นว่า ราคากุ้งในประเทศจีนสูงเป็นประวัติการณ์ 60 ตัว/กก. ราคา 160 บาท/กก. ทั้งที่ปกติเดือนหก ราคากุ้งของจีนควรจะลงแล้ว … เชื่อว่าภาวการณ์เช่นนี้จะทำให้ศักยภาพหรือโอกาสการส่งออกกุ้งของจีนลดลง ซึ่งจะทำให้ความสามารถในการแข่งขันในสินค้ากุ้งของจีนในตลาดกุ้งโลกน้อยลงไปด้วย” นายกสมาคมกุ้งไทย กล่าว
ราคากุ้งขาวแวนนาไม ตลาดกุ้งทะเลไทย มหาชัย วันที่ 28 มิถุนายน 2549 กุ้งขนาด(ตัว/กก.)/ราคา (บาท/กก.) ตามลำดับ ดังนี้ 40/190, 50/135, 60/115, 70/105, 80/100, 90/95 และ 100/90
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ผลผลิตกุ้งไทยเพื่อการส่งออกในปีนี้อาจไม่เป็นไปตามคาด เนื่องจากภาวะวิกฤติน้ำมันแพง ชาวประมงงดออกทะเล ทำให้ปริมาณกุ้งทะเลที่ใช้บริโภคในประเทศจะจับได้ลดลงกว่าร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ประกอบกับกุ้งก้ามกรามมีผลผลิตน้อยลง เพราะไม่สามารถแก้ปัญหาโรคไวรัสระบาดได้ จึงจำเป็นต้องดึงกุ้งขาวมาบริโภคทดแทน ทำให้ผลผลิตกุ้งขาวเพื่อการส่งออกจะน้อยลงไปอีก จากการเลี้ยงที่น้อยอยู่แล้วในปีนี้ โดยเฉพาะในไตรมาส 2
“เรื่องวิกฤติราคาน้ำมันแพงครั้งนี้ นายภูเบศ จันทนิมิ นายกสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ได้ระบุว่าส่งผลกระทบต่อชาวประมงมาก เพราะต้องงดออกเรือจับสัตว์น้ำและจะส่งผลต่อเนื่องถึงปริมาณผลผลิตกุ้งของไทย การบริโภคในประเทศและการส่งออก ซึ่งปี 2548 กุ้งที่จับจากทะเล ประมาณการว่าได้ปริมาณ 74,860 ตัน แต่ปีนี้คาดว่าจะเหลือประมาณ 37,430 ตัน” นายสมศักดิ์ กล่าว
ส่วนกุ้งก้ามกรามที่เพาะเลี้ยงในประเทศ นายกสมาคมกุ้งไทย กล่าวว่า ปีนี้ผลผลิตกุ้งก้ามกรามจากการเพาะเลี้ยงจะลดลงกว่าปีที่แล้ว เพราะตั้งแต่กลางปีที่แล้วมีการระบาดของโรคไวรัส 2 ชนิด ทำให้บรรดาโรงเพาะลูกกุ้งได้รับความเสียหาย แม้ล่าสุดรัฐอนุญาตให้นำเข้าพ่อแม่พันธุ์กุ้งก้ามกรามจากต่างประเทศ โรงเพาะฟักบางรายเริ่มฟื้นตัว แต่ส่วนใหญ่ยังแก้ปัญหาการระบาดของไวรัสไม่ได้ ปีนี้จึงคาดว่าจะผลิตได้น้อยลง 10,000 ตัน หรือจะลดลงประมาณร้อยละ 30-40 รวมแล้วปีนี้ทั้งกุ้งจับจากทะเล กุ้งก้ามกราม จะหายไปจากตลาดประมาณ 50,000 ตัน