“สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำรายละเอียดโครงการประกันภัยลูกกตัญญู โดยจะต้องสรุปให้ได้ก่อน 12 ส.ค.นี้ เบื้องต้นจะให้สิทธิ์ลูกที่ซื้อประกันให้พ่อ-แม่ สามารถนำเบี้ยประกันไปหักเป็นค่าลดหย่อนภาษีได้ 10,000-15,000 บาท ขณะเดียวกันก็จะจัดทำรูปแบบการทำประกันภัยพืชผล เพื่อลดความเสี่ยงสำหรับเกษตรกรด้วย

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังร่วมหารือสมาคมประกันวินาศภัยและสมาคมประกันชีวิตไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) กระทรวงการคลัง กรมสรรพากร เพื่อร่วมกันพิจารณา โดยทั้ง 2 สมาคม ยินดีที่จะทำโครงการประกันภัยลูกกตัญญู โดยรูปแบบสถิติผู้สูงอายุมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น จากตัวเลขปัจจุบันมีผู้สูงอายุ 8 ล้านคน และจะมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้นในอนาคต เพราะคนไทยมีอายุยาวนานขึ้น ดังนั้น จึงได้คิดรูปแบบประกันภัยสุขภาพ อุบัติเหตุ และดูแลพ่อแม่ที่ช่วยตัวเองไม่ได้ โดยกรมการประกันภัยจะร่วมกันพิจารณากับทั้ง 2 สมาคม เพื่อจัดทำรูปแบบประกันภัยลูกกตัญญู
ทั้งนี้ กรมสรรพากรได้เห็นชอบรูปแบบการประกันภัยลูกกตัญญูกรณีที่ลูกซื้อประกันภัย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อสุขภาพ อุบัติเหตุ หรือดูแลพ่อแม่ที่ช่วยตัวเองไม่ได้ เมื่อซื้อประกันภัยดังกล่าวให้กับพ่อแม่ ลูกสามารถนำเบี้ยประกันภัยมาหักเป็นค่าลดหย่อนภาษีได้เพิ่มเติมอีก 10,000-15,000 บาทต่อ 1 กรมธรรม์ ซึ่งคาดว่าแนวโน้มการหักเบี้ยลดหย่อนภาษีน่าจะอยู่ที่ 15,000 บาทต่อ 1 กรมธรรม์ โดยรายละเอียดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะไปดำเนินการ แต่จะพยายามให้รูปแบบการประกันดังกล่าวออกมาใช้ให้ทันก่อนวันที่ 12 สิงหาคมนี้ ซึ่งเป็นวันแม่แห่งชาติ
“เป็นเรื่องที่ดี เพราะที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าลูกมักจะซื้อประกันภัยให้กับครอบครัวตัวเอง โดยเฉพาะลูกหรือภรรยา แต่มักจะละเลย หรือจะซื้อประกันให้กับพ่อแม่ในสัดส่วนที่น้อยมาก ดังนั้น จึงได้คิดรูปแบบประกันลูกกตัญญูเพื่อเป็นทางเลือกที่จะช่วยเหลือพ่อแม่และลูกที่จะสามารถเมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือสุขภาพไม่ดีหรือช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ซึ่งจะมีเงินประกันจากการที่ได้ทำประกันภัยไว้มาช่วยแบ่งเบาภาระดังกล่าว โดยปัจจุบันสถิติผู้สูงอายุจะมีจำนวนมากขึ้น จึงน่าจะมีรูปแบบการประกันภัยลูกกตัญญูออกมาใช้ต่อไป” นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด กล่าวอีกว่า นอกเหนือจากการประกันภัยดังกล่าวแล้ว ในส่วนของการประกันภัยหมู่กรณีที่บริษัทเอกชนที่ซื้อประกันภัยหมู่ให้พนักงานและบริษัทได้นำประกันภัยหมู่ไปบวกรวม เพื่อขอหักลดหย่อนภาษี กรมสรรพากรเห็นว่าการประกันภัยหมู่ที่บริษัทได้ทำประกันภัยไว้ไม่ต้องมาบวกรวมการลดหย่อนภาษีดังกล่าวให้กับพนักงาน เพื่อให้พนักงานสามารถนำประกันเหล่านี้ไปลดหย่อนภาษีด้วยตัวเองได้ โดยรูปแบบการหักลดหย่อนจะประกาศหลักเกณฑ์อีกครั้งหนึ่ง
