ผู้ประกอบการเลสิกถอดใจไม่ขยายสาขาเพิ่ม เหตุตลาดเติบโตไม่หวือหวา ขณะที่ผู้ให้บริการที่มีในตลาดมากแล้ว เผยปัจจัยที่ลูกค้าเลือกรับบริการอยู่ที่ความมั่นใจในทีมแพทย์ ระบุธุรกิจนี้ 60% มาจากการบอกต่อของลูกค้า ด้าน TRSC ลุยพัฒนาบริการเพิ่มเจ้าหน้าที่เฉพาะภาษาเป็นรายประเทศ คาดตลาดรวมโต 20% ส่วนศูนย์เลเซอร์วิชั่นปรับปรุงเว็บไซต์เพิ่มภาษาต่างชาติ
นางวนิดา ชันซื่อ กรรมการผู้จัดการ เลสิค เซ็นเตอร์ TRSC เปิดเผยว่า สถานการณ์การแข่งขันของธุรกิจให้บริการเลสิกค่อนข้างแข่งขันรุนแรง โดยเฉพาะตลาดระดับกลางลงไป เนื่องจากเป็นการรักษาแบบทางเลือก ซึ่งหากลูกค้าไม่ให้ความสำคัญก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ตัดสินใจเข้ารับบริการ เพราะมีค่าใช้จ่ายสูงหรือเฉลี่ยประมาณ 50,000 บาท ดังนั้นจึงทำให้ตลาดไม่เติบโตหรือเติบโตน้อย ขณะที่ตลาดบนจะมีการแข่งขันน้อยกว่าเพราะมีผู้ให้บริการน้อยราย อีกทั้งลูกค้ามีกำลังซื้อมากและไม่ถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจเท่ากับตลาดกลางหรือล่าง
สำหรับธุรกิจเลสิกสิ่งสำคัญของการตัดสินใจของลูกค้า คือคุณภาพ และความเชื่อมั่นในตัวบุคลากร หรือแพทย์ผู้ให้การรักษานี้ รองลงมาคือชื่อเสียงของสถาบันผู้ให้บริการ โดยในส่วนค่าบริการของ TRSC จะอยู่ประมาณ 66,000 - 79,000 บาทต่อคน ปัจจุบัน TRSC มี 2 สาขา คือ เลสิคเซ็นเตอร์ TRSC ลุมพินี และต่างจังหวัดให้บริการที่รพ.กรุงเทพภูเก็ต
ในส่วนแผนงานปีนี้ของ TRSC จะเน้นพัฒนาที่คุณภาพบริการ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าตลาดบน อาทิ การจัดเจ้าหน้าที่เฉพาะภาษาเป็นรายประเทศ ทั้งนี้สัดส่วนลูกค้าปัจจุบัน แบ่งเป็นคนไทย 75% และต่างชาติ 25% โดยเกือบ 20% มาจากอเมริกาและอีก 5% เป็นลูกค้าจากยุโรปและสิงคโปร์
ผลประกอบการปีที่ผ่านมาเติบโต 13% โดยให้บริการเลสิกแก่ลูกค้ากว่า 4,000 ดวงตา ปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 12-15% ไตรมาสแรกเติบโต10% ขณะที่ตลาดรวมเลสิคทั้งปีนี้คาดว่าจะเติบโต20%
นางวนิดา กล่าวต่อว่า สภาพเศรษฐกิจไม่ค่อยมีผลกระทบกับธุรกิจเพราะลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ มองว่าการทำเลสิกเป็นเรื่องจำเป็น และใช้เวลาตัดสินใจไม่น้อยกว่า 3-4 เดือนแสดงว่าต้องมีความตั้งใจจริงที่จะทำเลสิก ในส่วนตลาดต่างชาติปัจจุบันค่อนข้างทรงตัว ส่งผลให้ผู้ประกอบการคนไทยที่ทำตลาดอยู่ชะลอการลงทุนเพิ่ม และมุ่งพัฒนาคุณภาพให้ดี
เลเซอร์วิชั่นพัฒนาเว็บไซต์เอาใจต่างชาติ
