ท่าอากาศยานไทยเตรียมเสนอคณะกรรมการยกเว้นค่าธรรมเนียมการขึ้นลงท่าอากาศยานภูเก็ต หรือการจัดเก็บค่าแลนดิ้งฟี เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซั่น ในการประชุมวันที่ 21 มิ.ย.นี้ ยอมรับกระทบรายได้บ้าง แต่ถือว่าคุ้มเมื่อเทียบกับรายได้จากการท่องเที่ยว
นายโชติศักดิ์ อาสภวิริยะ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการวันที่ 21 มิถุนายนนี้ ฝ่ายบริหารจะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาอนุมัติยกเว้นการจัดเก็บค่าแลนดิ้งฟี เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางมาท่องเที่ยวไทยในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว หรือโลว์ซีซั่น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง เพราะในช่วงนี้สภาพอากาศของประเทศดังกล่าวร้อนมาก ซึ่งหากคณะกรรมการเห็นชอบจะมีผลในทางปฏิบัติทันที และสิ้นสุดในเดือนกันยายน 2549 นี้เท่านั้น
นายโชติศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการลดค่าแลนดิ้งฟี เป็นหนึ่งในมาตรการที่ใช้จูงใจให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางมาเที่ยวภูเก็ตมากขึ้น เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของไทยที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ส่วนสนามบินอื่น เช่น เชียงใหม่ และเชียงราย ยังไม่มีแผนปรับลดค่าแลนดิ้งฟี เพราะยอดนักท่องเที่ยวที่เดินทางทั้ง 2 จังหวัด ยังมีสัดส่วนที่สูง ขณะที่สนามบินหาดใหญ่ จำนวนผู้โดยสารลดน้อยลงจากปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จังหวัดยะลา นราธิวาส และปัตตานี และสาเหตุที่ไม่มีการปรับลดค่าแลนดิ้งฟี เนื่องจากนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวหาดใหญ่ น้อยกว่าภูเก็ต
“มาตรการดังกล่าว จะนำไปใช้ในช่วงโลว์ซีซั่น ในปี 2550 เช่นกัน โดยจะโรดโชว์ในต่างประเทศทั้งยุโรป สหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ให้ทราบว่าไทยได้ปรับลดค่าแลนดิ้งฟี ให้กับสายการบินที่บินตรงมาที่จังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่ต้นปี 2550 ก่อนที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะไปท่องเที่ยวที่ประเทศอื่น อย่างไรก็ตาม การปรับลดค่าแลนดิ้งฟีครั้งนี้ จะลดให้เฉพาะสายการบินใหม่ที่ไม่เคยเปิดเส้นทางการบินที่สนามบินภูเก็ตมาก่อน” นายโชติศักด์ กล่าว
แหล่งข่าวจาก ทอท. กล่าวว่า การปรับลดค่าแลนดิ้งฟี จะทำให้รายได้ของ ทอท. ลดลงบ้างเล็กน้อย เพราะเป็นการปรับลดในช่วงโลว์ซีซั่นเท่านั้น แต่เชื่อว่าเมื่อเทียบกับรายได้ที่ได้รับจากการท่องเที่ยวถือว่าคุ้ม ซึ่งมาตรการนี้ถือเป็นมาตรการหนึ่งที่จะกระตุ้นการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต
นายโชติศักดิ์ อาสภวิริยะ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการวันที่ 21 มิถุนายนนี้ ฝ่ายบริหารจะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาอนุมัติยกเว้นการจัดเก็บค่าแลนดิ้งฟี เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางมาท่องเที่ยวไทยในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว หรือโลว์ซีซั่น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง เพราะในช่วงนี้สภาพอากาศของประเทศดังกล่าวร้อนมาก ซึ่งหากคณะกรรมการเห็นชอบจะมีผลในทางปฏิบัติทันที และสิ้นสุดในเดือนกันยายน 2549 นี้เท่านั้น
นายโชติศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการลดค่าแลนดิ้งฟี เป็นหนึ่งในมาตรการที่ใช้จูงใจให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางมาเที่ยวภูเก็ตมากขึ้น เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของไทยที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ส่วนสนามบินอื่น เช่น เชียงใหม่ และเชียงราย ยังไม่มีแผนปรับลดค่าแลนดิ้งฟี เพราะยอดนักท่องเที่ยวที่เดินทางทั้ง 2 จังหวัด ยังมีสัดส่วนที่สูง ขณะที่สนามบินหาดใหญ่ จำนวนผู้โดยสารลดน้อยลงจากปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จังหวัดยะลา นราธิวาส และปัตตานี และสาเหตุที่ไม่มีการปรับลดค่าแลนดิ้งฟี เนื่องจากนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวหาดใหญ่ น้อยกว่าภูเก็ต
“มาตรการดังกล่าว จะนำไปใช้ในช่วงโลว์ซีซั่น ในปี 2550 เช่นกัน โดยจะโรดโชว์ในต่างประเทศทั้งยุโรป สหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ให้ทราบว่าไทยได้ปรับลดค่าแลนดิ้งฟี ให้กับสายการบินที่บินตรงมาที่จังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่ต้นปี 2550 ก่อนที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะไปท่องเที่ยวที่ประเทศอื่น อย่างไรก็ตาม การปรับลดค่าแลนดิ้งฟีครั้งนี้ จะลดให้เฉพาะสายการบินใหม่ที่ไม่เคยเปิดเส้นทางการบินที่สนามบินภูเก็ตมาก่อน” นายโชติศักด์ กล่าว
แหล่งข่าวจาก ทอท. กล่าวว่า การปรับลดค่าแลนดิ้งฟี จะทำให้รายได้ของ ทอท. ลดลงบ้างเล็กน้อย เพราะเป็นการปรับลดในช่วงโลว์ซีซั่นเท่านั้น แต่เชื่อว่าเมื่อเทียบกับรายได้ที่ได้รับจากการท่องเที่ยวถือว่าคุ้ม ซึ่งมาตรการนี้ถือเป็นมาตรการหนึ่งที่จะกระตุ้นการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต