กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีขอร้องผู้ประกอบการเรือโดยสารตรึงค่าโดยสารต่อไปอีก 1 เดือน แม้จะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่มาตรการลดราคาน้ำมันดีเซลหน้าสถานีบริการลิตรละ 1 บาท ให้ภาคขนส่ง ไม่ได้ประโยชน์กับเรือโดยสารเต็มที่ ยอมรับหลังพ้น 1 เดือนอาจพิจารณาให้ขึ้นค่าโดยสารได้ แต่จะให้ปรับครั้งละไม่เกิน 1 บาท
นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ อธิบดีกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี เปิดเผยว่า ผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้นขณะนี้ ล่าสุดผู้ประกอบการเรือโดยสาร เช่น เรือด่วนเจ้าพระยา และเรือด่วนคลองแสนแสบ ได้ขอปรับค่าโดยสารอีก 2 บาทต่อระยะ โดยอ้างว่าปัจจุบันต้องประสบภาวะขาดทุนวันละประมาณ 20,000 บาท และได้ทำหนังสือขอปรับราคามาที่กรมฯ แล้ว นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังได้อ้างถึงภาระที่ผู้ประกอบการเรือโดยสารมีมากกว่าระบบขนส่งอื่น ๆ ซึ่งมาตรการช่วยเหลือภาคขนส่งด้วยการลดราคาน้ำมันดีเซลหน้าสถานีบริการอีกลิตรละ 1 บาท ผู้ประกอบการเรือโดยสารต้องเสียค่าใช้จ่ายในการขนส่งประมาณลิตรละ 80 สตางค์ ส่งผลให้ปัจจุบันผู้ประกอบการได้รับเม็ดเงินช่วยเหลือตามมาตรการดังกล่าวเพียงลิตรละ 20 สตางค์เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม กรมการขนส่งทางน้ำฯ ได้ขอร้องผู้ประกอบการให้ช่วยตรึงค่าโดยสารไปอีก 1 เดือน เพื่อลดภาระให้แก่ประชาชน รวมทั้งติดตามทิศทางราคาน้ำมันต่อไปอีกระยะ และระหว่างนี้ให้ผู้ประกอบการได้ลองหาวิธีลดต้นทุนการประกอบการส่วนอื่นไปก่อน และสามารถปรับเที่ยววิ่งให้สอดคล้องกับต้นทุนได้ โดยหลังจากพ้นช่วงเวลาดังกล่าว ขอให้ผู้ประกอบการเรือโดยสารส่งตัวแทนมาหารือกับกรมการขนส่งทางน้ำฯ อีกครั้ง เพื่อจะพิจารณาถึงตัวเลขต้นทุนที่แท้จริง แต่การปรับขึ้นค่าโดยสารนั้นควรปรับขึ้นได้ครั้งละไม่เกิน 1 บาท เนื่องจากผู้บริโภคคงไม่สามารถรับได้ รวมทั้งอาจส่งผลเสียต่อผู้ประกอบการเอง เนื่องจากจะมีผู้ใช้บริการลดลงมาก
นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ อธิบดีกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี เปิดเผยว่า ผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้นขณะนี้ ล่าสุดผู้ประกอบการเรือโดยสาร เช่น เรือด่วนเจ้าพระยา และเรือด่วนคลองแสนแสบ ได้ขอปรับค่าโดยสารอีก 2 บาทต่อระยะ โดยอ้างว่าปัจจุบันต้องประสบภาวะขาดทุนวันละประมาณ 20,000 บาท และได้ทำหนังสือขอปรับราคามาที่กรมฯ แล้ว นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังได้อ้างถึงภาระที่ผู้ประกอบการเรือโดยสารมีมากกว่าระบบขนส่งอื่น ๆ ซึ่งมาตรการช่วยเหลือภาคขนส่งด้วยการลดราคาน้ำมันดีเซลหน้าสถานีบริการอีกลิตรละ 1 บาท ผู้ประกอบการเรือโดยสารต้องเสียค่าใช้จ่ายในการขนส่งประมาณลิตรละ 80 สตางค์ ส่งผลให้ปัจจุบันผู้ประกอบการได้รับเม็ดเงินช่วยเหลือตามมาตรการดังกล่าวเพียงลิตรละ 20 สตางค์เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม กรมการขนส่งทางน้ำฯ ได้ขอร้องผู้ประกอบการให้ช่วยตรึงค่าโดยสารไปอีก 1 เดือน เพื่อลดภาระให้แก่ประชาชน รวมทั้งติดตามทิศทางราคาน้ำมันต่อไปอีกระยะ และระหว่างนี้ให้ผู้ประกอบการได้ลองหาวิธีลดต้นทุนการประกอบการส่วนอื่นไปก่อน และสามารถปรับเที่ยววิ่งให้สอดคล้องกับต้นทุนได้ โดยหลังจากพ้นช่วงเวลาดังกล่าว ขอให้ผู้ประกอบการเรือโดยสารส่งตัวแทนมาหารือกับกรมการขนส่งทางน้ำฯ อีกครั้ง เพื่อจะพิจารณาถึงตัวเลขต้นทุนที่แท้จริง แต่การปรับขึ้นค่าโดยสารนั้นควรปรับขึ้นได้ครั้งละไม่เกิน 1 บาท เนื่องจากผู้บริโภคคงไม่สามารถรับได้ รวมทั้งอาจส่งผลเสียต่อผู้ประกอบการเอง เนื่องจากจะมีผู้ใช้บริการลดลงมาก