กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี เตรียมเรียกประชุมคณะกรรมการเรือประจำทางไทยเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่ออนุมัติเรือโดยสารปรับขึ้นค่าโดยสารได้ 1 บาท หลังจากได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งต้นทุนส่วนอื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้น คาดอนุมัติขึ้นค่าโดยสารได้เดือนกรกฎาคมนี้
นายถวัลรัตน์ อ่อนศิระ อธิบดีกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี เปิดเผยว่า จากปัญหาราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนขณะนี้อยู่ที่ลิตรละ 27.54 บาท ส่งผลให้ผู้ประกอบการเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยาได้รับผลกระทบขาดทุนถึงวันละกว่า 20,000 บาท ซึ่งผู้ประกอบการเดินเรือโดยสารได้ทำหนังสือมายังกรมการขนส่งทางน้ำฯ เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อขอปรับขึ้นค่าโดยสารอีกช่วงละ 2 บาท จากเริ่มต้น 6 บาท เพิ่มเป็น 8 บาท และปรับขึ้นทุก ๆ ช่วง สูงสุดไม่เกิน 20 บาท แต่กรมการขนส่งทางน้ำฯ ได้เสนอให้ผู้ประกอบการไปปรับปรุงการบริหารจัดการเดินเรือให้บริการใหม่เพื่อลดต้นทุน เช่น ลดเที่ยววิ่งในช่วงเวลากลางวันจากเดินเรือทุก 10 นาที ก็ขยายเวลาเป็นทุก 30 นาที ส่วนช่วงชั่วโมงเร่งด่วนเช้า-เย็น ให้เดินเรือตามปกติ เพื่อที่จะได้ชะลอการปรับขึ้นค่าโดยสาร
อย่างไรก็ตาม นายถวัลรัตน์ กล่าวว่า แนวทางที่กรมการขนส่งทางน้ำฯ เสนอให้ผู้ประกอบการไปปรับปรุงแก้ไขเพื่อไม่ต้องปรับขึ้นค่าโดยสารนั้น ได้รับรายงานว่า ยังไม่สามารถบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการได้ เพราะนอกจากปัญหาราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้นราคาแล้ว ยังมีเรื่องของต้นทุนอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง เช่น อะไหล่ น้ำมันเครื่องยนต์ และค่าแรงพนักงานได้มีการปรับสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดือนกรกฎาคมนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการเรือประจำทางไทย เพื่อพิจารณาปรับขึ้นค่าโดยสารของเรืออีกครั้ง จากนั้น จะเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา และประกาศใช้ต่อไป ซึ่งคาดว่าอย่างช้าไม่เกินต้นเดือนกรกฎาคมนี้
“ขณะนี้ปัญหาราคาน้ำมันไม่ใช่ปัญหาหลักในการพิจารณาปรับขึ้นค่าโดยสารเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องพิจารณาในส่วนอื่นที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ค่าอะไหล่ ค่าแรง และสึกหรอ ดังนั้น ในการปรับขึ้นค่าโดยสารจึงจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบทั้งผู้โดยสารและผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตาม การอนุมัติขึ้นค่าโดยสารในครั้งนี้คงจะไม่สามารถที่จะอนุมัติให้ถึง 2 บาทได้ จะให้ได้เพียงแค่ 1 บาท เท่านั้น” นายถวัลรัตน์ กล่าว