เลขาธิการบีโอไอยอมรับเป้าการส่งเสริมการลงทุน 700,000 ล้านบาทปีนี้ลุ้นหนัก เนื่องจากต้องขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ระบุหากการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมหลักทำได้ 500,000 ล้านบาท ก็น่าพอใจแล้ว เชื่อการเมืองจะไม่มีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนต่างชาติ เพราะนโยบายส่งเสริมการลงทุนจะมีผลอย่างต่อเนื่องอยูแล้วในทุกรัฐบาล
นายสาธิต ชาญเชาวน์กุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวถึงการลงทุนในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ท่ามกลางปัญหาสถานการณ์การเมืองว่าระดับการลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลาง ส่วนจำนวนโครงการลงทุนช่วงต้นปีนี้มีประมาณ 400 โครงการ ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีการลงทุนระดับ 400 โครงการเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในช่วงปีที่แล้วมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่เกิดขึ้นจำนวนมาก โดยเฉพาะโครงการขยายการลงทุนของอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งมีตัวเลขการลงทุนสูงกว่า 100,000 ล้านบาท ทำให้มูลค่าการลงทุนในช่วงต้นปีนี้อยู่ในระดับสูง
ส่วนเป้าหมายส่งเสริมการลงทุนในปีนี้ 700,000 ล้านบาทนั้น นายสาธิต กล่าวว่า ขณะนี้บีโอไอพุ่งเป้าการลงทุนไปในกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมี เกษตรแปรรูปและบริการ ซึ่งเป็นฐานการผลิตสำคัญของอุตสาหกรรมในประเทศ ซึ่งหากสามารถลงทุนได้ถึง 500,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายก็น่าพอใจแล้ว เพราะถือว่าขยายตัวได้มากกว่าปีที่แล้ว ขณะที่โครงการขนาดใหญ่บางส่วน การลงทุนจะไม่ได้เกิดขึ้นทุกปี แต่จะขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจของประเทศสนับสนุนรวมทั้งความจำเป็นที่ต้องลงทุน เช่น โครงการโรงงานอุตสาหกรรมเหล็กและท่อก๊าซ
“สำหรับสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นมองว่าไม่น่าจะมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ เพราะไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดไหน แต่นโยบายส่งเสริมการลงทุนของทุกรัฐบาลจะมีอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว” เลขาธิการบีโอไอ กล่าว
นายสาธิต ชาญเชาวน์กุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวถึงการลงทุนในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ท่ามกลางปัญหาสถานการณ์การเมืองว่าระดับการลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลาง ส่วนจำนวนโครงการลงทุนช่วงต้นปีนี้มีประมาณ 400 โครงการ ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีการลงทุนระดับ 400 โครงการเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในช่วงปีที่แล้วมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่เกิดขึ้นจำนวนมาก โดยเฉพาะโครงการขยายการลงทุนของอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งมีตัวเลขการลงทุนสูงกว่า 100,000 ล้านบาท ทำให้มูลค่าการลงทุนในช่วงต้นปีนี้อยู่ในระดับสูง
ส่วนเป้าหมายส่งเสริมการลงทุนในปีนี้ 700,000 ล้านบาทนั้น นายสาธิต กล่าวว่า ขณะนี้บีโอไอพุ่งเป้าการลงทุนไปในกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมี เกษตรแปรรูปและบริการ ซึ่งเป็นฐานการผลิตสำคัญของอุตสาหกรรมในประเทศ ซึ่งหากสามารถลงทุนได้ถึง 500,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายก็น่าพอใจแล้ว เพราะถือว่าขยายตัวได้มากกว่าปีที่แล้ว ขณะที่โครงการขนาดใหญ่บางส่วน การลงทุนจะไม่ได้เกิดขึ้นทุกปี แต่จะขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจของประเทศสนับสนุนรวมทั้งความจำเป็นที่ต้องลงทุน เช่น โครงการโรงงานอุตสาหกรรมเหล็กและท่อก๊าซ
“สำหรับสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นมองว่าไม่น่าจะมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ เพราะไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดไหน แต่นโยบายส่งเสริมการลงทุนของทุกรัฐบาลจะมีอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว” เลขาธิการบีโอไอ กล่าว