เทสโก้โลตัสกระหน่ำสินค้าแบรนด์เนม รุกหนักเฮาส์แบรนด์ เล็งเพิ่มสินค้าเฮาส์แบรนด์อีก 700 รายการหวังเพิ่มสัดส่วนรายได้เป็น 13% ยันไม่มีแนวคิดเปิดร้านขายเฮาส์แบรนด์โดยเฉพาะ ยอมรับ บางตัวก็ยังไม่เวิร์กเช่น ชาเขียว กาแฟ ต้องถอดออกจากร้านไปแล้ว
นายเจฟฟ์ อดัมส์ ประธานกรรมการบริหาร เทสโก้โลตัส ประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้ของสินค้าเฮาส์แบรนด์ของเทสโก้โลตัสในปีนี้เพิ่มเป็น 13% หรือเกือบประมาณ 10,000 ล้านบาท จากรายได้รวมทั้งหมด ซึ่งปีที่แล้วรายได้เฮาส์แบรนด์มีสัดส่วนประมาณ 9-10% โดยมีแผนที่จะเพิ่มรายการสินค้าเฮาส์แบรนด์อีกประมาณ 600-700 รายการในปีนี้ ซึ่งเมื่อปีที่แล้วได้เพิ่มสินค้าเฮาส์แบรนด์เข้ามาขายในสดโตร์ประมาณ 200 รายการ
ปัจจุบันสินค้าเฮาส์แบรนด์ของเทสโก้โลตัส มีครอบคลุมทุกหมวดผลิตภัณฑ์ ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และที่ไม่ใช่อาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า ทุกอย่าง รวมมีวางขายแล้วประมาณ 700 แคธิกลอรี่ รวม 2,200-2,500 รายการ โดยมีทีมงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเฮาส์แบรนด์กว่า 70 คนในการออกวิจัยสำรวจตรวจตราโรงงานผลิตของซัปพลายเออร์ที่รับจ้างผลิตให้
“ในช่วงนี้ สินค้าเฮาส์แบรนด์ได้รับการตอบรับที่ดีมากขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยและค่าครองชีพสูงขึ้น และที่ผ่านมาเราก็ได้พัฒนาสินค้าเฮาส์แบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับได้มากขึ้นด้วย โดยเรายังคงมุ่งเน้นคุณภาพ เป็นหลัก ส่วนราคาเฮาส์แบรนด์ของเราก็มีราคาต่ำกว่าสินค้าแบรด์เนมทั่วไปเกือบ 20% ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการสร้างความแตกต่าง”
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยอมรับว่า มีสินค้าเฮาส์แบรนด์บางประเภทหรือบางแคธิกลอรี่ที่ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จึงต้องมีการพัฒนาและปรับปรุงใหม่เพื่อให้เป็นที่ยอมรับ เช่น กาแฟ ส่วนบางสินค้าได้ถอดออกจากตลาดไปแล้วเช่น ชาเขียวเฮาส์แบรนด์ของบริษัทฯ แต่ก็อยู่ระหว่างการพัฒนาสินใหม่หากได้ผลดีก็อาจจะนำกลับมาขายใหม่ได้
แม้ว่าสินค้าเฮาส์แบรนด์จะขายดีมากก็ตาม แต่บริษัทฯก็ยังไม่มีแนวคิดในการเปิดร้านเพื่อขายสินค้าเฮาส์แบรนด์โดยเฉพาะ ส่วนร้านเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรสนั้นก็จะเป็นสโตร์ที่ขายสินค้าแบรนด์เนมกับเฮาส์แบรนด์ควบคู่กันไป
ล่าสุดบริษัทฯได้เปิดตัวรายการ “สัญลักษณ์บ่งบอกคุณสมบัติสารอาหาร” (Nutritional Signpost) บนบรรจุภัณฑ์สินค้าเฮาส์แบรนด์ภายใต้ตรา เทสโก้ และ คุ้มค่า เพื่อให้ลูกค้ามีข้อมูลในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า ซึ่งจะมีข้อมูลต่างๆเช่น แคลลอรี่ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค ปริมาณไขมันและน้ำตาล ระดับของเกลือโซเดียม ตลอดจนถึงจำนวนคลอเรสเตอรอลและแคลเซียมที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ด้วย พร้อมทั้งยังพิมพ์เครื่องหมายที่ระบุว่าอาหารนั้นเป็นอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทานหรือพร้อมดื่มได้ทันทีหรือไม่อีกด้วย
ขณะนี้มีสินค้าเฮาส์แบรนด์ที่จำหน่ายในร้านเทสโก้ที่มีการจัดพิมพ์สัญลักษณ์ดังกล่าวแล้ว 4 รายการ คือ นมเปรี้ยวพร้อมดื่มไขมันต่ำ รสสตรอเบอรี่ รสส้ม และรสผลไม้รวม ขนาด 800 มล. และแซนด์วิชสเปรดขนาดกระปุกบรรจุ 220 กรัม และคาดว่าภายในสิ้นปี 2550 ผลิตภัณฑ์ของเทสโก้กว่า 1,000 รายการ จะมีสัญลักษณ์บ่งบอกคุณสมบัติอาหารพิมพ์อยู่บนบรรจุภัณฑ์ทั้งหมด รูปแบบดังกล่าวในประเทศอังกฤษได้ดำเนินการมาแล้วประมาณ 2 ปีครึ่ง และได้รับความสำเร็จอย่างดี จึงได้นำแนวคิดนี้มาใช้ในประเทศไทยด้วย
