xs
xsm
sm
md
lg

"สมชาย บุลสุข" กับหลักการ 3 S ของเสริมสุข

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มีเพียงไม่กี่ตลาดเท่านั้นในโลกนี้ ที่ยักษ์เครื่องดื่มน้ำดำอย่าง"เป๊ปซี่" จะมีชัยชนะเหนือคู่แข่งตลอดกาลอย่างค่ายโค้กได้ และประเทศไทยก็ถือเป็นตลาดหนึ่งในนั้นที่ เป๊ปซี่ กับโค้กขับเคี่ยวกันอย่างดุดันมาตลอด และเป๊ปซี่ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้นำตลาด การทำตลาดของเป๊ปซี่ในช่วงที่ผ่านมาในไทย สะท้อนให้เห็นถึงการวางบทรุกที่ชัดเจน และความเคลื่อนไหวในการที่จะตอกย้ำภาพลักษณ์ตัวเองอย่างต่อเนื่อง นี่เป็นเพียงสิ่งน้อยนิดที่ขับเคลื่อนให้เป๊ปซี่มีสีสันในไทย ในขณะที่กลยุทธ์ผลักดันให้เป๊ปซี่น่าสนใจไม่น้อย ก็คือหัวเรือใหญ่ที่กุมบังเหียนด้านการจัดจำหน่ายอย่างบริษัทเสริมสุข นำโดยนายสมชาย บุลสุข ประธานคณะกรรมการบริหาร ผู้คลุกคลีในธุรกิจนี้มากกว่า 40 ปี

นายสมชาย บุลสุข ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลมเป๊ปซี่ ได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์ของเสริมสุขว่า บริษัทฯมีความมุ่งมั่นในการเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มอย่างครบวงจรในประเทศไทย ดังนั้นแนวทางการบริหารงานภายใต้ทีมงานของเสริมสุขจึงได้ชูหลัก Team Spirit ภายใต้ "3'S" โดย S ตัวแรก คือ สมาร์ท (Smart) ซึ่งแบ่งเป็น 3 แนวทางหลักๆ ได้แก่ การมีเป้าหมายในการทำงานร่วมกัน พัฒนาแนวคิดและแนวทางใหม่ และประการสำคัญคือ สามารถวัดความสำเร็จในการทำงานได้

ส่วน S ตัวที่สอง คือ สไมล์ (Smile) การเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างพนักงานทุกระดับ ทั้งนี้เพื่อสร้างบรรยากาศในการทำงานที่ดี และ S ตัวที่สาม คือ เซอร์วิส (Service) ด้วยการสร้างสังคมเสริมสุขเป็นสังคมบริการ โดยให้บริการแก่ลูกค้าซึ่งถือว่าเป็นบุคคลสำคัญ และประการสำคัญ คือ การสร้างหน่วยงานภายในองค์กรด้วยการให้บริการซึ่งกันและกัน โดยการชูหลัก"3'S" เพราะมองว่าการสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง จะเป็นเกราะกำบังฝ่าฟันปัจจัยลบที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ค่าวัตถุดิบในการผลิต ค่าแรงงาน ค่าไฟ ฯลฯ

"โจทย์ใหญ่ในเวลานี้ คือ ทำอย่างไรถึงจะไม่ให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันถือว่าเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น เราพยายามลดค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อสร้างความสมดุลย์ระหว่างต้นทุนกับกำไรให้ได้ โดยกำไรสุทธิในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาของเสริมสุขลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2547 เหลือเป็น 534 ล้านบาท และล่าสุดเมื่อปีที่ผ่านมาเหลือเป็น 511 ล้านบาท หรือลดลง 4.31%"

นอกจากเสริมสุขต้องผจญกับต้นทุนขนส่งที่เพิ่มขึ้นแล้ว ขณะเดียวกันในฐานะที่เป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลม ยังต้องผจญกับกระแสสุขภาพที่กำลังมาแรง แม้ว่าพฤติกรรมคนไทยในเวลานี้ กระแสสุขภาพจะเป็นแค่แฟชั่นก็ตาม โดย นายสมชาย กล่าวว่า ผมทำงานและคลุกคลีกับวงการน้ำอัดลมมา 40 ปี ตอนนี้ถ้ามีปัญหาอะไรก็ต้องแก้ไขกันไป แต่ไม่อยากให้ทางออกมาเป็นปัญหา แต่ขณะนี้ผมภูมิใจมากกับพนักงานบางคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ในการทำงานที่ดี

สำหรับผลประกอบการปีนี้ เสริมสุขตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 6% จากในปี 2548 มีรายได้ 16,034 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2547 มีรายได้ 14,732 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.84% โดยเป็นการเติบโตเกินเป้าที่บริษัทตั้งเอาไว้ว่าจะโต 6% ซึ่งปีที่ผ่านมากลุ่มน้ำอัดลมยอดขายเติบโต 7% โดยส่วนแบ่งเป๊ปซี่เพิ่มขึ้นจาก 61.5% เป็น 63.5% น้ำดื่มคริสตัลยอดขายโต 40% ส่วนรายได้จากการจัดจำหน่ายคาราบาวแดงโต 10% อย่างไรก็ตามปีนี้คงต้องมาจับตาดูว่า กำไรสุทธิของเสริมสุขจะเพิ่มขึ้นในรอบ 2 ปีหรือเปล่า เพราะความท้าทายปีนี้เรื่องใหญ่ คือ ราคาน้ำมัน
กำลังโหลดความคิดเห็น