xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรไทยคาดลูกฟุตบอลไทยจะส่งออกปีนี้ได้กว่า 500 ล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินการส่งออกลูกฟุตบอลของไทยในปีนี้จะมีมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 ขณะที่ลูกฟุตบอลที่ใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ประเทศเยอรมนีผลิตจากประเทศไทย ทำให้ลูกฟุตบอลที่ผลิตจากประเทศไทยได้รับการยอมรับจากทั่วโลกได้มากขึ้น ขณะที่ผลสำรวจคนกรุงเทพฯ พบว่าแฟนฟุตบอลต่างเทใจเชียร์ทีมบราซิลและอังกฤษมากที่สุดในฟุตบอลโลกครั้งนี้

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า ท่ามกลางเสียงเชียร์และการลุ้นผลการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2006 ลูกฟุตบอลจัดว่ามีบทบาทสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าฝีเท้านักเตะระดับโลกและทีมเวิร์กที่แข็งแกร่งของแต่ละประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 การผลิตลูกฟุตบอลเพื่อใช้ในการแข่งขันในมหกรรมฟุตบอลโลกในแต่ละครั้งจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตและดีไซน์ลูกฟุตบอล โดยลูกฟุตบอลที่ใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ตีตรา “ทีมไกซ์ท"(Teamgeist) ปี 2006 ประเทศเยอรมนี Teamgeist แปลว่า “จิตวิญญาณแห่งทีม” โดยฟีฟ่ากำหนดว่าจะต้องใช้ลูกฟุตบอลทั้งหมด 2,880 ลูก ทั้งในการเตรียมตัว การซ้อมและในระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ รวมทั้งคาดว่ายอดจำหน่ายลูกฟุตบอล “ทีมไกซ์ท" นี้จะสูงถึง 10 ล้านลูก เพื่อสนองความต้องการจากทั่วโลก

สำหรับลูกฟุตบอล “ทีมไกซ์ท” ที่ใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลกผลิตในประเทศไทยทั้งหมด ในโรงงานของอาดิดาส ที่จังหวัดชลบุรี โดยโรงงานในไทยจะเป็นผู้ประกอบชิ้นส่วนลูกฟุตบอลในขั้นตอนสุดท้าย คือ การออกแบบทำใน
เยอรมนี จุกสำหรับสูบลมลูกฟุตบอลมาจากอินเดีย หนังเทียมมาจากเกาหลีใต้ และที่บุข้างในลูกฟุตบอลที่ทำจากฝ้ายผลิตในเวียดนาม โดยลูกฟุตบอลทุกลูกพิมพ์ข้างลูกชัดเจนว่า Made in Thailand แสดงให้เห็นว่าโรงงานผลิตลูกฟุตบอลในประเทศไทยมีชื่อเสียงและมาตรฐานการผลิตเป็นที่ยอมรับในระดับโลก ซึ่งโรงงานที่ผลิตลูกฟุตบอลในประเทศไทยในปัจจุบันมีอยู่ 11 โรงงาน เงินลงทุนรวม 760 ล้านบาท

ทั้งนี้ ลูกฟุตบอลเป็นหนึ่งในอุปกรณ์กีฬายอดนิยมสำหรับคนไทย และนอกจากไทยมีการผลิตลูกฟุตบอลสำหรับใช้ในประเทศแล้ว ยังมีการส่งออกไปจำหน่ายยัง 50 ประเทศทั่วโลก โดยปริมาณการส่งออกลูกฟุตบอลในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2549 เท่ากับ 634,686 ลูก มูลค่า 174.09 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนแล้วทั้งปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 30.1 และร้อยละ 125.7 ตามลำดับ ตลาดส่งออกลูกฟุตบอลของไทยกระจายอยู่ทุกภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐ ประเทศในยุโรป เช่น สเปน เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม โปรตุเกส ตลาดในทวีปอเมริกาเช่น เม็กซิโก เวเนซูเอลา เอลซัลวาดอร์ เปรู เอกวาดอร์ ปานามา ฮอนดูรัส คาดว่ามูลค่าการส่งออกในปี 2549 จะสูงถึง 510 ล้านบาท เมื่อเทียบกับในปี 2548 เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.4 และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากได้รับการพัฒนาคุณภาพการผลิตและเร่งส่งเสริมลูกฟุตบอลไทยให้ตลาดต่างประเทศยอมรับมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันก็สามารถผลักดันให้มูลค่าส่งออกลูกฟุตบอลไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่อง หากได้รับการส่งเสริมและพัฒนาอย่างจริงจัง ขณะที่ภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องต้องหันมาสนับสนุนอย่างจริงจังให้มีการใช้ลูกฟุตบอลที่ผลิตในประเทศในการแข่งขันฟุตบอลทุกระดับ รวมทั้งส่งเสริมประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงคุณภาพของลูกฟุตบอลที่ผลิตในประเทศที่ผลิตได้มาตรฐานสากลและเป็นที่ยอมรับของทั่วโลก

ขณะที่ผลการสำรวจ “คนกรุงเทพฯ กับการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2006” ระหว่างวันที่ 1-15 พฤษภาคม และวันที่ 1-16 มิถุนายน 2549 จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 2,160 ชุด เน้นเฉพาะกลุ่มตัวอย่างที่ติดตามชมการแข่งขันฟุตบอลโลก พบว่าบรรดาแฟนฟุตบอลในกรุงเทพฯ ยังเทใจเชียร์บราซิลและอังกฤษ ซึ่งเป็นทีมเต็งในการแข่งขันครั้งนี้ เนื่องจากลีลาการเล่นที่ประทับใจ และผู้เล่นเป็นที่รู้จักของบรรดาแฟนฟุตบอลคนไทย ส่วนผลเสียของฟุตบอลโลกโดยเฉพาะในเรื่องการชักจูงให้มีการเล่นการพนันเป็นเรื่องที่จะต้องมีการปราบปรามกันอย่างจริงจัง ส่วนผลเสียด้านอื่น ๆ นั้นก็ต้องมีการติดตามเช่นกัน โดยเฉพาะปัญหาการก่ออาชญากรรม/โจรกรรม ซึ่งเป็นการเพิ่มภาระให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องปฏิบัติงานสอดส่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทั้งในช่วงระหว่างการแข่งขัน และภายหลังเสร็จสิ้นการแข่งขันแล้ว เพราะอาจเป็นไปได้ว่าผู้ที่เสียพนันฟุตบอลจนเป็นหนี้สินมากมาย

สำหรับ 5 อันดับแรกทีมฟุตบอลในดวงใจคนกรุงเทพฯ ประกอบด้วย บราซิล ร้อยละ 30.6 ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด อังกฤษร้อยละ 29.3 อิตาลี ร้อยละ 5.7 อาร์เจนตินา ร้อยละ 5.5 และเนเธอร์แลนด์ร้อยละ 5.1
กำลังโหลดความคิดเห็น