ด้านนางกนกวรรณ วงศ์ทองศรี ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ศูนย์เลเซอร์วิชั่น รัชโยธิน กล่าวว่า แผนการตลาดปีนี้จะเน้นตลาดในประเทศมากขึ้น เพราะตลาดสามารถขยายฐานลูกค้าได้ต่อเนื่อง ประกอบกับตลาดต่างประเทศซึ่งลูกค้าหลักของเลเซอร์วิชั่น เช่น กลุ่มยุโรป ,มาเลเซียและสิงคโปร์ พบว่าขณะนี้มียอดผู้มาใช้บริการลดลง ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการเมืองทำให้ภาพรวมตลาดลูกค้าต่างประเทศไตรมาสแรกลดลง 15%
"กลยุทธ์การทำตลาดของบริษัทฯเน้นจับมือพันธมิตรจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกัน อาทิ บัตรเครดิตธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) และโรงภาพยนตร์ เอสเอฟเอ็กซ์(SFX)ทำโปรโมชั่นแจกกระเป๋าเดินทาง เป็นต้น โดยบริษัทฯจะทำแคมเปญโปรโมชั่นตลอดปีในช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ เช่น บอลโลก , วันแม่ และวันพ่อ"
นอกจากนี้บริษัทฯยังได้ปรับปรุงช่องทางขายทางเว็บไซต์เป็น 3 ภาษา คือ ไทย อังกฤษ และญี่ปุ่น เพื่อรองรับลูกค้าต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดญี่ปุ่นมีการเติบโตสูง เนื่องจากค่าบริการเลสิกในไทยถูกกว่าที่ญี่ปุ่น30-40%
ด้านผลประกอบการปี 2548 มีการเติบโต 10% โดยให้บริการเลสิกสายตาให้ลูกค้า 2,500 ดวงตา จาก 2 สาขา คือ ที่รัชโยธิน และหาดใหญ่ จ.สงขลา ปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 10% เท่ากับปีก่อน โดยไตรมาสแรกพบว่าเป็นไปตามเป้าหมายคือเติบโต 10% เดือนเมษายนที่ผ่านมาโตมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน
นางวนิดา ชันซื่อ กรรมการผู้จัดการ เลสิค เซ็นเตอร์ TRSC เปิดเผยว่า สถานการณ์การแข่งขันของธุรกิจให้บริการเลสิกค่อนข้างแข่งขันรุนแรง โดยเฉพาะตลาดระดับกลางลงไป เนื่องจากเป็นการรักษาแบบทางเลือก ซึ่งหากลูกค้าไม่ให้ความสำคัญก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ตัดสินใจเข้ารับบริการ เพราะมีค่าใช้จ่ายสูงหรือเฉลี่ยประมาณ 50,000 บาท ดังนั้นจึงทำให้ตลาดไม่เติบโตหรือเติบโตน้อย ขณะที่ตลาดบนจะมีการแข่งขันน้อยกว่าเพราะมีผู้ให้บริการน้อยราย อีกทั้งลูกค้ามีกำลังซื้อมากและไม่ถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจเท่ากับตลาดกลางหรือล่าง
สำหรับธุรกิจเลสิกสิ่งสำคัญของการตัดสินใจของลูกค้า คือคุณภาพ และความเชื่อมั่นในตัวบุคลากร หรือแพทย์ผู้ให้การรักษานี้ รองลงมาคือชื่อเสียงของสถาบันผู้ให้บริการ โดยในส่วนค่าบริการของ TRSC จะอยู่ประมาณ 66,000 - 79,000 บาทต่อคน ปัจจุบัน TRSC มี 2 สาขา คือ เลสิคเซ็นเตอร์ TRSC ลุมพินี และต่างจังหวัดให้บริการที่รพ.กรุงเทพภูเก็ต
