xs
xsm
sm
md
lg

เพลย์บอยสนใจผุดรง.ในไทย ปลดแอกภาษีนำเข้าแพงหูฉี่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ล้ำยุค (มิลเลนเนี่ยม 2002) เดินหน้ารุกตลาดเสื้อผ้าหนักปีนี้ อัดงบตลาด 40 ล้านบาท โชว์ยอดขาย 5 เดือนแรกโต 20% จากการนำเข้ายีนส์ 7 แบรนด์ภายใต้ชื่อ "เซเว่น สเต็ป" เผยหากเศรษฐกิจไม่กระเตื้องมีแผนตั้งโรงงานผลิตสินค้าเอง ระบุการเปิดเอฟทีเอจะทำให้สินค้าถูกลง 40% รับมือด้วยการนำเข้าสินค้ามากขึ้น ครึ่งปีหลังเตรียมนำเข้าแบรนด์ใหม่ในกลุ่มเครื่องประดับอีก 10 แบรนด์ ตั้งเป้ายอดขายรวมปีนี้โต 40%

นายวรวุฒิ หวังวรวงศ์
ประธานบริษัทล้ำยุค (มิลเลนเนี่ยม 2002) จำกัด ผู้นำเข้าสินค้าเสื้อผ้าและแฟชั่น อาทิ แบรนด์เพลย์บอย และยีนส์เซเว่น สเต็ป ฯลฯ เปิดเผยว่า กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจปีนี้บริษัทฯเตรียมรุกตลาดมากขึ้น โดยจะเน้นให้ความสำคัญในเรื่องการสื่อสารทางการตลาดและซีอาร์เอ็ม ภายใต้งบการตลาดรวมทั้งปี 40 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามากขึ้นจากปีที่แล้วที่ใช้ไป 30 ล้านบาท หลังจากช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจะเน้นการขยายสาขา ปรับปรุงพื้นที่การขายและการวางจำหน่ายสินค้า เป็นต้น

ส่วนภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของบริษัทฯ ทั้งในแง่ยอดขายโดยในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาพบว่ามีอัตราการเติบโต 20% เนื่องจากการนำเข้ายีนส์ 7 แบรนด์ ภายใต้ชื่อ "เซเว่น สเต็ป (7 Steps)" อาทิ 1921 ยีนส์ , Sacred Blue ยีนส์ที่มีกลิ่นอายดนตรีร็อค แอนด์ โรล เป็นต้น โดยหวังเจาะกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ กลุ่มวัยรุ่น ซึ่งระดับราคาสินค้าจะอยู่ที่ 5,000-1.5 หมื่นบาท

ด้านกำลังซื้อของผู้บริโภคพบว่าลูกค้าของบริษัทฯส่วนใหญ่จะเป็นระดับบนจึงมีกำลังซื้อสินค้าดีอยู่ โดยค่าใช้จ่ายต่อบิลที่ลูกค้าซื้อยังไม่ได้ลดลง หรือความถี่ในการซื้อสินค้าก็ยังเท่าเดิม ปัจจุบันฐานลูกค้าวีไอพีของบริษัทฯมีประมาณ 2,000 ราย และมียอดค่าใช้จ่ายต่อบิลประมาณ 1,500-4,000 บาท

"หากปัญหาเศรษฐกิจยังไม่กระเตื้องขึ้น และภาษีนำเข้าสินค้ากลุ่มเสื้อผ้ายังสูงอยู่ที่ 40% บริษัทฯก็มีแผนลดรายจ่ายต้นทุน อาทิ การหันมาตั้งโรงงานผลิตเสื้อผ้าหรือการ์เมนต์เอง ฯลฯ ส่วนเรื่องการเปิดการค้าเสรีหรือเอฟทีเอระหว่างไทยกับประเทศต่างๆนั้น เชื่อว่าจะทำให้สินค้านำเข้ามีราคาถูกลง โดยปัจจุบันภาษีนำเข้าเสื้อผ้าและกระเป๋ามีประมาณ 40% ส่วนยีนส์ 60% ตรงนี้บริษัทฯมีมาตราการรับมือการเปิดเอฟทีเอแล้ว โดยการนำสินค้าอิมพอร์ตเข้ามาเพิ่มขึ้น เพื่อที่จะได้มาแชร์ส่วนแบ่งการตลาดได้มากขึ้น"

นายวรวุฒิ กล่าวต่อว่า ปัญหาเรื่องการก็อปปี้หรือเลียนแบบสินค้า ตรงนี้ทำให้ยอดรายได้ของบริษัทฯหายไปพอสมควร โดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัดพบมาก เนื่องจากมีสาขาไม่เพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้นบริษัทฯจึงเล็งขยายสาขาเพิ่มในต่างจังหวัดปีหน้า เช่น ที่นครราชสีมาและขอนแก่น เป็นต้น รวมถึงการเริ่มขายส่งสินค้าไปให้ร้านค้าในต่างจังหวัดมากขึ้น เช่น ที่ราชบุรีและสมุทรสาคร ทั้งนี้หากคิดเป็นมูลค่าเงินของสินค้าก็อปปี้พบว่ามีไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

ปัจจุบันสาขารวมทั้งหมดของบริษัทฯมี 14 สาขา หรือ 24 เคาน์เตอร์ เช่น ชิค คลับที่สยามสแควร์,ที่ลาดพร้าว ,ดิ เอ็มโพเรียมและสยาม พารากอน ฯลฯ ในปีนี้บริษัทฯเตรียมเปิดสาขาใหม่ในรูปแบบแฟลกชิพสโตร์ที่เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า บนพื้นที่ 150 ตารางเมตร ภายใต้งบลงทุน 10 ล้านบาท ในส่วนของสินค้าใหม่ๆบริษัทฯเตรียมนำเข้าแบรนด์ใหม่ในกลุ่มเครื่องประดับหรือแอสเซสซอรี่ 10 แบรนด์ จากเดิมมี 10 แบรนด์ เช่น เรด แทงโก้, ซี แองเจิ้ล และเอ็นวายซี เป็นต้น

สำหรับยอดรายได้ทั้งปีนี้บริษัทฯคาดว่าจะเติบโตขึ้นจากปีที่แล้ว 40% แบ่งเป็นยอดรายได้เพลย์บอย คิดเป็นสัดส่วนหลัก 80% โดยในส่วนยอดขายยีนส์เซเว่น สเต็ปบริษัทฯตั้งเป้ายอดสิ้นปีจะเติบโตขึ้น 20% และคาดหวังมาร์เก็ตแชร์ภายใน 1 ปีจะต้องได้ 50% ในตลาดยีนส์พรีเมี่ยมที่มีมูลค่า 300 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น