นอกจากนี้ ในส่วนของ ธ.ก.ส.ได้ตกลงในหลักการร่วมกับบริษัทประกันที่จะพิจารณารูปแบบการประกันภัยพืชผล โดยจะเน้นดัชนีภูมิอากาศเป็นตัวคำนวณในการประกันภัยพืชผลให้กับเกษตรกรแต่ละภูมิภาคให้มีความชัดเจนและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และจะลดความเสี่ยงของเกษตรกร โดยขณะนี้ ธ.ก.ส.จะกลับไปคิดรูปแบบร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัยเพื่อประกาศการรับประกันภัยพืชผล ซึ่งเป็นรูปแบบที่ทันสมัยและไม่ซ้ำซ้อนเหมือนช่วงที่ผ่านมา ส่วน ธสน.จะร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัยช่วยเหลือผู้ส่งออกที่จะลงทุนในต่างประเทศและต้องมีหลักประกัน โดย ธสน. ก็มีความพร้อมที่จะเข้าไปรับประกันให้กับภาคธุรกิจที่จะไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งจะเปิดกว้างไปถึงโครงการครัวไทยสู่โลกที่ผู้ประกอบการไทยจะเข้าไปลงทุนทำร้านอาหาร โดย ธสน.มีความพร้อมในการเข้าไปช่วยเหลืออยู่แล้ว
นายสมคิด กล่าวอีกว่า เท่าที่พูดคุยกับสมาคมประกันชีวิตไทย ซึ่งมีกองทุนประกันชีวิตโดยมีเม็ดเงินในกองทุนมากกว่า 500,000 ล้านบาท และจะทำอย่างไรที่จะให้กองทุนดังกล่าวลงทุนระยะยาว นอกจากกองทุนประกันชีวิตแล้วยังมีกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ก็มีวงเงินค่อนข้างสูง แต่ยังขาดการลงทุนระยะยาว และขณะนี้กองทุนตะวันออกกลางสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ดังนั้น จึงต้องการคิดรูปแบบการลงทุนระยะยาวในส่วนของกองทุนต่าง ๆ ให้มีความชัดเจน เพราะกองทุนตะวันออกกลางสนใจลงทุนในไทย แต่ไทยยังไม่มีรูปแบบการลงทุนที่ชัดเจน ซึ่งหากไทยลงทุนระยะยาวที่ชัดเจน เชื่อว่าจะมีกองทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งได้มอบหมายให้สมาคมประกันวินาศภัย และนายอุตตม สาวนายน ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไปเพื่อกำหนดแผนการลงทุนเงินออมระยะยาว เพราะหากมีแผนที่ชัดเจนต่างชาติก็จะเข้ามาลงทุนในกองทุนต่าง ๆ ของไทยมากขึ้นในอนาคต ซึ่งในเร็ว ๆ นี้ ตนมีแผนที่จะเดินทางไปตะวันออกกลาง เพื่อเชิญชวนนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในกองทุนต่าง ๆ ของไทยให้มากขึ้น
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังร่วมหารือสมาคมประกันวินาศภัยและสมาคมประกันชีวิตไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) กระทรวงการคลัง กรมสรรพากร เพื่อร่วมกันพิจารณา โดยทั้ง 2 สมาคม ยินดีที่จะทำโครงการประกันภัยลูกกตัญญู โดยรูปแบบสถิติผู้สูงอายุมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น จากตัวเลขปัจจุบันมีผู้สูงอายุ 8 ล้านคน และจะมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้นในอนาคต เพราะคนไทยมีอายุยาวนานขึ้น ดังนั้น จึงได้คิดรูปแบบประกันภัยสุขภาพ อุบัติเหตุ และดูแลพ่อแม่ที่ช่วยตัวเองไม่ได้ โดยกรมการประกันภัยจะร่วมกันพิจารณากับทั้ง 2 สมาคม เพื่อจัดทำรูปแบบประกันภัยลูกกตัญญู
ทั้งนี้ กรมสรรพากรได้เห็นชอบรูปแบบการประกันภัยลูกกตัญญูกรณีที่ลูกซื้อประกันภัย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อสุขภาพ อุบัติเหตุ หรือดูแลพ่อแม่ที่ช่วยตัวเองไม่ได้ เมื่อซื้อประกันภัยดังกล่าวให้กับพ่อแม่ ลูกสามารถนำเบี้ยประกันภัยมาหักเป็นค่าลดหย่อนภาษีได้เพิ่มเติมอีก 10,000-15,000 บาทต่อ 1 กรมธรรม์ ซึ่งคาดว่าแนวโน้มการหักเบี้ยลดหย่อนภาษีน่าจะอยู่ที่ 15,000 บาทต่อ 1 กรมธรรม์ โดยรายละเอียดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะไปดำเนินการ แต่จะพยายามให้รูปแบบการประกันดังกล่าวออกมาใช้ให้ทันก่อนวันที่ 12 สิงหาคมนี้ ซึ่งเป็นวันแม่แห่งชาติ
“เป็นเรื่องที่ดี เพราะที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าลูกมักจะซื้อประกันภัยให้กับครอบครัวตัวเอง โดยเฉพาะลูกหรือภรรยา แต่มักจะละเลย หรือจะซื้อประกันให้กับพ่อแม่ในสัดส่วนที่น้อยมาก ดังนั้น จึงได้คิดรูปแบบประกันลูกกตัญญูเพื่อเป็นทางเลือกที่จะช่วยเหลือพ่อแม่และลูกที่จะสามารถเมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือสุขภาพไม่ดีหรือช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ซึ่งจะมีเงินประกันจากการที่ได้ทำประกันภัยไว้มาช่วยแบ่งเบาภาระดังกล่าว โดยปัจจุบันสถิติผู้สูงอายุจะมีจำนวนมากขึ้น จึงน่าจะมีรูปแบบการประกันภัยลูกกตัญญูออกมาใช้ต่อไป” นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด กล่าวอีกว่า นอกเหนือจากการประกันภัยดังกล่าวแล้ว ในส่วนของการประกันภัยหมู่กรณีที่บริษัทเอกชนที่ซื้อประกันภัยหมู่ให้พนักงานและบริษัทได้นำประกันภัยหมู่ไปบวกรวม เพื่อขอหักลดหย่อนภาษี กรมสรรพากรเห็นว่าการประกันภัยหมู่ที่บริษัทได้ทำประกันภัยไว้ไม่ต้องมาบวกรวมการลดหย่อนภาษีดังกล่าวให้กับพนักงาน เพื่อให้พนักงานสามารถนำประกันเหล่านี้ไปลดหย่อนภาษีด้วยตัวเองได้ โดยรูปแบบการหักลดหย่อนจะประกาศหลักเกณฑ์อีกครั้งหนึ่ง
นอกจากนี้ ในส่วนของ ธ.ก.ส.ได้ตกลงในหลักการร่วมกับบริษัทประกันที่จะพิจารณารูปแบบการประกันภัยพืชผล โดยจะเน้นดัชนีภูมิอากาศเป็นตัวคำนวณในการประกันภัยพืชผลให้กับเกษตรกรแต่ละภูมิภาคให้มีความชัดเจนและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และจะลดความเสี่ยงของเกษตรกร โดยขณะนี้ ธ.ก.ส.จะกลับไปคิดรูปแบบร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัยเพื่อประกาศการรับประกันภัยพืชผล ซึ่งเป็นรูปแบบที่ทันสมัยและไม่ซ้ำซ้อนเหมือนช่วงที่ผ่านมา ส่วน ธสน.จะร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัยช่วยเหลือผู้ส่งออกที่จะลงทุนในต่างประเทศและต้องมีหลักประกัน โดย ธสน. ก็มีความพร้อมที่จะเข้าไปรับประกันให้กับภาคธุรกิจที่จะไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งจะเปิดกว้างไปถึงโครงการครัวไทยสู่โลกที่ผู้ประกอบการไทยจะเข้าไปลงทุนทำร้านอาหาร โดย ธสน.มีความพร้อมในการเข้าไปช่วยเหลืออยู่แล้ว
นายสมคิด กล่าวอีกว่า เท่าที่พูดคุยกับสมาคมประกันชีวิตไทย ซึ่งมีกองทุนประกันชีวิตโดยมีเม็ดเงินในกองทุนมากกว่า 500,000 ล้านบาท และจะทำอย่างไรที่จะให้กองทุนดังกล่าวลงทุนระยะยาว นอกจากกองทุนประกันชีวิตแล้วยังมีกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ก็มีวงเงินค่อนข้างสูง แต่ยังขาดการลงทุนระยะยาว และขณะนี้กองทุนตะวันออกกลางสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ดังนั้น จึงต้องการคิดรูปแบบการลงทุนระยะยาวในส่วนของกองทุนต่าง ๆ ให้มีความชัดเจน เพราะกองทุนตะวันออกกลางสนใจลงทุนในไทย แต่ไทยยังไม่มีรูปแบบการลงทุนที่ชัดเจน ซึ่งหากไทยลงทุนระยะยาวที่ชัดเจน เชื่อว่าจะมีกองทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งได้มอบหมายให้สมาคมประกันวินาศภัย และนายอุตตม สาวนายน ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไปเพื่อกำหนดแผนการลงทุนเงินออมระยะยาว เพราะหากมีแผนที่ชัดเจนต่างชาติก็จะเข้ามาลงทุนในกองทุนต่าง ๆ ของไทยมากขึ้นในอนาคต ซึ่งในเร็ว ๆ นี้ ตนมีแผนที่จะเดินทางไปตะวันออกกลาง เพื่อเชิญชวนนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในกองทุนต่าง ๆ ของไทยให้มากขึ้น