ในส่วนแผนงานปีนี้ของ TRSC จะเน้นพัฒนาที่คุณภาพบริการ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าตลาดบน อาทิ การจัดเจ้าหน้าที่เฉพาะภาษาเป็นรายประเทศ ทั้งนี้สัดส่วนลูกค้าปัจจุบัน แบ่งเป็นคนไทย 75% และต่างชาติ 25% โดยเกือบ 20% มาจากอเมริกาและอีก 5% เป็นลูกค้าจากยุโรปและสิงคโปร์
ผลประกอบการปีที่ผ่านมาเติบโต 13% โดยให้บริการเลสิกแก่ลูกค้ากว่า 4,000 ดวงตา ปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 12-15% ไตรมาสแรกเติบโต10% ขณะที่ตลาดรวมเลสิคทั้งปีนี้คาดว่าจะเติบโต20%
นางวนิดา กล่าวต่อว่า สภาพเศรษฐกิจไม่ค่อยมีผลกระทบกับธุรกิจเพราะลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ มองว่าการทำเลสิกเป็นเรื่องจำเป็น และใช้เวลาตัดสินใจไม่น้อยกว่า 3-4 เดือนแสดงว่าต้องมีความตั้งใจจริงที่จะทำเลสิก ในส่วนตลาดต่างชาติปัจจุบันค่อนข้างทรงตัว ส่งผลให้ผู้ประกอบการคนไทยที่ทำตลาดอยู่ชะลอการลงทุนเพิ่ม และมุ่งพัฒนาคุณภาพให้ดี
เลเซอร์วิชั่นพัฒนาเว็บไซต์เอาใจต่างชาติ
ด้านนางกนกวรรณ วงศ์ทองศรี ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ศูนย์เลเซอร์วิชั่น รัชโยธิน กล่าวว่า แผนการตลาดปีนี้จะเน้นตลาดในประเทศมากขึ้น เพราะตลาดสามารถขยายฐานลูกค้าได้ต่อเนื่อง ประกอบกับตลาดต่างประเทศซึ่งลูกค้าหลักของเลเซอร์วิชั่น เช่น กลุ่มยุโรป ,มาเลเซียและสิงคโปร์ พบว่าขณะนี้มียอดผู้มาใช้บริการลดลง ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการเมืองทำให้ภาพรวมตลาดลูกค้าต่างประเทศไตรมาสแรกลดลง 15%
"กลยุทธ์การทำตลาดของบริษัทฯเน้นจับมือพันธมิตรจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกัน อาทิ บัตรเครดิตธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) และโรงภาพยนตร์ เอสเอฟเอ็กซ์(SFX)ทำโปรโมชั่นแจกกระเป๋าเดินทาง เป็นต้น โดยบริษัทฯจะทำแคมเปญโปรโมชั่นตลอดปีในช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ เช่น บอลโลก , วันแม่ และวันพ่อ"
นอกจากนี้บริษัทฯยังได้ปรับปรุงช่องทางขายทางเว็บไซต์เป็น 3 ภาษา คือ ไทย อังกฤษ และญี่ปุ่น เพื่อรองรับลูกค้าต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดญี่ปุ่นมีการเติบโตสูง เนื่องจากค่าบริการเลสิกในไทยถูกกว่าที่ญี่ปุ่น30-40%
ด้านผลประกอบการปี 2548 มีการเติบโต 10% โดยให้บริการเลสิกสายตาให้ลูกค้า 2,500 ดวงตา จาก 2 สาขา คือ ที่รัชโยธิน และหาดใหญ่ จ.สงขลา ปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 10% เท่ากับปีก่อน โดยไตรมาสแรกพบว่าเป็นไปตามเป้าหมายคือเติบโต 10% เดือนเมษายนที่ผ่านมาโตมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน